โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

รมว. คลังเตรียมเปิดรายละเอียด 4 มาตรการกระตุ้นการออม 9 ธ.ค. 68

การเงินธนาคาร

อัพเดต 9 ธันวาคม 2568 เวลา 4.20 น. • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

รมว. คลัง ชง 4 มาตรการส่งเสริมการออมระยะยาว TISA-พันธบัตรรัฐบาลออมพลัส-ยกเว้นอากรแสตมป์ไมโครอินชัวรันส์ และ ประกันชีวิตแบบบำนาญรูปแบบจ่ายเงินก้อนเมื่อเริ่มรับบำนาญ เข้าครม. พร้อมแถลงรายเอียด 9 ธ.ค. 68

8 ธ.ค. 2568 - ดร. เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ ถึงการนำเสนอหลักการและกรอบมาตรการ Quick Big Win เสาที่ 4 เพื่อสนับสนุนการออมของประชาชน โดยกล่าวว่า “การออมของไทยยังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าหลายประเทศพัฒนาแล้วและมีแนวโน้มลดลง

โดยในปี 2557 การออมของประเทศไทยอยู่ที่ร้อยละ 27.7 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (Gross Domestic Product: GDP) ลดลงเหลือร้อยละ 25.3 ของ GDP ในปี 2566 การออมของไทยถูกกดดันจากหนี้ภาคครัวเรือนที่สูงและผลตอบแทนทางการเงินของเงินฝากที่จำกัด ยิ่งไปกว่านั้นประเทศไทยก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ (aged society) อย่างรวดเร็ว โดยจังหวัดที่มีประชากรสูงอายุมากกว่าร้อยละ 20 มีถึง 53 จังหวัด อีกทั้งผู้สูงวัยของไทยยังไม่มีความมั่นคงทางการเงินอย่างเพียงพอ ซึ่งอาจสร้างความเสี่ยงทางภาระการดูแล รวมทั้งภาระทางการเงินแก่ระบบการเงินและการคลังในระยะกลางถึงระยะยาว

เพื่อเป็นการแก้ปัญหาการอออมทั้งระบบ การสร้างแรงจูงใจ สร้างความมั่นใจ และสร้างความสบายใจ ให้กับประชาชนและนักลงทุน ผ่านนวัตกรรมทางการออมและการลงทุน พร้อมมาตรการภาครัฐ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการขยายฐานการออมและการลงทุนในระยะยาวเป็นสิ่งสำคัญ โดยมาตรการนี้มีเป้าหมายในการสนับสนุนคนรุ่นใหม่ที่เพิ่งเริ่มทำงาน มนุษย์เงินเดือน หรือผู้ที่มีรายได้ปานกลางให้มีเงินออมไว้ใช้จ่ายยามเกษียณ ควบคู่กับการช่วยผู้ที่อยู่ในวัยใกล้เกษียณหรือเกษียณแล้วที่ต้องการความมั่นคงทางการเงินเพิ่มเติม ในขณะเดียวกัน
ยังช่วยให้ประชาชนเข้าถึงการออมที่สะดวก มีต้นทุนต่ำ และช่วยสร้างความมั่นคงทางการเงินในอนาคต”

โดยการสร้างแรงจูงใจให้เกิดการออมระยะยาว ได้แก่

1. โครงการบัญชีการออมการลงทุนส่วนบุคคล หรือ Thailand Individual Saving Account (TISA) รัฐบาลเตรียมยกระดับแนวทางการออมและการลงทุนระยะยาวภายใต้โครงการบัญชีการออมการลงทุนส่วนบุคคล หรือ Thailand Individual Saving Account (TISA) ในฐานะ “กรอบสิทธิประโยชน์และบัญชีออม-ลงทุนระยะยาวยุคใหม่” เพื่อเปิดทางเลือกการออมที่หลากหลายขึ้นและสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนออมอย่างต่อเนื่อง

โดยโครงการ TISA ถูกออกแบบเพื่อผู้ที่เริ่มต้นทำงาน หรือมนุษย์เงินเดือน สามารถเลือกลงทุนได้หลากหลายตามความเสี่ยงของแต่ละบุคคล ไม่ว่าจะเป็นกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) กองทุนรวมเพื่อความยั่งยืน(Thai ESG) หรือกองทุนรวมใหม่ๆ ที่ผ่านการพิจารณาจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) และกระทรวงการคลัง โดยไม่จำกัดวงเงินของแต่ละกอง สามารถนำมาคำนวณการลดหย่อนภาษีร่วมกันได้ตามวงเงินรวมที่รัฐบาลกำหนด ทำให้การออมและการลงทุนเปิดกว้าง เข้าถึงง่ายขึ้น มีความยืดหยุ่นในการบริหารความเสี่ยงและกระจายการลงทุนได้ด้วยตนเอง และช่วยขยายฐานการออมและการลงทุนระยะยาวของประเทศ

ทั้งนี้กระทรวงการคลังจะมีการแถลงรายละเอียดโครงการ TISA หลังการประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลเงื่อนไข สิทธิประโยชน์ และแนวทางการเข้าร่วมอย่างครบถ้วนสร้างความมั่นใจในการออมระยะยาว

