24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 29 ธันวาคม 2568
24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 29 ธันวาคม 2568
>> รถบรรทุกชนกับรถจักรยานยนต์ คุณยายวัย 72 ปีเสียชีวิต
06.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พรหมพิราม รับแจ้งมีอุบัติเหตุ รถบรรทุก 6 ล้อ เฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์และมีผู้เสียชีวิต บนถนนใกล้เคียงวัดมะต้อง ม.2 ต.มะต้อง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก
ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน แผ่นป้ายทะเบียน พิษณุโลก ล้มคว่ำสภาพรถพังเสียหาย ใกล้กันพบเป็นรถบรรทุก 6 ล้อ ยี่ห้อ ฮีโน่ สีขาว แผ่นป้ายทะเบียน พระนครศรีอยุธยา ตรวจสอบพบร่างของผู้เสียชีวิต 1 ราย ตรวจสอบเอกสาร เป็นหญิงไทย อายุ 72 ปี สภาพมีบาดแผลฉีกขาดขนาดใหญ่ที่ศีรษะ และบาดแผลตามร่างกาย
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมแพทย์เวรร่วมตรวจสอบ ก่อนมอบให้กู้ภัยบูรพา จุด อ.พรหมพิราม ดำเนินการเคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิตนำส่งนิติเวชโรงพยาบาลพรหมพิรามก่อนมอบให้ญาติดำเนินการตามประเพณีต่อไป
>> รถนั่งส่วนบุคคลชนกับรถจักรยานยนต์ มีผู้เสียชีวิตริมถนนสาย 304
06.45 น. มูลนิธิสัจจพุทธธรรมแห่งประเทศไทย อ.กบินทร์บุรี ตรวจสอบอุบัติเหตุ รถนั่งส่วนบุคคลชนกับรถจักรยานยนต์ และมีผู้เสียชีวิต บนถนนสาย 304 ใกล้เคียงบริษัทให้บริการรถเครน ตำบลกบินทร์ อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี
ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน ลักษณะชนกับ รถนั่งส่วนบุคคล ซูซุกิ สีขาว ใกล้กันพบร่างของผู้เสียชีวิต 1 ราย ตรวจสอบเอกสาร เป็นหญิงไทย อายุ 53 ปี ในส่วนของสาเหตุที่แท้จริงอยู่ที่การสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กบินทร์บุรี
>> รถจักรยานยนต์ 2 คันชนกันกลางถนน บาดเจ็บ 1 และเสียชีวิต 1 ราย
08.20 น. รับแจ้งจาก มูลนิธิระนองสงเคราะห์ (พ้งไล้ 11) ตรวจสอบอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนกัน และมีผู้บาดเจ็บสาหัส บริเวณถนนเฉลิมพระเกียรติ ช่วงทางกลับรถ ใกล้เคียงทางเข้าโรงแรมพีพี สะพานปลา ในพื้นที่ อ.เมือง จ.ระนอง
ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า สีเทา ป้ายทะเบียน ระนอง ลักษณะชนกับ รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน ระนอง ใกล้กันพบร่างของผู้ได้รับบาดเจ็บ เป็รผู้ชาย 2 ราย โดยรายแรก มีแผลถลอกตามร่างกาย แขนด้านซ้ายผิดรูป รู้สึกตัวดี รถพิทักษ์ชีพ 3 นำส่ง รพ.ระนอง ส่วนรายที่ 2 ผู้บาดเจ็บมีอาการสาหัสและไม่รู้สึกตัว อาสาสมัครทำการฟื้นคืนชีพ ด้วยการปั้มหัวใจ พร้อมติดเครื่อง AED ประสาน ALS รพ.ระนอง ร่วมสนับสนุน แต่ไม่เป็นผล ยืนยันเสียชีวิตในเวลาต่อมา ในส่วนของสาเหตุที่แท้จริงนั้นอยู่ที่การสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองระนอง
>> รถไฟชนกับรถจักรยานยนต์ และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย
08.39 น. มูลนิธิสัจจพุทธธรรมแห่งประเทศไทย อ.กบินทร์บุรี รับแจ้งว่าเกิดเหตุ รถไฟชนกับรถจักรยานยนต์ และมีผู้เสียชีวิต บริเวณทางข้ามทางรถไฟ หมู่บ้านมั่นคง ตำบลวังดาล อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี
ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีดำ ป้ายทะเบียน ปราจีนบุรี ล้มคว่ำในพงหญ้าข้างทางรถไฟ สภาพรถพังเสียหาย ลักษณะชนกับรถไฟ สายสระแก้ว - กทม. ใกล้กันพบร่างผู้เสียชีวิต เป็นผู้ชาย ไม่พบเอกสารติดตัว ในส่วนของสาเหตุอยู่ที่การสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กบินทร์บุรี
>> คุมตัว “บุญฤทธิ์” ผู้สมัคร ส.ส. พรรคประชาชน พิมพ์ลายนิ้วมือ ส่ง ตร.บช.ปส. เจ้าตัวยันบริสุทธิ์-ไม่ได้รับเงิน
10.45 น. ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติดควบคุมตัว นายบุญฤทธิ์ ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขต กรุงเทพมหานคร เขต 33 (บางพลัด–บางกอกน้อย ยกเว้นแขวงศิริราช) ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีฟอกเงิน ที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญ เข้าพิมพ์ลายนิ้วมือและดำเนินการตามขั้นตอน ที่กองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด
นายบุญฤทธิ์ กล่าวปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด ยืนยันตนไม่ได้รับเงินเป็นรายเดือนจากเครือข่ายยาเสพติด และไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือรับรู้ข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับขบวนการค้ายาเสพติด แต่ยอมรับว่าตนเป็นหนึ่งในกรรมการบริษัทจำนวน 4 คน ของบริษัทที่ถูกระบุว่าอยู่ในเครือข่ายของผู้ต้องหาในคดีนี้ แต่ไม่ทราบถึงพฤติการณ์ที่ผิดกฎหมาย และไม่รู้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเส้นทางการเงินที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบ
ทั้งนี้ นายบุญฤทธิ์ กล่าวขอโทษพรรคประชาชน รวมถึงประชาชนทุกคน จากกรณีที่เกิดขึ้น ส่วนรายละเอียดในคดีนั้น ขอให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย และจะขอพูดคุยในรายละเอียดภายหลัง
>> นายกฯ ขึ้นปราสาทตาควาย-เนิน 350 เยี่ยมให้กำลังใจทหารกล้า ชี้จุดพบบรรจุภันฑ์ระเบิด
12.00 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย พร้อมคณะ เดินทางมายังฐานปฏิบัติการ เพื่อให้กำลังใจกำลังพลที่อยู่ปฏิบัติหน้าที่บริเวณชายแดน โดยนายอนุทิน ได้ร่วมทานอาหารกลางวันกับกำลังพล และเดินดูชีวิตความเป็นอยู่ของกำลังพล ก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังบริเวณปราสาทตาควาย
โดยนายกรัฐมนตรีได้ทำความเคารพอนุสาวรีย์พิทักษ์ไทย ก่อนเดินเท้าขึ้นไปบริเวณปราสาทตาควาย และได้แวะสักการะรูปปั้นพระใหญ่ บริเวณฐานปราสาทตาควาย รวมถึงได้พูดคุยกับหลวงตาเยื้อน วัดเขาศาลา อำเภอบัวเชด จ.สุรินทร์ ที่ได้บอกนายกฯว่าให้เปลี่ยนอาวุธยุทธโธปกรณ์ให้กำลังพล เนื่องจากมีการจัดซื้อมาหลายปีแล้ว รวมถึงให้ทำถนนใหม่เพื่อขึ้นมายังบริเวณประสาทตาควาย เนื่องจากของเดิมมีความชำรุด
จากนั้นได้เดินเท้าไปยังปราสาทตาควาย และพูดคุยทักทายให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ประจำอยู่บริเวณประสาทตาควาย โดยระหว่างที่นายกรัฐมนตรีเดินขึ้นไปบริเวณปราสาทตาควายพูดได้สอบถามว่าจุดนี้ถือเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยในการได้พื้นที่ปราสาทตาควายคืน โดยนายกรัฐมนตรีได้ชี้ไปที่ธงชาติบริเวณหน้าปราสาทตาควาย พร้อมบอกว่าดูธงชาตินี่
