สายสุดท้าย ไม่ถึง 2 ชั่วโมง ก่อนที่ ‘จ.ส.อ.อนันดา’ จะจากไป พี่สาว เผยคำสัญญา “เขาบอกจะกลับมาหาพ่อกับพี่ แต่สุดท้ายไม่ได้กลับมา”

สายสุดท้าย ไม่ถึง 2 ชั่วโมง ก่อนที่ ‘จ.ส.อ.อนันดา’ จะจากไป พี่สาว เผยคำสัญญา “เขาบอกจะกลับมาหาพ่อกับพี่ แต่สุดท้ายไม่ได้กลับมา” ยัน ภูมิใจในตัวน้องชาย พร้อม ทิ้งตัวแทน“เจ้ามะลิ” ไว้ให้ดูต่างหน้า

วันที่ 25 ธ.ค. 2568 ที่กองบัญชาการกองทัพไทย นายเวียง อุดร (พ่อ) อายุ 78 ปีและ นางสาวศุภัสษร อุดร (พี่สาว) อายุ 46 ปี ครอบครัวของ จ.ส.อ.อนันดา อุดร ที่เสียชีวิตจากการปะทะสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณพื้นที่ภูมะเขือ จ.ศรีสะเกษ โดย นางสาวศุภัสษร เปิดเผยความรู้สึกที่มีกับน้องชาย ว่า รู้สึกภูมิใจ ที่น้องทำเพื่อประเทศชาย จ.ส.อ.อนันดา เป็นน้องคนสุดท้อง ก่อนที่จะโดนสะเก็ดระเบิดช่วงบ่าย ก็ได้มีการโทรคุยกันกับตน

“บอกให้เขาดูแลตัวเองดีๆ น้องชายบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วงเขา เขาจะกลับมาหาพ่อกะพี่ แต่สุดท้ายเขาก็ไม่ได้กลับมา ”นางสาวศุภัสษร กล่าว

นางสาวศุภัสษร กล่าวต่อว่า น้องเป็นความภาคภูมิใจของครอบครัว ของตำบล ของหมู่บ้านเรา และน้องตั้งใจสอบเป็นนักเรียนนายสิบ ซึ่งจริงๆน้องไม่ต้องไปชายแดน แต่น้องอยากไป

นางสาวศุภัสษร กล่าวต่อว่า ตนคุยกะน้องตลอดตั้งแต่การปะทะรอบแรกและรอบสอง ตนได้บอกน้องว่าไม่ต้องไปได้ไหมในรอบสอง แต่น้องบอกว่ามันเป็นหน้าที่ อยากทำเพื่อประเทศชาติ

โดยยอมรับว่าตอนที่รู้ข่าวครั้งแรกทำตัวไม่ถูก เพราะพึ่งคุยกับน้องไม่ถึง 2 ชั่วโมง ก่อนที่เหตุการณ์จะเกิดขึ้น วันที่ 9 ธ.ค. 68 โดยทราบข่าวจากคนที่รู้จักกัน เขาถามว่าไม่ไปเยี่ยมน้องหรอ ซึ่งตนก็เลยถามกลับไปว่าไปเยี่ยมทำไม น้องไม่ได้เป็นอะไร จนทราบข่าวทีหลังว่าน้องถูกสะเก็ดระเบิดและเสียชีวิตในวันต่อมา (10 ธ.ค. 68)

ทั้งนี้ นางสาวศุภัสษร ระบุว่า น้องชายมีตัวแทนที่ทิ้งไว้ให้ ชื่อน้องมะลิ ตอนที่น้องชายมีชีวิตอยู่ ชอบอุ้ม ชอบเล่น น้องชายเลี้ยงมะลิมาตั้งแต่การปะทะรอบแรก ที่น้องชายได้เก็บน้องมะลิมาเลี้ยง