โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

อาชญากรรม

ศึกสายเลือด! แค้นสะสมพี่น้องคุยไม่ลงตัวธุรกิจกงสี ยิงดับก่อนปลิดชีพ

Amarin TV

เผยแพร่ 11 ส.ค. เวลา 13.49 น.
ศึกสายเลือด! แค้นสะสมคุยธุรกิจกงสีไม่ลงตัว พี่ชายลั่นไกใส่น้องตัวเอง พร้อมจ่อยิงหลาน ก่อนปลิดชีพหนีความผิด หวังสางปัญหาคั่งค้างมากกว่า 20ปี

ศึกสายเลือด! แค้นสะสมคุยธุรกิจกงสีไม่ลงตัว พี่ชายลั่นไกใส่น้องตัวเอง พร้อมจ่อยิงหลาน ก่อนปลิดชีพหนีความผิด หวังสางปัญหาคั่งค้างมากกว่า 20ปี

เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 11 ส.ค. 68 ร.ต.อ.ธนณัฐฏ์ อินธรประเสริฐ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองนครปฐม ได้รับแจ้งมีคนถูกอาวุธปืนยิงเสียชีวิต และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกหลายราย และได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 1 ราย

เหตุเกิดที่บ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่5 ถนนไผ่เตยใต้ ต.ห้วยจระเข้ อ.เมือง จ.นครปฐม หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อม พ.ต.อ.อชิรวัตติ์ ถาวรเจริญวัฒน์ ผกก.สภ.เมืองนครปฐม และชุดสืบสวนแพทย์เวร รพ.นครปฐม เจ้าหน้าที่มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม กองพิสูจน์หลักฐาน7

ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ศูนย์กู้ชีพ โรงพยาบาลนครปฐม และเจ้าหน้าที่มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม ได้เร่งการปฐมพยาบาลทำซีพีอาร์ให้กับผู้ได้รับบาดเจ็บสองราย โดยหนึ่งรายเป็นชายสูงวัย และอีกคนหนึ่งเป็นคนหนุ่ม ทราบว่าทั้งคู่เป็นพ่อลูกกัน จากนั้นได้นำส่งผู้เป็นพ่อที่โรงพยาบาลกรุงเทพสนามจันทร์ ส่วนลูกชายได้เร่งนำส่งไปที่โรงพยาบาลนครปฐม โดยแพทย์ได้เร่งทำการยื้อชีวิตทั้งสองคนเอาไว้ แต่ทั้งคู่ทนพิษบาดแผลไม่ไหว และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ขณะเดียวกันทราบว่าในที่เกิดเหตุได้มีผู้ถูกยิง และเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 รายจึงได้ประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน7 และแพทย์เวรโรงพยาบาลนครปฐมชันสูตรพลิกศพ

จากการตรวจสอบพบว่า ที่เกิดเหตุอยู่ริมถนน โดยบ้านหลังแรกที่มีชายถูกยิงสองคนอยู่บริเวณปากทาง ส่วนบ้านด้านในเป็นบ้านชั้นเดียว มีรถเก๋งหรูจอดอยู่ ภายในบ้านพักพบศพนายสมศักดิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 70 ปี เจ้าของบ้านนอนหงายเสียชีวิตอยู่ที่บริเวณกลางบ้าน สวมเสื้อสีดำ กางเกงขาสั้นสีเทา ถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่บริเวณขมับขวา 1 นัด นอนจมกองเลือด ใกล้กันพบอาวุธปืนขนาด 9 มม.ตกอยู่เจ้าหน้าที่จึงเก็บเป็นหลักฐาน

ส่วนผู้ที่ถูกยิงเสียชีวิต 2 รายคือนายสมชาย (สงวนนามสกุล) อายุ 63 ปี ถูกยิงเข้าที่หน้าอก และลำตัว ส่วนลูกชายคือนายทรงยศ (สงวนนามสกุล) อายุ 20 ปีนอนร้องครวญครางจมกองเลือดอยู่ที่หน้าบ้านเจ้าหน้าที่นำขึ้นรถกู้ชีพปั๊มหัวใจทำการช่วยชีวิตทั้งคู่ จนสุดความสามารถ แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ โดยบริเวณดังกล่าวมีชาวบ้านที่ตกใจกับเหตุการณ์ดังกล่าวมาจับกลุ่มดูหลังเหตุการณ์ด้วยความตกใจ

