โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ด่วน! ศาล ชี้ชะตาคดีทักษิณ ชั้น 14 วันที่ 9 กันยา หลังไต่สวนพยานปากสุดท้าย

Khaosod

อัพเดต 30 ก.ค. เวลา 04.49 น. • เผยแพร่ 30 ก.ค. เวลา 03.30 น.
ด่วน! ศาล ชี้ชะตาคดีทักษิณ ชั้น 14 วันที่ 9 กันยา หลังไต่สวนพยานปากสุดท้าย

ศาลไต่สวนคดีชั้น 14 นัดสุดท้าย เรียก วิษณุ ขึ้นเบิกความ ก่อนนัดชี้ชะตา 9 ก.ย.นี้ ทนายวิญญัติ ยันวันนัดฟังคำสั่งศาลออกหมายเรียกผบ.เรือนจำฯคนเดียวไม่มีนัยยะสำคัญ

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 30 ก.ค. ที่ศาลฏีกา ถนนราชดำเนินใน ศาลนัดไต่สวนคดีหมายเลขดำที่ บค.1/2568 กรณีตรวจสอบข้อเท็จจริงการบังคับโทษคดีถึงที่สุดนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 7

ก่อนหน้านี้ศาลได้นัดไต่สวนนายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพ กลุ่มแพทย์ประจำสถานพยาบาลราชทัณฑ์ 5 ปาก และกลุ่มพัศดีเวรประจำวัน เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ผู้บริหารกรมราชทัณฑ์ แพทย์ของโรงพยาบาลตำรวจ และตัวแทนจากแพทยสภา

โดยวันนี้เป็นการไต่สวนพยาน จำเลย 1 ปาก คือนายวิษณุ เครืองาม ขึ้นเบิกความในเวลา 09.30 น. โดยศาลอนุญาตให้โจทก์ (คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ) ชักถามพยานเพิ่มเติมได้ตามที่เห็นสมควร คดีเสร็จการไต่สวน

ทั้งนี้ นายวิษณุ ได้ส่งเอกสารประกอบการเบิกความล่วงหน้าต่อศาล 1 ฉบับ ทำให้วันนี้เป็นการที่ศาลซักถามเพิ่มเติมตามแต่ละข้อสงสัย

โดยนายวิษณุ เบิกความในฐานะพยานสรุปว่า ก่อนที่นายทักษิณ อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางกลับประเทศไทยก่อนวันที่ 22 ส.ค. 2566 ว่าได้รับข้อมูลการเดินทางกลับของนายทักษิณจากสื่อมวลชนซึ่งทำให้มีการเตรียมพร้อมเก้อ หลายครั้งกระทั่งได้รับการยืนยันจากเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงและสถานทูต

จากนั้นจึงได้มีการประชุมกับเจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในกระบวนการยุติธรรมเพื่อเตรียมพร้อมในการรับตัวนักโทษ มีการเตรียมพร้อม เพราะจำเลยเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีถือเป็นบุคคลสำคัญทางการเมืองของประเทศไทย น่าจะมีศัตรูและน่าจะมีการเจ็บป่วยเนื่องจากสูงอายุ

ทั้งนี้ นายวิษณุ ได้เดินทางไปพิจารณาสถานที่กักขังของนักโทษหลายรายเพื่อประกอบการตัดสินใจแต่ไม่ได้มีการเตรียมการสำหรับการย้ายตัวไปรักษาพยาบาลนอกทัณฑสถาน แต่ทั้งนี้มีการหารือว่าหากมีการเจ็บป่วยจะต้องส่งตัวไปที่โรงพยาบาลใดซึ่งเบื้องต้นตั้งหลักให้เป็นโรงพยาบาลของรัฐบาลแต่หากมีอาการป่วยจำเพาะที่ต้องการหมอเฉพาะทางให้พิจารณาตามโรงพยาบาลที่มีข้อตกลงร่วมกัน

