กองทัพเข้มส่งน้ำมันช่องเม็ก ทำลายปืนใหญ่ 7 กระบอก โดรน 175 ลำ ทหารกัมพูชาตาย 505 นาย

วันนี้ (15 ธ.ค.2568) ศูนย์แถลงข่าวร่วมสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รายงานภาพรวมปฏิบัติการเหตุการณ์ปะทะกันตามแนวชายแดนไทย- กัมพูชา

พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า ประเทศไทยยังคงเน้นย้ำจุดยืนในการปกป้องอธิปไตยภายใต้หลักมนุษยธรรม ยึดหลักกติกาสากลและหลีกเลี่ยงการโจมตีที่ส่งผลกระทบต่อพลเรือน

การโจมตีของทหารกัมพูชาที่ผ่านมา นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า ได้ใช้โบราณสถานเป็นฐานที่ตั้งทางการทหารในการโจมตีไทย ซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ในอนุสัญญาเพื่อการป้องกันทรัพย์สินทางวัฒนธรรมในสถานการณ์ขัดกันทางอาวุธ และอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองมรดกโลกทางวัฒนธรรมและทางธรรมชาติ จึงเรียกร้องให้ทหารกัมพูชายุติการใช้โบราณสถานเป็นฐานที่ตั้งทางทหารและหยุดบิดเบือนข้อมูล

นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า โบราณสถานที่ถูกทำลายเพราะทหารกัมพูชาใช้เป็นฐานที่ตั้งทางทหาร เช่น ปราสาทตาควาย ทางกรมศิลปากรสามารถที่จะฟื้นฟูบูรณะให้กลับมาได้ แต่การดำเนินการจะทำได้เพียงโบราณสถานที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ประเทศไทยเท่านั้น

ด้าน พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยกรณีที่ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ออกคำสั่งควบคุมการส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิง ยุทโธปกรณ์ ณ จุดผ่านแดนถาวรช่องเม็ก จ.อุบลราชธานี ที่มีผลตั้งแต่เที่ยงคืนที่ผ่านมา ว่ามาตรการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อรักษาความมั่นคงและความสงบให้สอดคล้องกับสถานการณ์การสู้รบในพื้นที่ชายแดน หลังพบว่าทหารกัมพูชายังคงโจมตีเข้ามาในพื้นที่ที่ทหารไทยเข้าควบคุมได้ และส่งผลกระทบต่อบ้านเรือนของประชาชนอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ น.อ.นรา คุณโฑถม ผู้ช่วยโฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเหตุปะทะกันระหว่าง 2 ประเทศเท่านั้น จึงไม่มีมาตรการประกาศปิดอ่าวทะเล เพราะจะส่งผลกระทบต่อประเทศที่สาม แต่ได้เสนอให้มีประกาศเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยสูงทางทะเล ซึ่งจะมีผลบังคับเฉพาะเรือของไทยซึ่งจะลำเลียงอาวุธ หรือ น้ำมันไปยังกัมพูชาเท่านั้น เพราะอยู่ในขอบเขตและอำนาจหน้าที่ของไทย

สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นกับกองทัพกัมพูชาประมาณการว่า ตั้งแต่วันที่ 7-14 ธ.ค.ที่ผ่านมา ฐานที่ตั้งทางทหารถูกทำลาย 82 แห่ง , รถถัง 12 คัน , BM-21 ถูกทำลาย 1 ระบบ , โดรน 175 ลำ , ปืนใหญ่ 7 กระบอก และ มีทหารกัมพูชาบาดเจ็บและเสียชีวิต 505 คน

ขณะที่หลังปรากฏภาพทหารไทยสามารถตรวจยึดขีปนาวุธต่อต้านรถถังนำวิถียุคที่ 5 ที่เนิน 500 ซึ่งเป็นอาวุธที่ทันสมัยเพิ่งเปิดตัวไปเมื่อต้นปี 2025 คำถามตามมาว่าประเทศกัมพูชาที่ประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ ประชาชนหลายพื้นที่ขาดแคลนแม้แต่ยารักษาโรคแต่กลับมียุทโธปกรณ์ทันสมัยอยู่ในแนวรบชายแดนมูลค่าหลายล้านบาทต่อชิ้น

จึงเกิดคำถามถึงที่มาของงบประมาณในการเข้าถึงอาวุธนำวิถีทันสมัย หรือผู้สนับสนุน ซึ่งเป็นเรื่องที่ฝ่ายความมั่นคงกำลังจับตาเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด

อ่านข่าว :

อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ ประกาศอพยพประชาชน ไปยังศูนย์พักพิง

กัมพูชาอพยพ 4 แสนคน หนีปะทะชายแดน เด็ก-ผู้หญิงเดือดร้อนหนัก

ทภ.2 คุมเข้มด่านช่องเม็ก งดส่งออกน้ำมัน-ยุทโธปกรณ์ มีผลเที่ยงคืนนี้