เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ เสด็จร่วมงานกาล่าดินเนอร์ เผยโฉมคอลเลกชันเครื่องประดับชั้นสูง
เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 68 เวลา 19.50 น. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์แบรนด์ SIRIVANNAVARI เสด็จเป็นการส่วนพระองค์ไปในงานกาลาดินเนอร์ นำเสนอเครื่องประดับชั้นสูงคอลเลกชันจิวเวลรีชั้นสูงแห่งปี SIRIVANNAVARI X BEAUTY GEMS 2025 TREASURE OF DREAMS HAUTE JOAILLERIE COLLECTION ณ พระที่นั่งสราญรมย์ พระนคร กรุงเทพมหานคร
เพื่อสานต่อเรื่องราวความรักตราบนิรันดร์ของ Amour Éternel (Eternal Love) จากฤดูกาลที่ผ่านมา อีกครั้งกับการสร้างสรรค์ผลงานร่วมกันระหว่างแบรนด์ SIRIVANNAVARI และ BEAUTY GEMS แบรนด์อัญมณีชั้นนำของประเทศไทย ได้นำมาซึ่งความวิจิตรตระการตา และเลอค่าสมชื่อ ‘Treasure of Dreams’ คอลเลกชันเครื่องประดับชั้นสูง ประจำปี 2025 อันประกอบไปด้วย สุดยอดผลงานล้ำค่า 88 ชิ้น อันเปี่ยมด้วยความหมายเชิงสัญลักษณ์จากพระอัจฉริยภาพด้านการออกแบบของ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์แบรนด์ SIRIVANNAVARI ทรงเล่าถึงขั้นตอนการสรรค์สร้างคอลเลกชันเครื่องประดับชั้นสูงในครั้งนี้ว่า “ตลอดกระบวนการทำงานของคอลเลกชันนี้เป็นเหมือนการเปิดดูสมุดบันทึกงานออกแบบ หรือไม่ก็แฟ้มงานที่เคยทำไว้ เพื่อนำทุกความล้ำค่าของงานฝีมือ, แรงบันดาลใจ มาร้อยเรียงเป็นเรื่องราวบทใหม่ ด้วยภาษาแห่งเครื่องประดับรัตนศิลป์ ทางศาสตร์เครื่องประดับชั้นสูงถ่ายทอดความอ่อนหวาน และอ่อนโยนของเฉดสีในโทนพาสเทลลงสู่งานออกแบบตัวเรือนที่ช่วยทวีความงดงามในคุณลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัวของทั้งอัญมณี และรัตนชาติเลอค่า จากสีฟ้าต่างระดับความโปร่งใสระหว่างอะความารีนกับเทอร์คอยซ์ไปจนถึงหลากสีละลานตาของไพลินท่ามกลางประกายสุกสกาวของเพชรน้ำล้อแสงร่วมกับมอร์แกไนต์ และไข่มุกอาโกยะ ขณะเดียวกันก็มีสีแดงสดของทับทิมกับสีเขียวกระจ่างของมรกตเป็นลูกเล่นคั่นอารมณ์”
เพื่อถ่ายทอดความหมาย “คุณค่า และความล้ำค่าดุจฝัน” ของ Treasure of Dreamsที่สุดแห่งช่างศิลป์งานฝีมือแขนงต่างๆ ของ BEAUTY GEMS ต่างนำทักษะเหนือชั้นเฉพาะด้านมาใช้ กับทุกแง่มุมรายละเอียดของแต่ละผลงาน จากอเตอลิเยร์ของ SIRIVANNAVARI มาสู่สายตาเฉียบคม เปี่ยมประสบการณ์ของนักอัญมณีวิทยาที่ร่วมกันตรวจคัด เฟ้นหาอัญมณี และรัตนชาติคุณภาพสูง เช่นเดียวกับความเหนือชั้นเชิงทักษะเครื่องประดับชั้นสูง รังสรรค์ความอ่อนช้อย งดงามในทุกจังหวะการเคลื่อนไหวตามวงจรธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นพรรณพฤกษา หรือสัตว์น้อยใหญ่ ให้ปรากฏเป็นผลงานเลอค่าด้วยลูกเล่นการจัดสัดส่วนทั้งแบบสมมาตร และอสมมาตร สะท้อนความเป็นจริงตามธรรมชาติ อีกครั้งที่ประกายเพชรและอัญมณีขององค์นักออกแบบได้จรัสประกาย “สุข” สว่างให้ประจักษ์ต่อทุกสายตาและตราตรึงทุกหัวใจ
