นักวิเคราะห์คาด เศรษฐกิจสหรัฐฯ ปีหน้า มีแนวโน้มสดใส มองมาตรการภาษีปัจจัยหนุน
นักวิเคราะห์คาด เศรษฐกิจสหรัฐฯ ปีหน้า มีแนวโน้มสดใส มองมาตรการภาษีปัจจัยหนุน
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -30 ธ.ค. 68 15:57 น.
เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มแข็งแกร่งขึ้นอีกในปี 2026 หลังเผชิญกับความผันผวนตลอดปีนี้ คาดว่า ปีหน้าจะมีแรงหนุนจากหลายปัจจัย ได้แก่ มาตรการลดหย่อนภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์, ความไม่แน่นอนด้านภาษีที่ลดลง, การเติบโตอย่างต่อเนื่องของปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในช่วงปลายปีนี้
ขณะเดียวกัน บรรดานักเศรษฐศาสตร์ระบุว่า ปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญที่สุดประการหนึ่งที่นำไปสู่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ คือ มาตรการคืนเงินภาษีและการหักภาษีเงินได้ที่ลดลง ซึ่งคาดว่าจะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภค อันเป็นหัวใจสำคัญของเศรษฐกิจสหรัฐฯ นอกจากนี้
นอกจากนี้ กฎหมาย One Big Beautiful Billของโดนัลด์ ทรัมป์ ยังมอบเครดิตภาษีและมาตรการลดหย่อน ภาษี รวมถึงการให้สิทธิประโยชน์ ด้วยการหักลดค่าใช้จ่ายจากการลงทุนเต็มจำนวน ซึ่งอาจช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายด้านทุนในส่วนอื่น ๆ นอกเหนือจากดาต้าเซ็นเตอร์และโครงการที่เกี่ยวข้องกับ AI
ไดแอน สวองก์ (Diane Swonk) หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก KPMG กล่าวว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียวอาจช่วยเพิ่มการเติบโตของ GDP ในไตรมาสแรก ได้ครึ่งเปอร์เซ็นต์หรือมากกว่านั้น
ขณะเดียวกัน ผลกระทบจากมาตรการภาษีของโดนัลด์ ทรัมป์ ต่อราคาสินค้าคาดว่าจะถึงจุดสูงสุดในช่วงครึ่งปีแรก หากแรงกดดันด้านราคาลดลงอย่างที่เจ้าหน้าที่เฟดเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น โอกาสที่ค่าแรงจะขยับเหนือเงินเฟ้อก็มีโอกาสเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ซึ่งจะส่งผลดีต่อสถานะการเงินของครัวเรือน
ขณะที่การใช้จ่ายของภาคธุรกิจในฝั่งโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับ AI ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2025 คาดว่าจะดำเนินต่อไป โดยบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ อาทิ Amazon และ Alphabet มีแผนลงทุนเพิ่มเติม
สวนในภาพรวมนั้น เศรษฐกิจปี 2025 มีแนวโน้มที่ดีขึ้น แต่ก็อยู่ในโหมด จ้างน้อย-ปลดน้อย (Low-hire, low-fire) เนื่องจากภาคธุรกิจต่างก็ต้องปรับตัวเพื่อรับมือมาตรการการค้าของโดนัลด์ ทรัมป์ และนโยบายปราบปรามผู้อพยพ
ไมเคิล เพียร์ซ (Michael Pierce) นักวิเคราะห์จาก Oxford Economics คาดว่า ความไม่แน่นอนด้านนโยบายจะลดลง อีกทั้งมาตรการลดภาษีและการผ่อนคลายนโยบายการเงินล่าสุดจะช่วยให้เศรษฐกิจแข็งแกร่งขึ้นในปี 2026
ที่มา Reuters
รายงาน โดย Supak Hopuengju เรียบเรียง โดย Supak Hopuengju
อีเมล์. supak@efinancethai.com
ดูข่าวต้นฉบับ