โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

ย้อนรอย "บอมบา" ช่วงหนังโป๊เฟื่องฟูสุดขีดในฟิลิปปินส์ ถึงชะตาดาวเด่นที่จบไม่สวย

ศิลปวัฒนธรรม

อัพเดต 23 ธ.ค. 2565 เวลา 03.32 น. • เผยแพร่ 22 ธ.ค. 2565 เวลา 03.17 น.
(ซ้าย) โปสเตอร์ภาพยนตร์ The Victim (1982) / (ขวา) โปสเตอร์ภาพยนตร์ Room 69 (1985)

สำหรับเหล่าผู้สนใจศึกษา “หนังผู้ใหญ่” (หรืออาจเรียกกันตรงๆ ว่า “หนังโป๊” นี่แหละ) คงคุ้นเคยกับหนังจากญี่ปุ่นหรือมหาอำนาจจากตะวันตก แต่หากมองไปที่เพื่อนบ้านอย่างฟิลิปปินส์ ในยุค 70s-80s เป็นช่วงที่ผลิต “หนังวาบหวิว” กันแพร่หลาย แม้ว่าจะเป็นที่รับรู้กันว่าเป็นประเทศที่มีผู้เคร่งศาสนากันพอสมควร

หนังโป๊ที่แพร่หลายและโด่งดังในฟิลิปปินส์ช่วงนั้นเรียกกันว่า “บอมบา” (Bomba) บทความออนไลน์จาก South China Morning Post บรรยายว่า เป็นคำที่มาจากคำว่า “bold” แปลโดยคร่าวมาเป็นคำไทยอาจใกล้เคียงกับการสื่อความว่า “อื้อฉาว” ลักษณะของหนังปลุกใจกลุ่มนี้ผสมผสานระหว่างหนังโป๊ซอฟต์คอร์ (Soft-core) กับฮาร์ดคอร์ (Hard-core) ขณะที่ดาราผู้แสดงในหนังชนิดนี้ก็กลายมาเป็นคนดังที่ดันถ่ายภาพขึ้นปกนิตยสารและสื่อสิ่งพิมพ์กระแสหลักในประเทศได้ด้วย

ช่วงยุค 70s-80s รายงานข่าวเผยว่า หนังโป๊ที่เรียกกันว่า “บอมบา” ผลิตกันหลายร้อยเรื่องทีเดียว มีชื่อเรียกตั้งแต่ “จุดสุดยอดของความรัก” (Climax of Love), ภรรยาผู้ไม่ซื่อสัตย์ (Unfaithful Wife), ราตรีแห่งพฤศจิก (Scorpio Nights) และ ทาสขาว (White Slavery) ซึ่งหนังเหล่านี้ล้วนถูกโบสถ์คาทอลิกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง อย่างไรก็ตาม ดาราที่มีชื่อเสียงจากหนังโป๊ประเภทนี้มีชื่ออย่าง “Yvonne”, แอนนา มารี กูตีร์เรซ (Anna Marie Gutierrez) และเป๊ปซี พาโลมา (Pepsi Paloma) ชื่อจริงคือเดเลีย สมิธ [Delia Smith]) ล้วนกลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตชาวฟิลิปปินส์ในช่วงนั้นไป

ผู้คนต่างจ่ายเงินราคาถูกเพื่อแลกกับความบันเทิงในโรงภาพยนตร์ รายงานข่าวเผยว่ากลุ่มผู้ชมมักเป็นนักเรียนและคนที่สนใจภาพยนตร์ทั่วไป ไปจนถึงชายหนุ่มที่ต้องการความตื่นเต้นในราคาที่เข้าถึงได้ แม้ว่าคุณภาพการผลิตของหนังเหล่านี้จะ “ย่ำแย่” ก็ตาม บางเรื่องที่ฉายในโรงภาพยนตร์แค่ตัดฉากเพศสัมพันธ์วาบหวิวซึ่งถูกตัดทอนจากระเบียบการเซ็นเซอร์เรื่องอื่นมาทำเป็นเรื่องใหม่ บางเรื่องมีฉากเซ็กซ์มาตอนสุดท้ายเหมือนเป็นโบนัส (จากการที่ต้องทนชมมาตลอดก็ว่าได้)

เนื้อเรื่องที่เป็นมาตรฐานสำหรับ “บอมบา” ส่วนใหญ่จะมุ่งเล่าเกี่ยวกับผู้หญิงที่ถูกล่วงละเมิด ไม่ว่าจะเป็นการข่มขืนหรือล่วงละเมิดทางเพศ ผู้หญิงในเรื่องถูกฉายภาพเป็นเหยื่อซะเป็นส่วนมาก หากไม่เป็นในกรอบที่กล่าวข้างต้น ก็อาจฉีกเป็นหญิงห้าว ผู้กล้าแหวกม่าน หรือเป็นโสเภณีที่ทุกข์ทรมานเพราะพวกเธอทำให้สังคมที่ชายเป็นใหญ่สั่นคลอน