และได้เดินทางต่อไปยังเนิน 350 พร้อมให้กำลังใจกำลังพลให้รักษาเนื้อรักษาตัว ขอบคุณที่เสียสละเพื่อประเทศชาติ แล้วเดี๋ยวตนจะขึ้นมาให้กำลังใจอีก พร้อมชื่นชมว่าทหารเก่งมาก โดยช่วงหนึ่งทางนายกรัฐมนตรีได้ชี้ไปที่กล่องโฟมบรรจุระเบิด PMN-2 พร้อมบอกว่าดูสินี่คืิกล่องใส่ทุ่นระเบิด พร้อมตั้งคำถามว่าหาก 30 ปีแล้วโฟมจะอยู่สมบูรณ์แบบนี้ได้หรือไม่ ไม่ต้องไปคิดอะไรมาก
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ไปดูจุดที่พบร่างของ 2 ทหารกล้า ที่ช่วงแรกยังไม่สามารถนำร่างลงมาจากเนิน 350 ได้ ซึ่งนายกฯ ได้ยกมือไหว้ เพื่อแสดงถึงความเคารพ บริเวณจุดที่ทหารพลีชีพ ก่อนจะร่วมถ่ายภาพกับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่บนเนิน
>> 3 เหล่าทัพเร่งบูรณาการ “อาวุธยิงระยะไกล–หน่วยบัญชาการร่วม” เสริมความพร้อมชายแดนไทย–กัมพูชา
12.39 น. ที่ กองบัญชาการกองทัพบก กองบัญชาการกองทัพไทย จัดประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งที่ 2/2569 โดยมี พล.อ.อุกฤษฎ์ บุญตานนท์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธาน พร้อม ผบ.ทบ. ผบ.ทร. ผบ.ทอ. และ ผบ.ตร. เข้าร่วม ที่ประชุมเน้นการยกระดับความพร้อมป้องกันประเทศตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ผ่านการบูรณาการกำลังและขีดความสามารถร่วม โดยเฉพาะการพัฒนาอาวุธยิงระยะไกลที่มีความแม่นยำสูง และการจัดตั้งหน่วยบัญชาการขีดความสามารถร่วมกองทัพไทย (JCC) เพื่อเชื่อมโยงการปฏิบัติการไซเบอร์ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ระบบอัตโนมัติ และการป้องกันภัยทางอากาศ คาดเริ่มปฏิบัติงาน 1 ต.ค.2569
ทั้งนี้ เหล่าทัพได้นำเสนอแผนพัฒนา LRPF ในทุกมิติ ตั้งแต่หลักนิยม โครงสร้าง การฝึก ยุทโธปกรณ์ และการวิจัยพัฒนา มุ่งสู่การปฏิบัติการร่วมและการพึ่งพาตนเองตามยุทธศาสตร์ “RTARF 2050” โดยกองทัพบกเน้นปฏิบัติการเชิงลึกและระบบเครือข่าย กองทัพอากาศเร่งจัดหาและพัฒนาอาวุธแม่นยำ–อากาศยานไร้คนขับ ขณะที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติพัฒนาขีดความสามารถตำรวจตระเวนชายแดนให้เชื่อมต่อการรบร่วมอย่างไร้รอยต่อ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดย้ำให้ทุกหน่วยขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลและกลาโหมอย่างเต็มกำลัง เพื่อความมั่นคงและรับมือภัยคุกคามในอนาคตทุกมิติ
>> ผบ.ตร. สั่ง EOD ตำรวจภูธรภาค 2 สแกนชายแดนสระแก้ว คืนพื้นที่ปลอดภัย เตรียมรับประชาชนกลับบ้าน
12.57 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการให้ พล.ต.ท.ฉัตรชัย สุรเชษฐพงษ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ส่งหน่วยเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด (EOD) ลงพื้นที่จังหวัดสระแก้ว ตรวจค้นและเก็บกู้วัตถุระเบิดที่อาจหลงเหลือ เพื่อคืนพื้นที่อย่างปลอดภัยก่อนประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา
โดยเช้าวันนี้ มีการประชุมวางแผนและแบ่งกำลังชุด EOD รวม 11 ชุด ณ ที่ว่าการอำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ระดมกำลังจากตำรวจภูธรภาค 2 และจังหวัดใกล้เคียง รวม 8 จังหวัดภาคตะวันออก เข้าดำเนินการตรวจค้นในพื้นที่เสี่ยง
พื้นที่เป้าหมายประกอบด้วย บ้านหนองจาน บ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง และบ้านคลองแผง อำเภอตาพระยา รวมถึงพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยให้ประชาชน