2. โครงการพันธบัตรรัฐบาล “ออมพลัส” รัฐบาลเพิ่มช่องทางให้ประชาชนเข้าถึงการออมที่มั่นคงผ่าน พันธบัตรรัฐบาล ออมพลัสเพื่อสร้างความมั่นใจในการออมระยะยาวด้วยพันธบัตรรัฐบาลที่มีความมั่นคงสูง และออกขายอย่างต่อเนื่องเดือนละครั้ง โดยการซื้อพันธบัตรรัฐบาล ออมพลัส จะทำได้ผ่านช่องทางที่หลากหลาย ทั้งออนไลน์ผ่านระบบ Bond Connect และออฟไลน์ผ่านสาขาธนาคารพาณิชย์ ช่วยแก้ข้อจำกัดและความยุ่งยากในอดีตที่ประชาชนต้องต่อคิวยาวหรือเร่งซื้อในช่วงเปิดจองทำให้ประชาชนหลายกลุ่มเข้าไม่ถึงและไม่ทัน เครื่องมือการออมนี้ออกแบบโดยคำนึงถึงประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มใกล้เกษียณและผู้สูงอายุที่ต้องการการออมที่ให้ความมั่นใจ

โดยพันธบัตรใหม่นี้ทำให้การออมให้เป็นเรื่องง่าย ใกล้ตัว และสะดวกขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ พันธบัตรรัฐบาล ออมพลัสยังสามารถนำไปขายได้ในตลาดรองเมื่อมีความจำเป็นต้องใช้สภาพคล่องด้วยราคาที่ผ่านกลไกตลาด ทำให้มีความโปร่งใสและช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและความสบายใจให้กับผู้ถือพันธบัตรสร้างความสบายใจด้วยการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ประกันที่เหมาะสม

3. มาตรการยกเว้นอากรแสตมป์สำหรับกรมธรรม์ประกันภัยรายย่อย (ไมโครอินชัวรันส์) เพื่อให้ประชาชนรายได้น้อยสามารถเข้าถึงการประกันภัยขั้นพื้นฐานได้ ด้วยเบี้ยประกันภัยที่ไม่สูงมากความคุ้มครองและเงื่อนไขกรมธรรม์ที่ไม่ซับซ้อน ข้อยกเว้นที่น้อย ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง ส่งเสริมวินัยทางการเงิน การออม และใช้การประกันภัยเป็นเครื่องมือการบริหารความเสี่ยงในชีวิตและทรัพย์สิน อีกทั้ง ธุรกิจประกันภัยสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยรายย่อย (ไมโครอินชัวรันส์) ให้มีความหลากหลายและสอดคล้องกับกลุ่มดังกล่าวมากขึ้น

4. ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตแบบบำนาญรูปแบบจ่ายเงินก้อนเมื่อเริ่มรับบำนาญ (Lump-Sum Annuity) ส่งเสริมการประกันชีวิตแบบบำนาญ ที่สามารถรับผลประโยชน์เป็นเงินก้อนเมื่อรับเงินบำนาญงวดแรกได้ เพื่อใช้ในการเตรียมความพร้อมเข้าสู่วัยเกษียณหรือเพื่อความจำเป็นอื่น ช่วยให้การวางแผนเกษียณมีความยืดหยุ่นและมั่นใจมากขึ้น เพิ่มเงินออมในอนาคต เพิ่มแรงจูงใจในการออมระยะยาว ลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาระบบบำนาญภาครัฐเพียงแหล่งเดียว และรองรับสังคมผู้สูงอายุ

โดยกรมสรรพากรได้แก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์การจ่ายผลประโยชน์เงินบำนาญสำหรับการหักลดหย่อนเบี้ยประกันภัยสำหรับการประกันชีวิตแบบบำนาญ จากเดิมกำหนดให้การจ่ายผลประโยชน์เงินบำนาญต้องจ่ายเท่ากันทุกงวดหรือจ่ายในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นตามระยะเวลาเอาประกันภัย ปรับปรุงเป็นเงินบำนาญงวดแรกที่ได้รับอาจจ่ายเป็นเงินก้อน (Lump-Sum Annuity) ได้

นอกจากนี้ เพื่อส่งเสริมให้เกิดการออมอย่างมีประสิทธิภาพ คณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจยังได้รับทราบมาตรการที่เกี่ยวข้อง อื่นๆ ซึ่งดำเนินการโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) ได้แก่

(1) การปฏิรูปหลักเกณฑ์การลงทุนของธุรกิจประกันภัยเพื่อยกระดับความมั่นคงและผลตอบแทนของเงินออมของประชาชน เพื่อให้สอดคล้องกับความเสี่ยงและภาวะของตลาดเงินตลาดทุนที่เปลี่ยนแปลงไป ให้ธุรกิจประกันภัยสามารถเข้าถึงช่องทางการลงทุนที่หลากหลายมากขึ้น และรักษาความสามารถในการจ่ายผลตอบแทนแก่ผู้เอาประกันภัยในระยะยาวได้

(2) การปรับปรุงหลักเกณฑ์ค่าความเสี่ยงตราสารทุนเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางการเงินให้แก่ประชาชน ให้สะท้อนความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจริงในสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันและแนวทางการกำกับดูแลแบบสากล

“การเพิ่มโอกาสการออมและความมั่นคงทางการเงินของประชาชน เป็นนโยบายด้านเศรษฐกิจที่สำคัญและเร่งด่วนของรัฐบาล กระทรวงการคลังจะนำมาตรการต่าง ๆ นี้ เสนอต่อคณะรัฐมนตรีต่อไป โดยเชื่อว่ามาตรการภายใต้ Quick Big Win เสาหลักที่ 4 จะช่วยให้ประชาชนมีทางเลือกการออมที่เข้าถึงง่าย คุ้มค่าและมั่นคงยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันยังช่วยเพิ่มระดับเงินออมของประเทศ และยกระดับเสถียรภาพของระบบเศรษฐกิจไทยโดยรวม”

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...