ทั้งนี้นายวิษณุ ได้พบนายทักษิณที่สถานพยาบาลเรือนจำพิเศษกรุงเทพซึ่งได้เข้าไปพร้อมคณะเจ้าหน้าที่ ได้พูดคุยกับทักษิณเป็นระยะเวลา 20 นาที ณ ขณะนั้นยืนยันว่าไม่ได้มีการพูดถึงการพักโทษหรือการย้ายตัวคุมขัง แต่ทางจำเลยสอบถามตนเองเรื่องการขอพระราชทานอภัยโทษ ซึ่งต่อมานายทักษิณได้รับพระราชทานอภัยโทษ แต่เรื่องไม่ผ่านมาที่ตนในฐานะรักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม

นอกจากนี้ยังได้พูดถึงปัญหาสุขภาพของทักษิณ และการออกกำลังกายในครั้งที่อยู่ต่างประเทศ โดยตนเองได้ให้คำแนะนำว่าหลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการต่างๆตามกฎหมาย อยากให้นายทักษิณได้บวชเข้าสู่ทางธรรม ซึ่งนายทักษิณแจ้งว่ามีปัญหาส่วนตัวเล็กน้อยจึงไม่สะดวก

ในช่วงกลางดึกของวันที่ 22 ส.ค. ที่มีการย้ายตัวนายทักษิณเข้ารักษาตัวด่วนที่โรงพยาบาลตำรวจ ตนเองได้ทราบข้อมูลภายหลังจากการส่งตัวแล้วจากปลัดกระทรวงยุติธรรม ซึ่งตนได้สอบถามว่าย้ายตัวไปโรงพยาบาลใด ทางปลัดฯจึงระบุว่าเป็นโรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งก่อนหน้านายทักษิณระบุว่าต้องการไปโรงพยาบาลย่านพระราม 9 ซึ่งตามระเบียบเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว

ต่อมาภายหลังการไต่สวนพยานปากสุดท้ายเสร็จสิ้นศาลได้นัดฟังคำสั่งคดีนี้ในวันที่ 9 ก.ย. 2568 เวลา 10.00 น. โดยศาลได้ออกหมายเรียกนายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ คนปัจจุบันเข้ามาฟังคำสั่งการบังคับโทษของนายทักษิณ

ต่อมานายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการไต่สวนว่า ในวันนี้เป็นการไต่สวนที่ทำให้มีความสมบูรณ์ในหลายส่วนมากขึ้น จากการไต่สวนช่วงแรกที่เป็นหน่วยงานราชการและแพทยสภา ซึ่งมีข้อจำกัดในเรื่องที่ตัวแทนจากแพทยสภาไม่ใช่ผู้ที่ทำการรักษาตัวนายทักษิณโดยตรง ดุลยพินิจต่าง ๆ จึงเป็นไปตามข้อบังคับของแพทย์อยู่แล้ว

ในวันนี้การที่ศาลออกหมายเรียก นายวิษณุ เครืองามเข้ามาไต่สวนจึงได้ความชัดเจนถึงกระบวนการเตรียมการหลังจากการกลับมาจากต่างประเทศของนายทักษิณ เนื่องจากเป็นบุคคลสำคัญซึ่งเคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

นายวิญญัติ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ นายวิษณุ ก็ยังยืนยันว่าไม่มีการเตรียมการส่งตัวนายทักษิณออกไปรักษาภายนอกอยู่แล้วแต่การที่ส่งตัวออกไปเป็นเรื่องกะทันหันจึงต้องส่งตัวออกไปรักษายังโรงพยาภายนอก แม้นายทักษิณจะเลือกรักษายังโรงพยาบาลเอกชนแต่ก็ไม่สามารถทำได้