ตำรวจภูธรภาค 2 ยืนยันจะปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลัง ร่วมกับทุกภาคส่วน เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน รองรับการเดินทางกลับบ้านของพี่น้องประชาชนอย่างมั่นใจและปลอดภัย
>> ทบ. เผยทหารไทยเหยียบกับระเบิดขณะปฏิบัติหน้าที่เสริมความมั่นคงพื้นที่เขาสัตตะโสม เตรียมรวบรวมหลักฐานเสนอเวทีโลก
13.24 น. พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า กองทัพภาคที่ 2 ได้รายงานเหตุการณ์กรณีชุดตรวจค้นทุ่นระเบิดจากกองพันทหารช่างที่ 8 กองพลทหารม้าที่ 1 เหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลขณะปฏิบัติภารกิจเสริมความมั่นคงในพื้นที่บริเวณเขาสัตตะโสม อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ส่งผลให้ จ.ส.ต. สุจินต์ จิตกรียาน ได้รับบาดเจ็บสาหัส สูญเสียขาซ้ายและมีบาดแผลบริเวณตาซ้าย ซึ่งเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้เร่งปฐมพยาบาลและนำตัวส่งไปรักษาต่อยังโรงพยาบาลสุรินทร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า จากการประเมินเบื้องต้นคาดว่ายังมีทุ่นระเบิดที่ฝ่ายกัมพูชาติดตั้งไว้ในพื้นที่อีกเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ที่ฝ่ายไทยเข้าควบคุมก่อนมีการประกาศหยุดยิง ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังเร่งดำเนินการเก็บกู้ด้วยความยากลำบากเนื่องจากสภาพพื้นที่ที่มีความเสี่ยงอันตรายสูง สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ อยู่ระหว่างการตรวจสอบที่เกิดเหตุและรวบรวมพยานหลักฐานโดยละเอียด ซึ่งกองทัพบกจะส่งมอบข้อมูลทั้งหมดให้กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อดำเนินการชี้แจงต่อประชาคมระหว่างประเทศอย่างเป็นทางการ เนื่องจากเป็นการละเมิดอนุสัญญาออตตาวาอย่างชัดเจน พร้อมทั้งรายงานไปยังคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน เพื่อให้ตรวจสอบและพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริงตามกรอบการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง
กองทัพบกขอยืนยันว่า หลักฐานการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลในทุกกรณี บ่งชี้ชัดเจนว่าฝ่ายกัมพูชายังคงมีการใช้ทุ่นระเบิดซึ่งถือเป็นการละเมิดพันธกรณีระหว่างประเทศ ภายใต้อนุสัญญาว่าด้วยการห้ามใช้ การสะสม การผลิต และการโอนทุ่นระเบิดสังหารบุคคล และการทำลายทุ่นระเบิดดังกล่าว (อนุสัญญาออตตาวา) อย่างร้ายแรง ถือเป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักมนุษยธรรมสากลและเป็นสิ่งที่ประชาคมโลกไม่อาจยอมรับได้
>> สืบสวนพัทยา แกะรอยบุกจับ มือมีดแทงการ์ดร้านเหล้าพัทยา
15.20 น. กรณีแก๊งชาวจีน บุกแทงการ์ดผับดังพัทยาใต้มีผู้บาดเจ็บ 3 ราย
เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองพัทยา สามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว เป็นผู้ชาย อายุ 36 ปี สัญชาติจีน ขณะหลบซ่อนตัวอยู่ภายในซอยหนองกระบอก 5 ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตรวจยึดเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายสีดำ ซึ่งเป็นชุดที่ใช้ในวันก่อเหตุไว้เป็นของกลาง และอยู่ระหว่างนำตัวผู้ต้องหาขยายผลค้นหาอาวุธมีดที่ใช้ก่อเหตุตามเส้นทางหลบหนี พร้อมสอบปากคำอย่างละเอียด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
