โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

‘สีหศักดิ์’ ย้ำชายแดนยังเปราะบาง ถามกลับ ‘ฮุน มาเนต’ ใครเป็นคนขอหยุดยิง

เดลินิวส์

อัพเดต 30 ธันวาคม 2568 เวลา 19.02 น. • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เดลินิวส์
'สีหศักดิ์' ย้ำ 72 ชม. หลังหยุดยิงยังเปราะบาง พบโดรนเขมรบินว่อน ถามกลับ 'ฮุน มาเนต' ใครเป็นคนขอหยุดยิง หลังเจ้าตัวโพสต์ 'ไม่แพ้' ย้ำยังไม่ใช่เวลาคุยเจบีซีปักปันเขตแดน ทุกอย่างมีขั้นตอน รอรัฐบาลใหม่ ถกตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง ไม่สน 'ฮุน เซน' อ้างไม่ยอมรับพื้นที่ทหารปักธงไทย

เมื่อเวลา 09.43 น. วันที่ 30 ธ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.การต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงผลการประชุม 3 ฝ่ายของจีน ไทย และกัมพูชา ที่มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน ว่า การประชุมครั้งนี้เรามุ่งหมายที่จะให้การหยุดยิงที่มีการตกลงระหว่างกัน เป็นไปอย่างยั่งยืน เพื่อนำไปสู่การไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน หลังจากนั้นเราถึงต้องมาดูความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชา จะเดินหน้ากันต่อไปอย่างไร อย่างไรก็ตามช่วงนี้การหยุดยิงเพิ่งจะตกลงกัน สถานการณ์ก็ยังมีความเปราะบางอยู่ เพราะฉะนั้นเราควรหลีกเลี่ยง อะไรก็ตามที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ยั่วยุ หรือทำให้เกิดความเข้าใจผิด รวมถึงบั่นทอนการหยุดยิง เช่นการปล่อยโดรนเราก็ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริง สำหรับเรื่องถ้อยแถลงระดับผู้นำเราก็ต้องระมัดระวัง เช่น กรณีนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ออกมาพูดว่า "การหยุดการหยุดยิงไม่ได้หมายความว่าฝ่ายกัมพูชาแพ้" เรื่องนี้ก็ทำให้เกิดความเข้าใจผิดกันได้ เราก็ต้องถามกลับไปว่าใครเป็นฝ่ายขอหยุดยิง ตนมองว่าเราควรจะก้าวข้าม เพื่อทำให้การหยุดยิงมีความยั่งยืน สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน

เมื่อถามถึงกรณีตรวจพบโดรนของกัมพูชาเข้ามายังฝั่งไทย 250 ลำ รวมถึงกรณีทหารเหยียบทุ่นระเบิดจะส่งผลกระทบต่อเรื่องนี้หรือไม่ นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า ต้องดูว่าทุ่นระเบิดเป็นของเก่าหรือของใหม่ก็ต้องมีการตรวจ สอบข้อเท็จจริง ประเด็นที่เราต้องพูดคุยกันในการประชุมจีบีซี คือฮอตไลน์ ต้องตรวจสอบเพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด ส่วนประเด็นที่ฝ่ายกัมพูชาพยายามเร่งรัดให้เกิดการประชุมเพื่อปักปันเขตแดนนั้น ก็ต้องบอกว่าผลการประชุมจีบีซียังไม่ได้เข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งเราจะต้องมีผลการพิจารณาตรงนี้ก่อน และในการประชุมเจบีซีนั้นก็ต้องมาดูอีกว่า รัฐบาลรักษาการนั้น ตอนจะประชุมได้แค่ไหน อย่างไร ซึ่งจะมีข้อกฎหมายมีขั้นตอน ไม่ใช่ว่าจะสามารถจัดได้ทันที

"ยืนยันว่าเราไม่ได้ประวิงเวลา แต่ต้องรอผลการประชุมจีบีซีก่อน หลังจากนั้นการประชุมเจบีซีก็จะต้องมีข้อสั่งการจาก ครม. ก่อน เพราะถ้าเป็นนโยบายที่มีผลผูกพันต่อรัฐบาลใหม่ จะต้องมาดูกันอีกทีในแง่ข้อกฎหมาย" รมว.การต่างประเทศ กล่าว

เมื่อถามถึงความชัดเจนในการปล่อยตัวเชลยศึกชาวกัมพูชา 18 คน นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า ตามที่มีการพูดคุยกันคือการปล่อยหลัง 72 ชั่วโมง เพราะฉะนั้นขอย้ำว่า ช่วงนี้การหยุดยิงเราอยากจะเดินหน้า และอยากให้เคารพการหยุดยิง สิ่งที่พูดกันไว้ก็ต้องรักษาคำพูด แต่เรื่องนี้ยังมีความเปราะบางอยู่ ควรหลีกเลี่ยงการกระทำ เหตุการณ์หรือคำพูดใดๆ ที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดเพื่อเดินต่อไปข้างหน้า ส่วนฉากทัศน์หลัง 72 ชั่วโมง หากไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นเราก็เดินหน้า ในการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจเช่น 1.ไม่เกิดการยั่วยุระหว่างชายแดน 2.การเก็บกู้ทุนระเบิด ซึ่งการประชุมเจบีซีจะมีได้ พื้นที่ต้องมีความปลอดภัยก่อน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่จะสร้างบรรยากาศที่ดี

เมื่อถามว่ากระทรวงการต่างประเทศยึดแนวทางทางการอย่างไรกับกัมพูชาในตอนนี้ นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า เราคุยกันได้อยู่แล้ว ถ้าช่วงนี้เกิดเหตุการณ์อะไรก็ต้องมาพูดคุยกัน

เมื่อถามถึงกรณีสมเด็จฮุน เซน อาจจะไม่ยอมรับเขตแดนในพื้นที่ที่ทหารไทยปักธงไทย นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า บริบทเปลี่ยนแปลงไปแล้ว การประชุมเจบีซีถ้ามีขึ้นเมื่อไหร่ก็ต้องพิจารณาจากสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป และมีขั้นตอนของมัน ระยะเวลาอาจจะไปถึงรัฐบาลใหม่ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าท่าทีของรัฐบาลใหม่จะเป็นอย่างไรจะมีการทบทวน MOU 43 หรือไม่

เมื่อถามว่าขณะนี้ประชาชนไทยตามแนวชายแดน ยังไม่เชื่อมั่นว่ากัมพูชาจะไว้ใจได้ นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า การหยุดยิงก็เพื่อให้เกิดความปลอดภัย ความมั่นคงชายแดนและความปลอดภัยของประชาชน ประชาชนของเขาก็อยากกลับไปสู่พื้นที่เดิมของเขา เพราะฉะนั้นจึงเป็นผลประโยชน์ร่วมกัน ที่จะทำให้การหยุดยิงเป็นเรื่องของความยั่งยืนถาวร.

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...