สาทิตย์ เหน็บ‘ธรรมนัส’แถลงยืดยาวแต่ไม่เคลียร์ตัวเอง ปมเรื่องเทาๆ ย้ำจุดยืนปชป.
สาทิตย์ สวน‘ธรรมนัส’ ยันปชป. ไม่ได้ดีแต่พูด เหน็บแถลงยืดยาวแต่ไม่เคลียร์ตัวเองเกี่ยวข้องเรื่องเทาๆ เชื่อการเมืองย้อนปี 35 เกิดยุคเทพ-มาร ฟ้องร้องเกิดขึ้นได้
เมื่อวันที่ 25 ธ.ค.2568 ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ตามภารกิจ กล่าวตอบโต้กรณีร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม สวนกลับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ประกาศไม่จับมือกับพรรคกล้าธรรมว่าดีแต่พูดทั้งที่ตอนเป็นรัฐบาลก็ไม่ได้ทำอะไรให้กับประเทศว่า การเสนอจุดยืนทางการเมืองเป็นเรื่องที่ทุกพรรคต้องมี
ในสถานการณ์การเมืองที่ความเชื่อมั่นต่อการเมืองของประชาชนตกต่ำลง เพราะกังวลเรื่องการเมืองสีเทา ทุกพรรคจำเป็นต้องมีจุดยืน ซึ่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นพรรคแรกที่ประกาศจุดยืนทางการเมืองว่าไม่สามารถทำงานกับพรรคกล้าธรรมได้ ไม่ได้จะสร้างความขัดแย้งหรือแตกแยก และไม่ใช่เรื่องที่จะไปเปิดวิวาทะกับพรรคกล้าธรรม
เมื่อนายอภิสิทธิ์เปิดไปแล้วเช่นนี้ พรรคอื่นก็กำหนดจุดยืนตัวเองได้ ถ้าพรรคกล้าธรรม จะประกาศจุดยืนว่าไม่สามารถร่วมทำงานกับพรรคประชาธิปัตย์ได้ เราก็ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา และไม่ใช่เรื่องที่ต้องโกรธกัน
“ดังนั้น ที่ร.อ.ธรรมนัส ตั้งโต๊ะแถลงยืดยาว จริงๆแล้ว สิ่งที่ผมอยากฟังที่สุดคือ จะเคลียร์ตัวเอง เรื่องที่หลายฝ่ายเกิดความสงสัยในความคลุมเครือไม่โปร่งใสในเรื่องการมีสีเทาๆ เข้ามาเกี่ยวข้องได้อย่างไรบ้าง ในประเด็นใดบ้าง ซึ่งยังได้ยินไม่ชัด มีแต่คำวิพากษ์วิจารณ์พรรคประชาธิปัตย์ เช่น เรื่องดีแต่พูด ซึ่งเราก็พูดแต่เรื่องดี ไม่ใช่ดีแต่พูด”
นายสาทิตย์ กล่าวต่อว่า เรื่องนี้คงไม่ถือเป็นวิวาทะและไม่ตอบโต้ แต่ก็เตรียมข้อเท็จจริงชี้แจงไว้แล้ว เพราะสิ่งที่กล่าวหา เป็นเรื่องที่เกิดต่างกรรมต่างวาระ และย้อนรอยถอยหลังกลับไป 20-30 ปี แล้วจับมาพูดแบบสับสนมาก
ตนยังยืนยันว่า จุดยืนของการไม่ร่วมงานกับพรรคกล้าธรรมของนายอภิสิทธิ์ เป็นมติพรรคประชาธิปัตย์แล้ว และจะเป็นจุดยืนที่ท้าทายเกมอำนาจทางการเมืองในการเลือกตั้งครั้งนี้ว่า ไม่ใช่คลุมเครือ อ้ำอึ้งหรือกั๊ก เพื่อจะรอร่วมรัฐบาล แต่จุดยืนของพรรคการเมืองที่จะยืนหยัดอยู่ในการเมืองที่สุจริตจำเป็นต้องประกาศว่าเป็นอย่างไร