>> ศุลกากรโชว์ผลงาน 3 เดือนแรกปีงบฯ 69 จับสินค้าผิดกฎหมาย 510 คดี มูลค่ากว่า 1.65 พันล้าน ยาเสพติดพุ่ง 48%
15.25 น. กรมศุลกากรแถลงผลการจับกุมสินค้าผิดกฎหมายที่สำคัญในช่วง 3 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2569 (1 ต.ค.–22 ธ.ค.2568) รวม 510 คดี คิดเป็นมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจกว่า 1,650 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนถึง 3 เท่า และมูลค่าเพิ่มขึ้นกว่า 6 เท่า โดยเฉพาะคดียาเสพติดจับกุมได้ 69 คดี มูลค่ากว่า 184 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 48 สะท้อนผลจากนโยบายรัฐบาลที่เร่งปราบปรามยาเสพติดและสินค้าผิดกฎหมายอย่างเข้มข้น
อธิบดีกรมศุลกากรระบุ การจับกุมแบ่งออกเป็น 4 มิติ และ 1 กลุ่มยาเสพติด ครอบคลุมความปลอดภัยผู้บริโภค การปกป้องสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม พบการลักลอบนำเข้าสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้า บุหรี่ไฟฟ้า เหล้า ทองคำ ขยะอิเล็กทรอนิกส์ สัตว์ป่าคุ้มครอง รวมถึงยาเสพติดหลายประเภท โดยความสำเร็จเกิดจากการบูรณาการร่วมกับตำรวจ ปปส. หน่วยข่าวกรอง และกองทัพ เพื่อปกป้องประชาชนและสังคมอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน
>> รถจักรยานยนต์ชนเสาไฟฟ้า ริมถนนบนเกาะพงัน มีทั้งผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต เป็นหญิงชาวเมียนมา จ.สุราษฎร์ธานี
15.50 น ศูนย์กู้ภัยเกาะพะงัน รับแจ้งอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์ชนกับเสาไฟฟ้า และมีผู้บาดเจ็บสาหัส ถนนสายมะเดื่อหวาน-โฉลกหลำ บริเวณใกล้เคียง สำนักงานการประปาส่วนภูมิภาค สาขากเกาะพะงัน ม.3 ต.เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี
ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า คลิก สี ดำ-ขาว ป้ายทะเบียน สุราษฎร์ธานี ลักษณะชนเสาไฟฟ้าข้างทาง ตรวจสอบพบว่า มีผู้บาดเจ็บ 2 รายเป็นผู้ชาย และผู้หญิง และพบว่ามีผู้เสียชีวิตที่เกิดเหตุอีก 1 ราย เป็นผู้หญิง โดยทั้ง 3 รายนั้น เป็นบุคคลสัญชาติเมียนมา ในส่วนของสาเหตุที่แท้จริงนั้นอยู่ที่การสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เกาะพงัน
>> ผบ.ตร.เยี่ยม ตชด.ผู้กล้า แนวหน้าชายแดน บาดเจ็บ สั่งทีมแพทย์ดูแลเต็มที่
16.30 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.ท.ชัยต์พจน สูวรรณรักษ์ ผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล/รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เดินทางไปเยี่ยม ด.ต.อุดม อ้วยผุย ผบ.หมู่ กก.ตชด.22 ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ณ ฐานปฏิบัติการต้นไทร จ.ศรีสะเกษ โดนสะเก็ดระเบิดเข้าบริเวณศีรษะ อาการสาหัส ถูกส่งต่อมารักษา ณ ห้องไอซียู โรงพยาบาลตำรวจ
นอกจากนี้ ผบ.ตร.ยังได้ให้กำลังใจ ตชด. แนวหน้า สังกัด กก.ตชด.22 ที่ได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิดขณะปฏิบัติหน้าที่ ณ ฐานปฏิบัติการพลาญหญ้าคา เขาพระวิหาร จำนวน 3 ราย ได้แก่ ด.ต. อภินันท์ ลาโพธิ์, ด.ต.จักรพันธ์ ทีเขียว และ จ.ส.ต.นนทนันท์ ดอนวิชัย ซึ่งทั้ง 3 นาย ขณะนี้พักรักษา ตัวที่โรงพยาบาลตำรวจเช่นกัน
ผบ.ตร.ได้เน้นย้ำให้ทางทีมแพทย์โรงพยาบาลตำรวจดูแลรักษา ตชด.ผู้กล้า ที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ปกป้องอธิปไตย อย่างเต็มกำลัง ยืนยันว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะดูแลสิทธิสวัสดิการอย่างดีที่สุด