จากการสอบถามในเบื้องต้น ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายสมศักดิ์ผู้ก่อเหตุ นายสมชาย และนายทรงยศ ซึ่งทั้งคู่ได้เป็นพี่น้องกันจาก 5 คนพี่น้อง โดยนายสมศักดิ์เป็นลูกคนที่ 2 ส่วนสมชายเป็นลูกคนที่ 4 ในครอบครัว ซึ่งได้มีปัญหากัน โดยมีปากเสียงเกี่ยวกับเรื่องธุรกิจห้องเช่า และทรัพย์สมบัติ ที่ผ่านมาทั้งผู้ก่อเหตุและผู้บาดเจ็บนั้นมีปากเสียงกันมาอย่างยาวนานหลายปีแล้ว ในทั้งเรื่องของธุรกิจทรัพย์สิน ซึ่งเป็นเงินกงสีของครอบครัว ก่อนเกิดเหตุได้มีปากเสียง และเคยพูดท้าทายข่มขู่กันมาตลอดว่าจะยิงกัน โดยมีเรื่องถนนทางเข้าบ้าน ซึ่งบ้านผู้ก่อเหตุอยู่ด้านใน ส่วนพ่อลูกจะมีบ้านอยู่ตรงทางออก ทำให้มีการท้าทาย และสะสมความขัดแย้งกันมากว่า20ปี

สอบถาม น.ส.ฝน ผู้เห็นเหตุการณ์ บอกว่า ตนเองนั่งอยู่ในร้านอาหารที่อยู่ตรงข้ามที่เกิดเหตุ และเหตุผู้ชายคนที่ก่อเหตุ คนเรียกกันว่าอาจารย์ ซึ่งน่าจะเป็นอดีตอาจารย์ได้เดินมายิงผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งเป็นลูกชายคือนายทรงยศ ไป 1 นัด และนอนร้องโอดโอยครวญครางด้วยความเจ็บปวด จากนั้นได้เห็นว่ามีการต่อสู้ยื้อยึดกันกับผู้หญิงคนหนึ่ง ผมสีขาว คาดว่าน่าจะเป็นภรรยาของนายสมชาย และได้มีการวิ่งเข้าไปในบ้านที่อยู่ปากซอย ก่อนจะได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด คาดว่าน่าจะยิงใส่นายสมชาย ผู้เป็นพ่อ และพากันวิ่งออกมาที่หน้าบ้าน ก่อนจะชักปืนยิงใส่นายทรงยศอีก 1-2 นัดแล้วค่อยๆ เดินกลับไปบ้านอย่างใจเย็น เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งตนเองได้บอกให้แฟนโทรศัพท์แจ้งตำรวจว่า มีเหตุยิงกัน ไม่นานก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัดมาทราบทีหลังว่าเป็นการยิงตัวตายของผู้ก่อเหตุ

โดยจากการตรวจสอบกำนัน และผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ทราบว่า เหตุความขัดแย้งของสองครอบครัวนี้เกิดขึ้นมายาวนาน โดยได้เคยมีการเชิญผู้นำให้ไปช่วยไกล่เกลี่ยหลายครั้ง แต่ก็ไม่สำเร็จ จนเป็นที่ทราบดีว่านายสมศักดิ์ และนายสมชายไม่ถูกกันอย่างรุนแรง กระทั่งมาเกิดเหตุสลดในวันนี้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้มีการสอบปากคำพยานบุคคล และติดตามภาพจากกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุมาประกอบ เพื่อสรุปสาเหตุของชนวนเหตุนี้ให้แน่ชัดอีกครั้งหนึ่ง

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...