โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

Yes, Chef! ชี้เป้า ‘3 สถาบันสุดเทพ’ เรียนต่อสายเชฟที่ ‘ออสเตรเลีย’ ต่อยอดทำงานได้ยาวๆ

Dek-D.com

เผยแพร่ 08 ก.ค. 2567 เวลา 02.10 น. • DEK-D.com
แนะนำ 3 สถาบันเรียนเชฟที่ออสเตรเลีย + แนวทางการอยู่ทำงานต่อ

Hello!สวัสดีครับชาวDek-Dทุกคน มีใครเล็งการไปเรียนต่อที่ออสเตรเลียกันอยู่บ้าง? ต้องบอกว่าเป็นประเทศที่ฮอตฮิตสุดๆ สำหรับคนไทยที่อยากไปเรียนหรือไปทำงานที่ต่างแดน เพราะนอกจากออสเตรเลียจะขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพชีวิตและโอบรับความหลากหลายแล้ว ยังเหมาะสำหรับคนที่ตั้งใจแพลนไปอยู่แบบยาวๆ หรือต่อยอดการขอ PR ในอนาคตอีกด้วย และหนึ่งในสายอาชีพที่มาแรงสุดๆ ที่ชาวต่างชาติหลายคนมักเลือกเรียนที่ออสฯก็คือ ‘การเรียนทำอาหาร’ (Cookery)นั่นเอง

สำหรับคนไหนที่สนใจงานครัว อยากไปควงตะหลิวเรียนทำอาหารคาว หรือร่อนแป้งเรียนทำเบเกอรีวันนี้ พี่น้ำพุได้รวบรวม 3 สถาบันชั้นนำที่สอนทำอาหารในออสเตรเลีย พร้อมกับหลักสูตรที่น่าสนใจของแต่ละที่มาฝากกันจะมีสถาบันไหนและมีหลักสูตรอะไรน่าเรียนกันบ้าง เราไปดูพร้อมกันเลยครับ~

ทำไมต้องเรียนทำอาหารที่ออสเตรเลีย?

  • ส่วนใหญ่ไม่ต้องมีประสบการณ์มาก่อนก็สามารถเรียนได้
  • ราคาไม่สูงมากเมื่อเทียบกับการเรียนในสายอื่นๆ
  • Visa นักเรียนในออสเตรเลีย (subclass 500)อนุญาตให้สามารถทำงานพาร์ตไทม์ระหว่างเรียนได้ (ปัจจุบันปี 2024 กฎหมายจำกัดจำนวนชั่วโมงการทำงานของนักเรียนต่างชาติไว้ที่48 ชั่วโมงต่อ 2 สัปดาห์)
  • สามารถอยู่ทำงานต่อหลังเรียนเสร็จด้วย ‘วีซ่าหลังเรียนจบ’ (Graduated Visa)
  • หากได้งานทำแล้วอาจได้รับ Sponsor Visa จากที่ทำงาน ให้สามารถอยู่ต่อที่ออสเตรเลียได้เรื่อยๆ จนหมดสัญญาจ้างงาน แถมยังสามารถสะสมชั่วโมงการทำงานเพื่อขอเป็นผู้พำนักถาวร (PR) ของที่นั่นได้อีกด้วย!
  • เชฟเป็นสายอาชีพที่เป็นที่ต้องการสูง โอกาสในการทำงานเพียบ (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับทักษะและความสามารถของแต่ละบุคคลด้วยนะครับ)
  • เงินเดือนค่อนข้างสูงประมาณ AU$70,000 (≈ 1,719,000 บาท) ต่อปี และยังเพิ่มสูงขึ้นได้อีกตามประสบการณ์

Note:อ้างอิงอัตราการแลกเปลี่ยนเงินดอลลาร์ออสเตรเลียเมื่อวันที่ 3 ก.ค. 67

1 AUD = 24.50 บาท

ข้อควรรู้ก่อนการเรียนเชฟที่ออสเตรเลีย

ต้องบอกก่อนว่าการเรียนเชฟในออสเตรเลียแบ่งออกเป็นหลักๆ อยู่ 3 สายได้แก่

  • Commercial Cookery(การทำครัวเชิงพาณิชย์) หรือ เชฟที่ทำงานในครัวทั่วไป มีหลายตำแหน่ง
  • Pastry Chefหรือ เชฟขนมหวาน
  • Baker หรือ เชฟทำขนมปัง