>> โฆษกกองทัพบก เผยพบโดรน 250 ลำ รุกล้ำเข้ามาในเขตอธิปไตยของไทย
16.53 น. พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 ถึงสถานการณ์เมื่อคืนวันที่ 28 ธ.ค. 68 ว่า ได้มีการตรวจพบอากาศยานไร้คนขับ (UAV) บินจากฝั่งกัมพูชารุกล้ำเข้ามาในเขตอธิปไตยของประเทศไทยเป็นจำนวนมากกว่า 250 ลำ โดยพบการเคลื่อนไหวอย่างหนาแน่นในพื้นที่ช่องบก ช่องอานม้า เขาสัตตะโสม ซำแต โดนตวล ช่องกร่าง ปราสาทตาเมือนธม และช่องสายตะกู
การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายเป็นการยั่วยุและละเมิดมาตรการลดระดับความตึงเครียด อันเป็นการไม่สอดคล้องกับถ้อยแถลงร่วม (Joint Statement) จากผลการประชุม GBC เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 68 ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้ตกลงร่วมกันไว้ก่อนหน้านี้
โดยพฤติกรรมดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าฝ่ายกัมพูชายังคงมีการกระทำในลักษณะยั่วยุ และมีท่าทีเป็นปรปักษ์ต่อฝ่ายไทย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงและความปลอดภัยของกำลังพล รวมถึงประชาชนในพื้นที่แนวชายแดน กองทัพบกอาจมีความจำเป็นต้องพิจารณาทบทวนการดำเนินการเกี่ยวกับการปล่อยตัวกำลังพลฝ่ายกัมพูชาจำนวน 18 นาย ตามสถานการณ์และพฤติกรรมที่เกิดขึ้น
>> เพลิงไหม้บนอาคารพาณิชย์ ซอยพระยาสุเรนทร์ 15 รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ
18.14 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้ สถานที่เกิดเหตุ ซอยพระยาสุเรนทร์ 15 ถนนพระยาสุเรนทร์ แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กทม.
ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นอาคารพานิชย์ 4 ชั้น ใช้เป็นที่พักอาศัย ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ชั้น 3 เพลิงลุกไหม้เสื้อผ้า ที่นอน เเละผนัง พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 2 ตารางเมตร รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ
ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากการจุดดอกไม้ไฟ ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยบางชัน
>> เพลิงไหม้ที่ห้องครัว บนแฟลตย่านดินแดง ถนนมิตรไมตรี ประชาชนช่วยกันใช้ถังดับเพลิงทำการดับเพลิงสงบ
18.43 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้ สถานที่เกิดเหตุ แฟลต 9 ไม่มีเลขที่ ถนนมิตรไมตรี แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร
ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นอาคาร 5 ชั้น ใช้เป็นที่พักอาศัย ต้นเพลิงเกิดขึ้นบนห้องพัก ที่ชั้น 3 เพลิงลุกไหม้เตาแก๊ส ลุกลามปล่องระบายควัน ตู้เก็บของ เเละฝ้าเพดาน พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 4 ตารางเมตร ประชาชนใช้ถังดับเพลิงทำการดับเพลิงสงบ ก่อนรถดับเพลิงถึงที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงทำการระบายความร้อน
ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากการอุ่นอาหารทิ้งไว้ ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยสุทธิสาร
>> รถกระบะชนกับรถซาเล้ง กลางถนนหมายเลข 21 ผู้บาดเจ็บมีอาการสาหัส ก่อนจะไปเสียชีวิตที่ รพ.