“ก็ดีที่พรรคประชาชน อ้ำอึ้งในตอนแรก ก็พูดชัดเจนขึ้นว่าจะไม่ร่วมงานกับพรรคกล้าธรรมเช่นเดียวกัน และเห็นร.อ.ธรรมนัส อ้างถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่า สมมติว่าไม่มีใครเอาก็ไปร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย อันนี้ก็อยากฟังเหมือนกันว่าภูมิใจไทยจะตอบอย่างไร”นายสาทิตย์ กล่าว
เมื่อถามว่าร.อ.ธรรมนัส ระบุว่าการที่พรรคประชาธิปัตย์ออกมาพูดว่าจะไม่จับมือกับพรรคกล้าธรรมเป็นการเสียมารยาททางการเมือง นายสาทิตย์กล่าวว่า ต้องแยกระหว่างจุดยืนทางการเมืองกับมารยาททางการเมืองออกจากกัน การไปบูลลี่คนอื่นว่าฟันน้ำนมยังไม่หัก นี่คือมารยาททางการเมือง
ต่อข้อถามว่าร.อ.ธรรมนัสระบุว่าพรรคประชาธิปัตย์ประกาศอย่างนี้เพราะไม่พอใจที่สส.ของพรรคย้ายไปอยู่พรรคกล้าธรรมจำนวนมาก รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่เป็นประเด็นเลย เพราะสส.เก่าของพรรคประชาธิปัตย์ย้ายไปหลายพรรค และเราไม่ได้พูดถึงพรรคอื่นเลย
ดังนั้นในความคิดของนายอภิสิทธิ์กับพรรคประชาธิปัตย์ ตัดสินใจจุดยืนเรื่องนี้โดยไม่มีเรื่องการเมืองใดๆ และความแค้น เข้ามาเกี่ยวข้อง
“ลองกลับไปดูการเมืองยุคปี 35 ที่เกิดเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ยุคนั้นเรียกว่าเทพ-มาร ซึ่งสถานการณ์ขณะนี้ใกล้เคียง เพราะคนต้องการการเมืองสุจริต แต่ยุคนั้นเขาต้องการการเมืองที่ต้องปฏิรูป ไม่ต้องการนักการเมืองที่ไม่ชัดเจน ไม่โปร่งใส” นายสาทิตย์ กล่าว
ฉะนั้นจากวันนี้ ขอเรียกร้องประชาชนว่าขอให้ติดตามถ้อยแถลงทางการเมืองกับจุดยืนของแต่ละพรรคผ่านช่องทางต่างๆ เพราะการเมืองเราจะสร้างภาพหรือนโยบายอย่างใดก็ได้ แต่จุดยืนทางการเมืองและอุดมการณ์ต่างหากที่จะชี้ว่าพรรคนั้น ฟังเสียง และเคารพความคิดเห็นประชาชนแค่ไหน
ส่วนที่ร.อ.ธรรมนัสเตรียมจะฟ้องข้อหาหมิ่นประมาทนั้น นายสาทิตย์กล่าวว่า การฟ้องกันทางการเมืองเกิดขึ้นได้ เป็นเรื่องปกติ แต่เรามั่นใจในจุดยืนที่ประกาศ ว่าไม่ใช่เรื่องหมิ่นประมาทหรือใส่ร้ายใคร เพราะไม่ได้บอกว่าเขาผิดในเรื่องใด แต่เป็นเพราะความไม่โปร่งใส คลุมเครือ เทาๆ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่อยู่ในเจตนารมณ์ของจริยธรรมทางการเมืองในรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทีมข่าวสด รายงานเมื่อวันที่ 25 ธ.ค.2568
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : สาทิตย์ เหน็บ‘ธรรมนัส’แถลงยืดยาวแต่ไม่เคลียร์ตัวเอง ปมเรื่องเทาๆ ย้ำจุดยืนปชป.
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.khaosod.co.th