แต่กว่าจะเป็นเชฟในออสเตรเลียได้ เราต้องมีใบ Certificate ที่จะเป็นเครื่องมือการันตีทักษะความรู้และความเป็นมืออาชีพในการทำอาหารของเราเสียก่อน โดยแต่ละสายจะมีข้อกำหนดขั้นต่ำที่แตกต่างกันออกไปในการประกอบอาชีพ ดังนี้

  • เชฟ (Chef) ต้องมีใบ Certificate III และ IV หรือ Diploma ในสาย Commercial Cookery(SIT30813)
  • เชฟขนมหวาน(Pastry chef) ต้องมีใบ Certificate III และ IV หรือ Diploma ในสาย Patisserie(SIT31016)
  • เชฟทำขนมปัง (Baker) ต้องมีใบ Certificate III ในสาย Retail Baking(Bread) (FDF30610)

Note:สำหรับคนที่อยากขอวีซ่าหลังเรียนจบและต่อยอดไปสู่การเป็น PR ต้องเรียนหลักสูตรเหล่านี้ให้ครบ 2 ปี เป็นอย่างต่ำ

………….

1. LE CORDON BLEU

พิกัด: Sydney

แน่นอนว่าถ้าพูดถึงสถาบันทำอาหารที่มีชื่อเสียงระดับโลก หลายคนก็ต้องนึกถึงโรงเรียนเชฟที่มีจุดกำเนิดอยู่ที่ฝรั่งเศสอย่าง ‘เลอร์ กอร์ดอง เบลอ’กันแน่ๆ เพราะการเรียนการสอนเข้มข้นและจริงจังมากอาจารย์ที่มาสอนส่วนใหญ่มีชื่อเสียงและประสบการณ์อย่างโชกโชนในวงการทำอาหาร อีกทั้งทางสถาบันยังมี Facilities ในครัวที่ครบครันและทันสมัยให้นักเรียนทุกคนได้ลองฝึกใช้กันอีก และขึ้นชื่อว่า Le Cordon Bleu ก็เป็นเครื่องการันตีถึงคอนเนกชันในวงการทำอาหารแบบแน่นๆทำให้คนที่จบไปส่วนใหญ่ได้กลายเป็นเชฟชื่อดังหรือไม่ก็ได้ทำงานเจ๋งๆ ในวงการอาหารกันทั้งนั้นครับ

ปัจจุบันโรงเรียนนี้เปิดสอนอยู่หลายสาขาทั่วออสเตรเลีย เช่น Adelaide, Sydney, และ Melbourne และขยายไปประเทศอื่นๆ อีกทั่วโลก (มีมาเปิดสาขาที่ไทยในชื่อ ‘เลอ กอร์ดอง เบอร์ ดุสิต’ ด้วยนะ)

มีทั้งหลักสูตรระยะสั้นและระยะยาว จะเลือกเรียนเป็นสายอาชีพ(Vocational) อนุปริญญา (Diploma) หรือปริญญา(Degree)ก็ได้ แถมหลักสูตรก็ครอบคลุมศาสตร์ในการทำอาหารหลากหลายสาขาอีก ดังนี้

  • Cuisine (การทำอาหาร)
  • Pastry & Confectionery (ขนมอบ & ขนมหวาน)
  • Hospitality Management & Gastronomy (การบริหารจัดการธุรกิจการท่องเที่ยวและการโรงแรม & วิทยาการทำอาหาร)
  • Gourmet & Short Courses (ศิลปะในการทำอาหาร & คอร์สระยะสั้นต่างๆ)

