CIB ร่วมมือทางการจีน ปิดเกมผู้ต้องหาหนีคดีฮั้วประมูลโรงพยาบาลที่จีน มูลค่ากว่า 260 ล้านบาท
วันที่ 14 ธันวาคม 2568 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) และ บก.สส.สตม ได้ร่วมกันควบคุมตัว ชาย สัญชาติจีน อายุ 49 ปี โดยถูกเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2568 เนื่องจากเป็นบุคคลตามหมายกักขังของสาธารณะรัฐประชาชนจีน โดยกระทำความผิดฐานทุจริตการประมูล และ ถูกยกเลิกหนังสือเดินทางในสาธารณะรัฐประชาชนจีน ซึ่งได้รับประสานงานจากศูนย์ความร่วมมือบังคับใช้กฎหมายและความมั่นคงแบบบูรณาการแม่น้ำโขง–ล้านช้าง (LMLECC) โดยควบคุมตัวได้ ภายในบ้านหลังหนึ่ง ซอยกรุงเทพกรีฑา 7 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร
พฤติการณ์สืบเนื่องจาก กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ร่วมกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองดำเนินการควบคุมตัว ชายชาวจีนคนดังกล่าว ซึ่งเป็นบุคคลรายสำคัญในคดีอาชญากรรมข้ามชาติ ภายหลังได้รับข้อมูลจากหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของสาธารณรัฐประชาชนจีน ผ่านศูนย์ความร่วมมือบังคับใช้กฎหมายและความมั่นคงแบบบูรณาการแม่น้ำโขง–ล้านช้าง (LMLECC)
โดยคดีนี้มีต้นทางจากการสอบสวนการทุจริตในระบบสาธารณสุขของมณฑลยูนนาน โดยคณะกรรมาธิการตรวจสอบวินัยและกำกับดูแลเทศบาลเมืองจาวทง พบว่าชายชาวจีนรายนี้ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการแทรกแซงกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างของโรงพยาบาลรัฐหลายแห่ง จากพยานหลักฐานพบว่า ชายชาวจีนคนดังกล่าว ได้ให้สินบนแก่ผู้อำนวยการโรงพยาบาลประชาชนอำเภอเจิ้นสยง และบุคคลที่เกี่ยวข้องหลายครั้ง เพื่อให้ได้รับประโยชน์ในการจำหน่ายเวชภัณฑ์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ รวมถึงการได้สิทธิรับเหมาก่อสร้างโครงการของโรงพยาบาล พฤติการณ์ดังกล่าวเข้าข่ายความผิดฐานสมยอมในการเสนอราคา และการทุจริตต่อหน้าที่ โดยมีมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 60 ล้านหยวน (หรือตีเป็นเงินไทยประมาณ 260 ล้านบาท)
ต่อมาทางการจีนได้มีคำสั่งรับเป็นคดีอาญา ออกคำสั่งกักขังทางอาญา และเพิกถอนเอกสารการเดินทางของชายรายนี้ ทั้งหมด ก่อนประสานข้อมูลมายังทางการไทย หลังตรวจสอบพบว่าเจ้าตัวได้เดินทางเข้ามาพำนักอยู่ที่ประเทศไทย
จากข้อมูลดังกล่าว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยได้ดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมาย มีคำสั่งเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนติดตามที่พักอาศัยอย่างต่อเนื่อง
เมื่อทราบแน่ชัดถึงสถานที่พักอาศัย เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขออำนาจศาลออกหมายค้นและเข้าตรวจค้นบ้านพักเป้าหมาย ก่อนควบคุมตัวชายชาวจีนรายนี้ ภายในบ้านได้โดยละม่อม เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งคำสั่งเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรและคำสั่งให้เดินทางกลับออกไปนอกราชอาณาจักรให้ทราบ จากนั้นจึงได้ควบคุมตัวไว้เพื่อรอผลักดันส่งกลับไปยังสาธารณะรัฐประชาชนจีนต่อไป
การควบคุมตัวในครั้งนี้ สะท้อนความสำเร็จของความร่วมมือด้านการบังคับใช้กฎหมายระหว่างประเทศ และเป็นไปตามนโยบายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ประกาศจุดยืนชัดเจนในการปิดช่องว่าง ไม่เปิดโอกาสให้ประเทศไทยตกเป็นที่พักพิงของผู้กระทำความผิดข้ามชาติ โดยผู้ถูกควบคุมได้ทราบสิทธิแล้ว