"ยศชนัน" กราบสมเด็จพระพุฒาจารย์ ส่งสัญญาณเพื่อไทยอุปถัมภ์–คุ้มครองพุทธศาสนา ปูยุทธศาสตร์เลือกตั้ง 2569
ที่วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร นายยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่เพื่อช่วยนพ.ญาณกิตติ์ ห่วงทรัพย์ ผู้สมัครสส.กทม. เขต 1 เบอร์ 8 หาเสียง โดยระหว่างที่กำลังเดินเข้ามายังวัดไตรมิตรฯ ได้มีพระสงฆ์จากวัดภายนอก นำเหรียญนารายณ์ทรงครุฑ คล้องคอให้นายยศชนัน พร้อมให้พร
ต่อมาคณะ เข้ากราบนมัสการสมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญโญ) เจ้าคุณเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม โดยท่านสมเด็จพระพุฒาจารย์ ได้ให้พรนายยศชนันว่า ขอให้ตั้งใจทำงานเพื่อประชาชน และประเทศ ให้เจริญรุ่งเรือง พร้อมกับมอบพระผง หลวงพ่อทองคำ ให้กับนายยศชันและคณะ ก่อนที่จะขึ้นไปสักการะพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร (พระพุทธรูปทองคำสุโขทัยไตรมิตร)
จากนั้นคณะเดินทางไปยังสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ (เจ้าแม่กวนอิม) ซึ่งนายยศชนันได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวว่า “ได้ขอพลังในการที่จะสู้เพื่อพี่น้องประชาชนทุกคน ขอให้พรรคเพื่อไทย ได้ทั้งคนได้ทั้งพรรค และตั้งรัฐบาลได้อย่างมีเอกภาพ” เมื่อผู้สื่อเอ่ยแซวว่า แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ในอดีตก็เคยมาไหว้สักการะ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่มูลนิธิเทียนฟ้า ก่อนเลือกตั้งและได้เป็นนายกรัฐมนตรี นายยศชนัน ยิ้มและกล่าวว่า “ขอบคุณครับ”
จากนั้นนายยศชนันและคณะ ได้เดินทักทายพี่น้องประชาชนรวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่ได้เดินทางมาท่องเที่ยวถนนเยาวราช และได้ชิมอาหารร้านดัง อาทิ ร้านข้าวต้มปลา เจ้าเก่าแปลงนาม ร้านอาอี๊ หวานเย็น เป็นต้น ซึ่งร้านอาหารเหล่านี้ถือว่าเป็นซอฟต์พาวเวอร์ด้านอาหารของไทย บนถนนเยาวราช ขณะเดียวกันยังได้ทักทายเพื่อนสมัยโรงเรียนสวนกุหลาบที่เป็นเจ้าของร้านผลไม้ และเดินทักทาย พ่อค้าแม่ค้าจนสุดถนนเยาวราชก่อนเดินทางกลับ
นายยศชนัน ให้สัมภาษณ์ภายหลังการลงพื้นที่ว่า จากที่ตนได้เยี่ยมชมบรรยากาศของถนนเยาวราช การที่จะพลิกฟื้นเศรษฐกิจในกรุงเทพมหานครนั้น ก็ต้องได้รับความช่วยเหลือจากหลายภาคส่วน เราก็อยากที่จะนำเสนอวัฒนธรรมต่างๆ ของประเทศไทย เพื่อที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามา
เมื่อถามถึงกรณีที่เขตใจกลางเมืองเป็นพื้นที่พรรคเพื่อไทยจะตียาก นายยศชนัน กล่าวว่า จากที่ตนเดินสัมภาษณ์บรรยากาศมา ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ผู้สมัครทำพื้นที่ตรงนี้มาอย่างยาวนาน บวกกับนโยบายที่อยากให้ระบบคมนาคม ระบบขนส่งดีขึ้น ให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามา ก็จะเพิ่มรายได้ให้กับคนในพื้นที่ คิดว่าน่าจะชนะใจ และทำให้ปีหน้าเป็นปีแห่งความหวังของทุกคนได้