หลักสูตร Diplôme de Cuisine

ใครอยากได้ Diploma หรือวุฒิอนุปริญญาไว้ต่อยอดในสายงาน ห้ามพลาดหลักสูตรนี้เลยครับ เพราะเค้าได้มัดรวมองค์ความรู้และเทคนิคการทำอาหารสไตล์ฝรั่งเศสสุดหรูมาไว้ในคอร์สนี้แบบม้วนเดียวจบ! โดยจะได้เรียนรู้ทักษะการทำอาหารคาวเบื้องต้น ตั้งแต่การจับมีด เตรียมวัตถุดิบ ใช้อุปกรณ์เครื่องครัวต่างๆ ไปจนถึงการจัดจาน นอกจากนี้เรายังจะได้เรียนรู้สูตรและลองทำอาหารฝรั่งเศสที่มีความหลากหลายตั้งแต่ซุป อาหารเรียกน้ำย่อย อาหารจานหลัก และขนมหวานแบบง่ายๆ แถมยังได้ฝึกนำเสนอจานอาหารตนเองรังสรรค์ออกมาให้มีสไตล์และน่าสนใจอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นคอร์สที่ปูพื้นฐานกันแบบแน่นๆ เหมาะสำหรับมือใหม่ที่อยากทำงานด้านอาหารสุดๆ

  • ค่าเล่าเรียนตลอดทั้งคอร์ส:AU$39,476 (≈ 969,429 บาท)
  • ระยะเวลาในการเรียน: 15 เดือน (รวมฝึกงานในร้านอาหารอีก 6 เดือนแล้ว)
  • ผลสอบวัดระดับภาษาที่ใช้ในการสมัคร:IELTS 6.0
  • ใบประกาศนียบัตรที่ได้รับหลักเรียนจบ: Certificate III in Commercial Cookery

*หากเรียนจบแล้วสามารถต่อด้วยคอร์ส Certificat de Chef de Partie Cuisineอีก 1 ปี เพื่อเอาใบประกาศนียบัตร Certificate IV in Kitchen Management หลังจากนั้นจะสามารถขอ Graduated Visa เพื่ออยู่ทำงานต่อได้!*

ดูหลักสูตรนี้เพิ่มเติมเช็กหลักสูตรอื่นๆ ที่เปิดสอน

………….

2. TAFE New South Wales

พิกัด: Sydney

อีกหนึ่งโรงเรียนสอนทำอาหารในซิดนีย์ที่มาแรงไม่แพ้กัน เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นสถาบันชั้นนำในกลุ่มอาชีวศึกษา หรือที่เรียกกันว่าTAFE (Technical and Further Education)ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางในออสเตรเลียและทั่วโลก พูดง่ายๆ คือถ้าจบจากไปก็เหมือนเป็นประตูพาไปสู่โอกาสในการทำงานดีๆ ที่มากขึ้นนั่นเองครับ

จุดเด่นของสถาบันนี้คือการเน้นที่ภาคปฏิบัติเป็นหลัก เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้งานและประสบการณ์ในครัวของจริง (แอบกระซิบว่า ‘เชฟเอียน พงษ์ธวัช’ ก็เรียนจบมาจากด้วยนะ!) ที่สำคัญในหลักสูตร Food and Hospitality เค้าไม่ได้เปิดสอนแค่คอร์สเกี่ยวกับการทำอาหารเท่านั้น แต่ยังมีคอร์สที่เกี่ยวกับการบริการและการจัดการธุรกิจในสายงานด้านอาหารด้วยครับ ตอบโจทย์สำหรับคนที่อยากมีร้านอาหารเป็นของตัวเองสุดๆ

คอร์สทั้งหมดในหลักสูตร Food and Hospitality สามารถแยกออกมาเป็นหมวดหมู่ได้ดังนี้

  • Baking and Patisserie (การอบ & การทำขนม)
  • Cooking (การทำอาหาร)
  • Food Processing (การแปรรูปอาหาร)
  • Food Science and Technology (วิทยาศาสตร์อาหารและเทคโนโลยี)
  • Holiday Parks and Resorts (ฮอลิเดย์พาร์กและรีสอร์ต)
  • Hospitality (การบริการ)
  • Hospitality Management (การบริหารจัดการธุรกิจการท่องเที่ยวและการโรงแรม)
  • Kitchen and Catering Operations (การดูแลจัดการห้องครัวและงานจัดเลี้ยง)
  • Winemaking (การทำไวน์)