เมื่อถามว่าการไต่สวนพยานของจำเลยมีทั้งหมดกี่ปาก นายวิญญัติ กล่าวว่า ในตอนแรกตนและทีมทนายความได้เตรียมพยานไว้ทั้งหมดหลายปาก แต่ก็คัดจนเหลือ 3 ปาก ซึ่ง 2 ใน 3 เป็นพยานที่ศาลต้องออกหมายเรียกแล้วคืออดีตแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจและแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจคนปัจจุบัน จึงเหลือพยานแค่ 1 ปากคือนายวิษณุที่เข้ามาเบิกความในวันนี้

เมื่อถามว่าการนำนายวิษณุ เข้ามาเบิกความในวันนี้จะทำให้คดีมีผลดีขึ้นหรือไม่ นายวิญญัติ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่มีความเห็นเพราะไม่อยากไปก้าวล่วงดุลยพินิจของศาล

เมื่อถามวาการออกหมายเรียกผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯเข้ามาฟังคำสั่งวันที่ 9 ก.ย.มีนัยยะอะไรสำคัญหรือไม่ นายวิญญัติ กล่าวว่า ไม่มีนัยยะสำคัญอะไรแน่นอน เพราะเป็นเรื่องกระบวนการไต่สวนบังคับโทษอยู่แล้วคือกรมราชทัณฑ์ ซึ่งผู้บัญชาการเรือนจำเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องเรื่องนี้ ศาลจึงออกหมายเรียกเพื่อให้เข้ามาฟังคำสั่งศาล

เมื่อถามว่าคดีนี้จะมีปรากฎการณ์อะไรที่จะเกิดขึ้นในอนาคตบ้าง นายวิญญัติ กล่าวว่า ตนตั้งข้อสังเกตว่า การไต่สวนการบังคับโทษแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์มาก่อน ถือว่าเป็นเรื่องที่ประชาชนในสังคมจะต้องจับตามองการฟังคำสั่ง และตนมองว่าต้องมาดูกันอีกครั้ง และตนและทีมทนายความก็ได้ยื่นหลักฐานความจริงไปต่อศาลทั้งหมดแล้ว

ขณะที่นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีตสส.นครนายก พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า วันนี้เป็นการไต่สวนพยานจำเลยนัดสุดท้าย มีเรื่องที่ศาลสนใจคือเรื่องกฎหมายว่ากรมราชทัณฑ์ดำเนินการอย่างไรบ้างเพื่อให้เป็นไปตามระเบียบกฎหมาย ซึ่งนายวิษณุ เครืองามพยานจำเลยเบิกความประเด็นที่มีการปรึกษาหารือในการรับตัวนายทักษิณกลับมารับโทษที่เมืองไทย กับปลัดกระทรวงยุติธรรม ว่าถ้าหากนายทักษิณมีอาการป่วยจะต้องดูแลอย่างไร

ตนตั้งข้อสังเกตว่านายทักษิณเป็นจำเลยในคดีทุจริต แต่กลับดูแลแบบนักโทษพิเศษเหมือนเป็นบุคคลสำคัญได้อย่างไร ที่ผ่านมาศาลได้ให้โอกาสให้ทุกฝ่ายชี้แจงข้อเท็จจริง คดีนี้จะเป็นคดีตัวอย่างคดีประวัติศาสตร์ ซึ่งนายวิษณุเบิกความเสร็จแล้ว

ทั้งหมดจะเป็นดุลยพินิจของศาล ซึ่งนัดฟังคำสั่ง 9.ก.ย.นี้. หลังจากนั้นตนจะตรวจสอบประเด็นที่ตนได้ร้องต่อศาล 1.ป่วยจริงหรือไม่ 2.มีใครเกี่ยวข้องบ้าง 3.คำให้การทั้งหมดมีข้อเท็จจริงอย่างไร

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ด่วน! ศาล ชี้ชะตาคดีทักษิณ ชั้น 14 วันที่ 9 กันยา หลังไต่สวนพยานปากสุดท้าย

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.khaosod.co.th

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...