ลูกดื่มนมเวลาไหน "เวิร์กสุด" ดูดซึมดี-เสริมภูมิเยี่ยม ตอนเช้า vs ก่อนนอน ต่างกันอย่างไร?
ลูกดื่มนมตอนไหน "เวิร์กสุด" เปิด 4 ช่วงเวลาทอง ช่วยดูดซึมสารอาหาร เสริมภูมิคุ้มกันให้ลูกรัก สูงไว-ป่วยยาก!!
"นม" เปรียบเสมือน "ซูเปอร์ฟู้ด" สำหรับเด็กๆ นอกจากจะอุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นแล้ว ยังเป็นตัวช่วยสำคัญในการสร้างเกราะป้องกันโรคและเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน แต่คุณพ่อคุณแม่รู้ไหมว่า? เพื่อให้นมแก้วโปรดออกฤทธิ์ได้เต็มประสิทธิภาพ "เวลาในการดื่ม" คือกุญแจสำคัญ
งานวิจัยชี้ว่าระบบภูมิคุ้มกันของเด็กยังพัฒนาไม่เต็มที่ ทำให้เปราะบางต่อไวรัสและแบคทีเรีย นอกจากการกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ตามวัยแล้ว การเลือกช่วงเวลาเสิร์ฟนมให้ลูก นอกจากจะช่วยให้ร่างกายดูดซึมได้ดีที่สุด ยังช่วยสร้างวินัยให้ลูกไม่ลืมดื่มนมอีกด้วย
และนี่คือ 4 ช่วงเวลาที่ดีที่สุด ที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้เด็กๆ ดื่มนม
1. ดื่มตอนเช้า "หลังตื่นนอน"
ช่วงเวลาที่เพิ่งตื่นนอน ท้องของลูกจะว่างและระบบย่อยอาหารกำลังต้องการพลังงาน การดื่มนมตอนเช้าช่วยรักษาความสมดุลของระบบทางเดินอาหาร ในเวลานี้ลำไส้ยังสะอาด ไม่มีสารพิษตกค้าง ทำให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารจากนมไปใช้ได้อย่างเต็มที่
คำแนะนำ: หากดื่มตอนท้องว่าง ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ดื่ม "นมจืดอุ่นๆ" จะดีที่สุด เพราะช่วยปลอบประโลมกระเพาะอาหาร กระตุ้นเอนไซม์ช่วยย่อย ทำให้ร่างกายนำสารอาหารไปใช้ได้ง่ายขึ้น หลีกเลี่ยงนมเย็นจัดในตอนเช้า
2. ดื่มไปพร้อมกับ "มื้ออาหาร" (มื้อเช้า)
การให้นมลูกพร้อมกับมื้อเช้าเบาๆ เช่น ขนมปัง หรือ ไข่ต้ม ถือเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม เพราะจะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่หลากหลายและสมดุลยิ่งขึ้น
ที่สำคัญ นมและผลิตภัณฑ์จากนมมีส่วนช่วยในการ "ย่อยสลายโปรตีน" ให้กลายเป็นกรดอะมิโน ซึ่งจะช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดในมื้อนั้นๆ
3. ดื่มหลังจาก "ออกกำลังกาย" หรือเล่นซน
หลังจากวิ่งเล่นจนเหงื่อท่วม หรือกลับจากโรงเรียน เด็กๆ มักจะสูญเสียพลังงานและรู้สึกหิว การดื่มนมสักแก้วในช่วงนี้จะช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อ และช่วยเติม "ไกลโคเจน" (Glycogen) ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานหลักกลับคืนสู่ร่างกาย
การดื่มนมช่วงนี้ยังช่วยดับกระหาย คลายร้อน และทำให้อิ่มท้อง ช่วยกันไม่ให้ลูกไปคว้าขนมขบเคี้ยวหรือของหวานไม่มีประโยชน์มากินแทนข้าว (นอกจากนมแล้ว ผลไม้ฉ่ำน้ำอย่าง แตงโม สับปะรด หรือกล้วย ก็เหมาะมากในช่วงเวลานี้)
4. ดื่มก่อนนอน "ประมาณ 2 ชั่วโมง"
นมแก้วสุดท้ายของวันมีความสำคัญมาก การดื่มนมก่อนนอนช่วยให้ลูกหลับลึกและยาวนานขึ้น ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายซ่อมแซมตัวเอง เพิ่มความสูง และเสริมสร้างพัฒนาการสมอง
ข้อควรระวัง: ควรเว้นระยะห่าง 1-2 ชั่วโมงก่อนเข้านอนจริง เพื่อป้องกันกรดไหลย้อนหรือท้องอืด และควรเลือกเป็น "นมจืดอุ่นๆ" เพื่อความผ่อนคลาย หลีกเลี่ยงนมรสหวานจัดในมื้อดึก เพราะอาจทำให้น้ำหนักตัวเกินเกณฑ์ได้
การเลือกเวลาดื่มนมส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพ พลังงาน และอารมณ์ของลูกน้อย "มื้อเช้า" ช่วยเติมพลังให้สดใสทั้งวัน ส่วน "มื้อค่ำ" ช่วยให้ผ่อนคลายและหลับสบาย คุณพ่อคุณแม่ลองนำตารางเวลานี้ไปปรับใช้ เพื่อให้ลูกได้รับประโยชน์จากนมแก้วโปรดอย่างคุ้มค่าที่สุดนะ