หลักสูตร Certificate III in Patisserie

ขอเอาใจคนรักขนมหวานด้วยหลักสูตรเด่นของกันบ้าง~ เพราะคอร์สนี้จะสอนเกี่ยวกับการทำเค้กและขนมหวานต่างๆทำให้เรานำความรู้ตรงนี้ไปต่อยอดในการเป็นเชฟขนมหวาน(Pâtissier)ได้อย่างมั่นใจ ซึ่งเราสามารถเลือกเจาะจงความเฉพาะทางของการทำขนมที่เราสนใจได้ ยกตัวอย่างเช่น การทำขนมปัง ขนมญี่ปุ่น ขนมเอเชีย และขนมเบเกอรีประเภทอื่นๆ

แต่ความปังยังไม่หยุดเท่านั้นเพราะนอกจากความรู้ในการทำขนมแล้ว ยังเน้นสอนสกิลต่างๆ ที่จำเป็นในการทำงานครัว เช่น การรักษาความสะอาด การเป็นผู้นำในครัว หรือการทำงานร่วมกันเป็นทีมอีกด้วย เป็นการฝึกทั้งให้ Hard skills และ Soft skillsให้นักเรียนทุกคนได้คุ้นชินกับสถานการณ์ในห้องครัวของจริงที่อาจจะมีความกดดันสูงนั่นเอง โดยเค้าการันตีว่าจบไปสามารถนำความรู้ไปต่อยอดเปิดร้านขนมของตัวเองหรือจะทำงานในโรงแรม 5 ดาวก็ยังได้!

  • ค่าเล่าเรียนตลอดทั้งคอร์ส: AU$15,480-16,100 (≈ 395,000 บาท)
  • ระยะเวลาในการเรียน: 6 เดือน
  • ผลสอบวัดระดับภาษาที่ใช้ในการสมัคร: IELTS 6.0
  • ใบประกาศนียบัตรที่ได้รับหลักเรียนจบ: Certificate III in Patisserie

*หากเรียนจบแล้วสามารถต่อด้วยคอร์ส Certificate IV In Patisserieอีก 1 ปี เพื่อเอาใบประกาศนียบัตร ที่จะอนุญาตให้เราสามารถทำงานในสาย Pastry Chef และขอ Graduated Visa เพื่ออยู่ทำงานต่อได้!*

ดูหลักสูตรนี้เพิ่มเติมเช็กหลักสูตรอื่นๆ ที่เปิดสอน

………….

3. William Angliss Institute

พิกัด: Melbourne

ปิดท้ายด้วยสถาบัน William Angliss Instituteที่เมลเบิร์น ถือเป็นอีกหนึ่งในโรงเรียนสอนทำอาหารที่เก่าแก่และเป็นที่ยอมรับมากที่สุดในประเทศออสเตรเลีย ก่อตั้งเมื่อปีค.ศ. 1940 และได้ผลิตเชฟมากฝีมือในวงการอาหารมาแล้วนับไม่ถ้วน

จุดเด่นของการเรียนเชฟคือมีการเรียนการสอนที่รวดเร็ว กระชับ และกระฉับกระเฉง(หลักสูตรส่วนใหญ่สามารถเรียนจบได้ภายใน 1 ปี) ทั้งนี้ก็เพื่อเตรียมความพร้อมให้นักเรียนเข้าสู่เส้นทางอาชีพการทำอาหารให้ไวที่สุดนั่นเอง โดยมีทั้งหลักสูตรใบประกาศนียบัตร(Certificate) ไปจนถึงระดับปริญญาตรีกันเลยทีเดียว

หลักสูตรที่เปิดสอนมีดังนี้

  • Patisserie (การทำขนมหวาน)
  • Commercial Cookery (การทำครัวเชิงพาณิชย์)
  • Baking (การทำขนมปัง)
  • Food Science and Technology (วิทยาศาสตร์อาหารและเทคโนโลยี)
  • Meat Processing (การแปรรูปเนื้อสัตว์)
  • Culinary Management (การบริหารจัดการครัว)
  • Food Studies (การศึกษาเกี่ยวกับอาหาร)