หนังโป๊ชนิดนี้เริ่มเสื่อมความนิยมลงเมื่อมีเทคโนโลยีอย่างวิดีโอเข้ามาในช่วงยุค 90s บทความเรื่อง “บอมบา : จุดกำเนิดแห่งยุค” ( Bomba: The Birth of a Genre) โดยลุยจิ คอนติ (Luigi Conti) วิเคราะห์ว่า ที่หนังปลุกใจกลุ่มนี้เป็นที่นิยมในฟิลิปปินส์ได้นั้น มีสาเหตุจากหลายปัจจัย หนึ่งในนั้นคือการปฏิวัติแนวคิดเรื่องทางเพศในช่วงต้นยุค 60s มาจนถึงต้นยุค 70s ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก เมื่อผนวกเข้ากับระเบียบเรื่องการควบคุมเนื้อหาในฟิลิปปินส์ที่เริ่มผ่อนคลายลงในปี ค.ศ. 1967 ก็เป็นเครื่องเสริมกำลังเข้าไปอีก

รายงานข่าวเผยว่า ในช่วงยุค 60s คุณภาพหนังเหล่านี้ไม่ค่อยดีนัก ผู้กำกับภาพยนตร์ในฟิลิปปินส์ช่วงนั้นพยายามผลิตหนังด้วยต้นทุนต่ำและผลิตให้เร็ว มีตัวอย่างคือภาพยนตร์แอ็กชั่นแนวสายลับแบบ “เจมส์ บอนด์” จากฮอลลีวูด ขณะที่กรอบประเพณีเรื่องทางเพศในฟิลิปปินส์ก็เริ่มผ่อนคลายลงด้วย เห็นได้จากภาพถ่ายของดารานักแสดงที่เริ่มออกแนวหวือหวาทางเพศมากขึ้น

หนังเรื่องที่เป็นจุดออกสตาร์ทของยุค “บอมบา” คาดว่าคือเรื่อง “Uhaw” ในยุค 70s รายงานข่าวจากสื่อดังนิยามผลงานชิ้นนี้ว่าเป็น “หนังโป๊” ประเภทซอฟต์คอร์ เล่าเรื่องเกี่ยวกับผู้หญิงที่มีพฤติกรรมสำส่อนทางเพศหลังจากสามีของเธอกลายเป็นคนสิ้นสมรรถภาพทางเพศเพราะประสบอุบัติเหตุทางทะเล คอนติ เล่าว่า ภาพยนตร์ค่อยๆ ไต่ระดับเรื่องโดยเริ่มจากการกระตุ้นอารมณ์ แล้วค่อยเพิ่มดีกรีด้วยภาพเสื้อเปียกน้ำบนเรือนร่างนักแสดง แล้วค่อยมีเนื้อหาแบบหนังโป๊แบบซอฟต์คอร์

หนังบางเรื่องที่ประสบความสำเร็จมีชื่ออย่าง ราตรีแห่งพฤศจิก (Scorpio Nights) ในปี 1985 นำแสดงโดยกูตีร์เรซ ซึ่งรายงานข่าวเผยว่า หนังเรื่องนี้กลายเป็น “หนังคัลท์” (Cult) แบบย่อมๆ ไปด้วย

เมื่อมาถึงช่วงกลางยุค 80s ราว 1983-1986 “บอมบา” เริ่มมีเนื้อหาออกเป็นฮาร์ดคอร์มากขึ้นกระทั่งคอราซอน อากีโน (Cory Aquino) ขึ้นเป็นประธานาธิบดีเมื่อปี 1986

นักแสดงที่เป็นที่กล่าวขานกันต่อมามีชื่ออย่าง เป๊ปซี พาโลมา นักแสดง-นักเต้นลูกครึ่งอเมริกัน-ฟิลิปีโน (ค.ศ. 1966-1985) เธอแสดงในภาพยนตร์อย่าง The Victim (1982) และ Room 69 (1985) เธอเริ่มเข้าสู่วงการแผ่นฟิล์มตั้งแต่อายุ 14 ปี แต่ช่วงเวลาที่อยู่ในวงการก็ไม่นานนัก มีรายงานว่า เธอถูกพบว่าฆ่าตัวตายอยู่ในที่พักส่วนตัว สาเหตุของการเสียชีวิตมีหลากหลาย ทั้งความเชื่อมโยงกับนักแสดงในวงการ ปัญหาการเงิน หรือแม้แต่ความสัมพันธ์กับแม่ของเธอ แต่ปมที่หลายคนคิดว่ามีน้ำหนักคือความเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ที่เธอถูกข่มขืนเมื่อ 1982

ก่อนหน้าที่พาโลมา เสียชีวิตไม่กี่สัปดาห์ จูเลีย เวกา (Julia Vega) นักแสดงสาวอีกรายก็เสียชีวิตขณะอายุไม่ถึง 20 ปีด้วยซ้ำ

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่

อ้างอิง :

SCMP Reporter. “When ‘bomba’ sex films were a staple of Philippine cinemas and their female stars graced magazine covers”. South China Morning Post. Online. 17 FEB 2019.

Filipiknow. “The Life and Curious Death of Pepsi Paloma”.

เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 18 กุมภาพันธ์ 2562

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...