อย่างไรก็ตามการเข้าพบครั้งนี้ถูกจับตาในเชิงการเมือง เนื่องจากเกิดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศการเตรียมการเลือกตั้งทั่วไปปี 2569 และสะท้อนทิศทางนโยบายของพรรคเพื่อไทยที่ประกาศชัดถึงการ “อุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนา” ควบคู่กับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมในยุคใหม่
แหล่งข่าวทางการเมืองประเมินว่า การเลือกวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร ซึ่งเป็นศูนย์กลางอำนาจการปกครองคณะสงฆ์สายมหานิกายในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร หรือ “หลวงพ่อทองคำ” มีนัยยะเชิงสัญลักษณ์ทางการเมืองอย่างชัดเจน ทั้งในมิติศรัทธา อำนาจทางจิตวิญญาณ และภาพแทนความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ
รายงานวิเคราะห์ระบุว่า พรรคเพื่อไทยภายใต้การนำของนายยศชนัน กำลังวางยุทธศาสตร์ “ประนีประนอมใหม่” ผสานภาพลักษณ์ความเป็นเทคโนแครตสมัยใหม่เข้ากับจารีตนิยมทางศาสนา เพื่อสร้างความชอบธรรมทางการเมือง และรักษาฐานเสียงในภาคอีสานซึ่งถือเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญของพรรคมาโดยตลอด
ในเชิงนโยบาย พรรคเพื่อไทยนำเสนอแนวคิด “เศรษฐกิจศรัทธา” ใช้ศาสนา วัฒนธรรม และการท่องเที่ยวเชิงจิตวิญญาณ เป็นหนึ่งในกลไก Soft Power เพื่อสร้างรายได้ กระจายเศรษฐกิจสู่ชุมชนรอบวัด ควบคู่กับการสนับสนุนบทบาทวัดในฐานะศูนย์กลางสวัสดิการ สังคม และการฟื้นฟูศีลธรรม
ขณะเดียวกัน พรรคเพื่อไทยเลือกแนวทางอุปถัมภ์พระพุทธศาสนาโดยไม่แตะต้องโครงสร้างการปกครองคณะสงฆ์ แตกต่างจากบางพรรคการเมืองที่เสนอการปฏิรูปเชิงโครงสร้างอย่างเข้มข้น โดยมุ่งเน้นบทบาทรัฐในฐานะผู้สนับสนุนและอำนวยความสะดวก มากกว่าการตรวจสอบหรือแทรกแซง
นักวิชาการด้านการเมืองมองว่า การปรากฏตัวของนายยศชนันในบทบาทผู้นำรุ่นใหม่ของพรรคเพื่อไทย ซึ่งไม่มีประวัติความขัดแย้งด้านศาสนาโดยตรง ช่วยลดแรงต้านจากกลุ่มอนุรักษ์นิยม และเปิดพื้นที่ให้พรรคสามารถเชื่อมโยงกับสถาบันสงฆ์ได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม ความท้าทายสำคัญของพรรคเพื่อไทย คือการรักษาสมดุลระหว่างภาพลักษณ์ความทันสมัยด้านเทคโนโลยี เศรษฐกิจใหม่ และ AI กับการยึดโยงศรัทธาทางศาสนา เพื่อไม่ให้ถูกวิพากษ์ว่าเดินเกมการเมืองแบบย้อนแย้ง
ทั้งนี้ เหตุการณ์เข้ากราบสมเด็จพระพุฒาจารย์ ณ วัดไตรมิตรฯ ในวันสิ้นปี ถูกมองว่าเป็น “แถลงการณ์ทางการเมืองฉบับเงียบ” ของพรรคเพื่อไทย ที่ต้องการสื่อสารว่า ประเทศไทยสามารถก้าวไปข้างหน้าด้วยความทันสมัย โดยไม่ทิ้งรากเหง้าทางศาสนาและวัฒนธรรม อันเป็นหัวใจสำคัญของสังคมไทย