หลักสูตร Certificate III In Baking

หลักสูตรทำเบเกอรีสุดปังที่เราจะได้เรียนพื้นฐานอบขนมทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นการอบเค้ก คุกกี้ หรือขนมหวานอีกสารพัดสูตร โดยภาพรวมแล้วจะเน้นไปที่การทำขนมปัง หรือขนมที่ทำมาจากแป้งเป็นหลัก

วิชาที่เปิดสอนมีตั้งแต่การทำแป้งขนมปัง การใช้ยีสต์ การทำขนมปังแบบคาว การทำขนมปังโฮลวีต และอื่นๆ อีกมากมายที่คนรักขนมปังต้องชอบจุดเด่นของคอร์สคือแต่ละคลาสมีขนาดเล็กกะทัดรัด มีนักเรียนไม่มากนัก ทำให้เราได้ดูการสอนทำขนมปังจากครูเชฟอย่างใกล้ชิด แถมอาจยังได้รับการประกบสอนแบบตัวต่อตัวอีกด้วย โดยหลังเรียนจบจะได้รับใบประกาศนียบัตรไปเสริมความปังให้โพรไฟล์ตัวเองครับ

  • ค่าเล่าเรียนตลอดทั้งคอร์ส:AU$20,400 (≈ 500,900 บาท)
  • ระยะเวลาในการเรียน:1 ปี
  • ผลสอบวัดระดับภาษาที่ใช้ในการสมัคร:IELTS 6.0
  • ใบประกาศนียบัตรที่ได้รับหลักเรียนจบ:CERTIFICATE III IN BAKING

*หากเรียนจบแล้วสามารถต่อด้วยคอร์ส Certificate IV In Patisserieอีก 1 ปี เพื่อเอาใบประกาศนียบัตร ที่จะอนุญาตเราก็สามารถทำงานในสาย Pastry Chef และขอ Graduated Visa เพื่ออยู่ทำงานต่อต่อได้*

ดูหลักสูตรนี้เพิ่มเติม

หลักสูตร Diploma Of Food Science And Technology

ขอแถมคอร์สอนุปริญญาสำหรับสาย Food-Sci อีกสักใบ โดยหลักสูตรนี้จะผสมผสานความรู้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเข้ากับการทำอาหาร ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งศาสตร์ที่มีความสำคัญไม่แพ้กับงานเชฟในวงการเลย

โดยเราจะได้นำความรู้วิทย์ๆ และเทคโนโลยีอาหารเข้ามาใช้การรังสรรค์อาหารให้แต่ละจานออกมาอร่อยปลอดภัย มีความสร้างสรรค์และดีต่อสุขภาพกว่าเดิม การเรียนการสอนก็จะมีทั้งการเลกเชอร์ และการเข้าแล็บเพื่อทำการทดลองและลงพื้นที่ทัศนศึกษาจริง โดยอาจารย์ที่สอนในหลักสูตรนี้ส่วนใหญ่ก็เป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านอุตสาหกรรมการผลิตอาหารกันทั้งนั้น เรียกได้ว่าครอบคลุมและเจาะลึกวงการอุตสาหกรรมอาหารกันแบบเน้นๆ เลยครับ

  • ค่าเล่าเรียนตลอดทั้งคอร์ส:AU$17,600 (≈432,200 บาท)
  • ระยะเวลาในการเรียน:1 ปี
  • ผลสอบวัดระดับภาษาที่ใช้ในการสมัคร: IELTS 6.0
  • ใบประกาศนียบัตรที่ได้รับหลักเรียนจบ:Diploma Of Food Science And Technologyดูหลักสูตรนี้เพิ่มเติมเช็กหลักสูตรอื่นๆ ที่เปิดสอน

…………………

เส้นทางการอยู่ทำงานต่อด้วย ‘วีซ่าหลังเรียนจบ’

