โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

ไทย-เขมร แถลงการณ์ร่วมจีบีซี ตกลงหยุดยิง จับตา 72 ชม.แลกปล่อยเชลย

MATICHON ONLINE

อัพเดต 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ไทย-เขมร แถลงการณ์ร่วมจีบีซี ตกลงหยุดยิง จับตา 72 ชม.แลกปล่อยเชลย หวังอี้ ถก สีหศักดิ์-ปรักสุคน ต่อยอดสร้างสันติภาพยั่งยืน

เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางถึงที่ด่านถาวร บ้านผักกาด อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี เพื่อเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยพิเศษ ครั้งที่ 3/68 ที่ค่ายเทวาพิทักษ์ หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานนาวิกโยธิน โดยฝ่ายกัมพูชา มี พล.อ.เตีย เซ็ยฮา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าร่วม โดยใช้เวลา 30 นาที จากนั้นทั้งสองฝ่าย ได้ร่วมลงนามในถ้อยแถลงร่วม ที่จะเป็นข้อตกลงในการหยุดยิง รวมถึงความร่วมมือที่จะเกิดขึ้น ตามข้อตกลงกัวลาลัมเปอร์ ไทย-กัมพูชา เมื่อ 26 ตุลาคม 2568 และมีข้อเสนอที่ฝ่ายกัมพูชายอมรับที่จะหยุดยิง 72 ชั่วโมง เพื่อขอให้ฝ่ายไทยส่งตัวทหารกัมพูชา 18 คน ที่เป็นเชลยศึก

จากนั้น พล.อ.ณัฐพลและคณะ เดินทางไปแถลงข่าวที่ โรงแรมชาเทรียม รีสอร์ต จันทบุรี ภายหลังลงนามข้อตกลงจีบีซีว่า ตลอดช่วงเวลาการปะทะตามแนวชายแดนที่ผ่านมา รัฐบาลและกองทัพได้ปฏิบัติหน้าที่ภายใต้หลักการที่ชัดเจน และไม่เคยเปลี่ยนแปลง คือ การปกป้องอธิปไตยความปลอดภัยของประชาชนและเกียรติภูมิของประเทศชาติ

“ขอเรียนอย่างตรงไปตรงมาว่า สถานการณ์ครั้งนี้ เริ่มต้นจากการใช้อาวุธของกัมพูชา ซึ่งส่งผลให้กําลังพลของเราได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต กองทัพจึงจําเป็นต้องตอบโต้ภายใต้สิทธิในการป้องกันตนเองตามกฎหมายระหว่างประเทศและภายใต้หลักการทางทหารสากลอย่างเคร่งครัด” พล.อ.ณัฐพลกล่าว

พล.อ.ณัฐพลกล่าวต่อว่า การพิจารณาหยุดยิงนั้น ไทยได้กําหนดเงื่อนไขที่ชัดเจน 3 ประการ เพื่อให้เกิดความสงบอย่างแท้จริงยั่งยืน 1.ต้องมีการประกาศหยุดยิงอย่างเป็นทางการและจริงใจ ซึ่งฝ่ายกัมพูชาได้ประกาศไว้ในที่ประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศอาเซียน ว่าจะหยุดยิงตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม เวลา 22.00 น. โดยไม่มีเงื่อนไข แต่ฝ่ายไทยพิจารณาแล้วเห็นว่า การหยุดยิงที่จะเกิดความยั่งยืน ต้องเกิดทั้งสองฝ่ายได้มาพูดคุยกันอย่างจริงใจ จึงเป็นที่มาของการประชุมจีบีซีในครั้งนี้ และจัดทําแถลงการณ์ร่วมระหว่างไทย-กัมพูชา เพื่อเป็นหลักการสําคัญในการแก้ไขปัญหาระหว่างสองประเทศแบบทวิภาคีอย่างแท้จริง 2.การหยุดยิงต้องเกิดขึ้นจริงและต่อเนื่อง

ดังนั้นทั้งสองฝ่ายจึงร่วมกําหนดมาตรการสําคัญ ได้แก่ ให้ทั้งสองฝ่ายหยุดยิงตั้งแต่เวลา 12.00 น. วันที่ 27 ธันวาคม และประเด็นที่สําคัญที่สุด ให้ทั้งสองฝ่าย ยังคงกําลังทหารในพื้นที่ระดับปัจจุบัน โดยต้องไม่มีการเคลื่อนย้ายหรือเสริมกําลังเพิ่มเติมเข้าหากัน และไม่มีการโจมตีหรือยั่วยุซ้ำ

“ให้ติดตามเฝ้าสังเกตการณ์การหยุดยิง 72 ชั่วโมง เพื่อยืนยันว่าการหยุดยิงเกิดขึ้นจริง และมีความต่อเนื่องก็ต่อเมื่อสถานการณ์สงบลง ประชาชนจะสามารถกลับเข้าสู่ที่พักอาศัยได้อย่างปลอดภัย จากนั้นจะมีการปล่อยตัวทหารกัมพูชาทั้ง 18 นาย ทั้งนี้ เป็นไปตามหลักสากลที่กําหนดให้ปล่อยตัวเมื่อสิ้นสุดความเป็นปรปักษ์” พล.อ.ณัฐพลกล่าว

แหล่งข่าวกระทรวงการต่างประเทศ(กต.)เปิดเผยว่า นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการ กต. มีกำหนดเดินทางเยือนมณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 28-29 ธันวาคม ตามคำเชิญของนายหวัง อี้ สมาชิกกรมการเมือง ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกลางด้านกิจการต่างประเทศของพรรคคอมมิวนิสต์จีน และรัฐมนตรีว่าการ กต.สาธารณรัฐประชาชนจีน ในระหว่างการเยือนดังกล่าว รัฐมนตรีจะพบหารือทวิภาคีกับฝ่ายจีน รวมทั้งเข้าร่วมการหารือ 3 ฝ่ายระหว่างจีน ไทย และกัมพูชา ตามข้อเสนอของฝ่ายจีน วัตถุประสงค์ของการหารือดังกล่าวคือ การแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับพัฒนาการล่าสุดของสถานการณ์ไทย-กัมพูชา โดยต่อยอดจากผลการประชุมจีบีซีสมัยพิเศษ ครั้งที่ 3 เพื่อสนับสนุนการหยุดยิงที่แท้จริง และสันติภาพ ที่ยั่งยืนระหว่างทั้ง 2 ประเทศ

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ไทย-เขมร แถลงการณ์ร่วมจีบีซี ตกลงหยุดยิง จับตา 72 ชม.แลกปล่อยเชลย

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...