19.33 น. รับแจ้งจาก มูลนิธิร่วมกตัญญูลพบุรี มีอุบัติเหตุ รถกระบะ ชนกับรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง และมีผู้บาดเจ็บสาหัส บนถนนหมายเลข 21 เส้นทางพุแค - หล่มสัก ฝั่งขาเข้า กทม. ก่อนถึงสี่แยกมะนาวหวาน 200 เมตร ในพื้นที่ ตำบลดีลัง อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี
ที่เกิดเหตุ รถจักรยานยนต์พ่วงข้าง (ซาเล้ง) สีแดง ล้มคว่ำสภาพรถพังทั้งคัน ใกล้กัน พบรถกระบะ มิตซูบิชิ สีเทา ป้ายทะเบียน ลพบุรี สภาพกันชนหน้าฝั่งขวา มีร่องรอยการชนได้รับความเสียหาย และห่างออกไปพบร่างของผู้ได้รับบาดเจ็บ เป็นผู้ชาย 2 ราย โดยมีอาการสาหัสและหมดสติ 1 รายเป็นผู้ขับขี่รถซาเล้ง ทางอาสาสมัครกู้ชีพ - กู้ภัย เร่งให้การช่วยเหลือและปั๊มหัวใจ ส่วนอีกรายนั้นเป็นผู้โดยสารรถซาเล้ง อาการไม่สาหัส ก่อนจะนำทั้ง 2 รายส่งโรงพยาบาลพัฒนานิคม และได้รับแจ้งว่าผู้บาดเจ็บที่อาการสาหัส ได้เสียชีวิตในเวลาตอ่มาที่โรงพยาบาล ในส่วนของสาเหตุที่แท้จริงนั้นอยู่ที่การสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พัฒนานิคม
>> แผ่นดินไหว ที่ประเทศเมียนมา
20.10 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 3.1 ความลึก 10 กม. ภายในพื้นที่ของประเทศเมียนมา ศูนย์กลางห่างออกไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ประมาณ 90 กม. ไม่มีรายงานผลกระทบต่อประเทศไทย
>> เพลิงไหม้อาคาร ริมถนนย่านวัชรพลซอย 18 รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ มีบาดเจ็บ 3 ราย อาสานำส่ง รพ.
23.55 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้ สถานที่เกิดเหตุ ซอยวัชรพล 18 ถนนวัชรพล แขวงคลองถนน เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร
ลักษณะที่เกิดเหตุเป็น อาคารพาณิชย์ 4 ชั้น 2 คูหา ประกอบกิจการ ร้านขายที่นอน และเฟอร์นิเจอร์ ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ชั้น 1 เพลิงลุกไหม้เสียหายที่นอน เเละเฟอร์นิเจอร์ พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 60 ตารางเมตร รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ
ข้อสันนิษฐานเบื้องต้น สาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากเพลิงลุกไหม้เต็นท์บริเวณด้านข้างตัวอาคารเเล้วลุกลาม ที่เกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 3 ราย ( รายที่ 1 ) เป็นเพศชาย อายุประมาณ 61 ปี มีอาการบาดเจ็บที่ขา เนื่องจากกระโดดลงมาจากชั้นที่ 2 อาสาสมัครนำส่งโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศ ( รายที่ 2 ) เป็นเพศหญิง ไม่ทราบอายุ มีอาการบาดเจ็บที่ขา เนื่องจากกระโดดลงมาจากชั้นที่ 2 อาสาสมัครนำส่งโรงพยาบาลเปาโล เกษตร ( รายที่ 3 ) เป็นเพศหญิง อายุประมาณ 26 ปี มีอาการบาดเจ็บที่ขา เนื่องจากกระโดดลงมาจากชั้นที่ 2 อาสาสมัครนำส่งโรงพยาบาลเปาโล เกษตร พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยสายไหม
>> แผ่นดินไหว ประเทศเมียนมา
02.03 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 3.6 ความลึก 1 กม. ภายในพื้นที่ของประเทศเมียนมา ศูนย์กลางห่างไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 47 กม.