เกริ่นไปก่อนหน้าแล้วว่าหลังจากเรียนหลักสูตรเชฟจนจบ 2 ปีและได้ใบ Certificate แล้วเราสามารถขอออกวีซ่าเพื่ออยู่ต่อชั่วคราว (Subclass 485 Visa)ได้ การถือวีซ่านี้ทำให้เราสามารถอยู่ทำงานต่อที่ออสเตรเลียได้อีก 18 เดือนโดยมีค่าใช้จ่ายในการออกวีซ่าอยู่ที่ AU$ 1,945.00 (≈47,800 บาท)เมื่อได้วีซ่าแล้วควรใช้เวลาเกือบ 2 ปีนี้ในการเก็บเกี่ยวประสบการณ์การทำงานให้มากที่สุด// อาจหา Sponsor ที่จะสนับสนุนเราในการออกวีซ่าทำงานไปพลางๆ ด้วยก็ได้

เงื่อนไขในการสมัครวีซ่าหลังเรียนจบ (Subclass 485 Visa) มีดังนี้

  • ต้องอายุไม่เกิน 35 ปี
  • ผ่านการเรียนในหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับสายอาชีพที่ออสเตรเลียมาอย่างน้อย 2 ปี
  • มีผลสอบ IELTS Overall 6.0 ด้วย
  • ผ่านการทำ Provisional Skill Assessment ผ่าน Trade Recognition Australia(TRA)รายละเอียดเกี่ยวกับการทำวีซ่า

หลังจากได้วีซ่านี้แล้วจะเข้าร่วม Job Ready Program(โครงการประเมินทักษะการจ้างงาน) ของ TRA ที่จะช่วยประเมินและเตรียมความพร้อมเราให้มีคุณสมบัติเหมาะสมในการทำงานและอยู่ในออสเตรเลียต่อไป

เมื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์การทำงานจนชั่วโมงครบ ก็จะก้าวเข้าสู่ขั้นตอนการสมัครเป็น PRต่อไป ซึ่งก็ทำได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งการขอสปอนเซอร์จากนายจ้างในที่ทำงานในการออกวีซ่าให้ หรือใช้แต้มคะแนนของเราเองเพื่อการสมัคร Skilled Visaต่างๆ ขอบอกว่าเรื่องแต้มนี้สำคัญมาก เพราะยิ่งแต้มสูงโอกาสในการสมัครก็จะสูงตามไปด้วย ซึ่งแต้มนั้นคิดคำนวณจากปัจจัยที่หลากหลาย เช่น คะแนนสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ วุฒิการศึกษาที่เราเรียนจบมาที่ออสเตรเลีย อายุ และอื่นๆ

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Job Ready Programข้อมูลเพิิ่มเติมเกี่ยวกับ PR Australia

………….

เป็นยังไงกันบ้างครับกับแต่ละสถาบันที่ยกมา เป็นตัวตึงด้านเชฟกันทั้งนั้นเลย ในตอนนี้ออสเตรเลียเป็นประเทศที่เหมาะมากๆ สำหรับคนที่อยากไปเรียนและย้ายไปอยู่ต่อหลังเรียนจบ แถมตอนนี้อาชีพเชฟก็กำลังเป็นที่ต้องการมากๆ ในตลาดงานอีกด้วยถ้าหากใครอยากเรียนคอร์สหรือสถาบันไหนก็อย่าลืมศึกษาข้อมูลทั้งเรื่องการสมัครเรียนและเรื่องรายละเอียดวีซ่านักเรียนอย่างถี่ถ้วนด้วยนะครับ(เพราะบางทีอาจจะมีอัปเดตแบบปีต่อปีและมีความซับซ้อนในบางจุด) ส่วนคนที่สนใจ 3 สถาบันสอนทำอาหารที่พี่มาเปิดวาร์ป ก็สามารถเข้าไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมด้วยตัวเองในแต่ละเว็บไซต์ด้านล่างนี้ได้เลยครับ~

Le Cordon BleuTAFE NSWWilliam Angliss Institute

………….

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...