"ทุกขั้นตอนตลอดกระบวนการหัตถศิลป์ คือกลไกขับเคลื่อนสำคัญ นำมาซึ่งความโดดเด่นเป็นหนึ่งให้แก่เครื่องประดับชั้นสูงทุกชิ้น และแต่ละชิ้นล้วนแสดงถึงการสืบสาน และยกระดับทักษะของบรรดาเทคนิคเก่าแก่ดั้งเดิม ควบคู่ไปกับการนำนวัตกรรมล้ำสมัยมาประยุกต์ ไม่ว่าจะเป็นงานหล่อแบบ 3D, การขึ้นตัวเรือนโลหะ, งานเจียระไน และฝังรัตนชาติขึ้นตัวเรือน การทำงานเช่นนี้ทำให้เราสามารถพัฒนาผลงานอันมีความสดใหม่ ทันสมัย และร่วมสมัยได้อย่างต่อเนื่องตลอดเวลา”
สุริยน ศรีอรทัยกุล กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัท บิวตี้เจมส์ กล่าวถึงแต่ละขั้นตอนในการพัฒนาคอลเลกชัน “ด้วยการนำเทคนิคดั้งเดิมมาใช้ เพื่อเป็นการสืบสาน อนุรักษ์ความล้ำค่าทางหัตถศิลป์ชั้นสูงในงานเครื่องประดับไทย ความกล้าในการใช้ความคิดสร้างสรรค์ ได้ท้าทายเชิงเทคนิคได้อย่างน่าตื่นตา อย่างงานแกะสลัก, งานเจียระไน และขัดผิวกลึงลูกปัด, งานประกอบชิ้นส่วน และทักษะแขนงอื่นๆ ทำให้เราสามารถสร้างสรรค์รูปลักษณ์ที่มีความสมจริงตามธรรมชาติ ตามแนวคิดทรงออกแบบของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญาได้อย่างสมบูรณ์แบบ”
จากไพลินสีเหลืองสุกสกาวกลางพราวเพชร สู่สีเขียวต่างโทนระหว่างมรกตกับพลอยแพริดอต ตลอดจนประกายเจิดจรัสตัดเฉดระหว่างหินไข่นกการเวกฟ้าสด กับส้มแซลมอนของมอร์แกไนต์ แต่ละงานออกแบบ ล้วนแสดงให้เห็นถึงความเกี่ยวพันระหว่างงานฝีมือต่างสาขา อันสะท้อนซึ่งแรงบันดาลใจร่วมในงานศิลปะต่างแขนง โดยมีลูกเล่นเฉียบคมขององค์นักออกแบบในการเรียงร้อยทุกความแตกต่างและขัดแย้ง ให้ผสมผสานกันอย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นเหลี่ยมมุมเจียระไนกับความกลมกลึงของลูกปัด, ความกระจ่างใสของน้ำเพชร หรือน้ำพลอยกับเนื้อสีทึบแสงของไข่มุก หรือโปร่งแสงในงานประดับพลอยสลัก รวมกระทั่งโครงสร้างเปิดโปร่งของลายเส้นอ่อนช้อยสุดซับซ้อน กับน้ำหนักสีละมุนตาดุจกำมะหยี่ อันเป็นผลจากศิลปะฝังอัญมณีชิดขอบกลบโลหะตัวเรือน หรือ “การฝังแบบไร้หนาม” (invisible setting)
Treasure of Dreams เลอค่าดุจฝัน เพื่อสานงานสร้างสรรค์เครื่องประดับชั้นสูงของ SIRIVANNAVARI ผลงานส่วนหนึ่งใน Treasure of Dreams คือการนำมรดกงานออกแบบจากคอลเลกชันก่อนอย่าง Heirlooms of Elegance หรือล่าสุดคือ Amour Éternel มารังสรรค์ใหม่ โดยยังคงเอกลักษณ์, คุณค่า และความหมายแต่แรกเริ่มไว้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นเข็มกลัดกุหลาบควีนสิริกิติ์ อันเป็นอนุสรณ์ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแห่งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง (สมเด็จพระอัยยิกา), สร้อยข้อมือเพชร อันสื่อถึงของขวัญพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ตัวแทนความรัก และการส่งผ่านปรารถนาดี รวมกระทั่งดอกไม้พื้นบ้านอย่างดอกลำดวน หรือสัตว์น้อยใหญ่ใน “สวนของเจ้าหญิง” อาทิ นกยูง, ช้าง, นกฮูก ซึ่งยังครองสัญลักษณ์ หรือโลโก้ประจำแบรนด์
ขณะเดียวกัน บรรดาผลงานการออกแบบใหม่ ก็นำมาซึ่งความตื่นตา ตื่นใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เข็มกลัด “นกแอบรัก” หรือ The Royal Lovebird Brooch ถ่ายทอดความอ่อนหวานของลูกเล่นเฉดสีตามแนวทางศิลปะอิมเพรสชันนิสท์ จากภาพวาดฝีพระหัตถ์ในชื่อเดียวกันขององค์นักออกแบบ มาสู่รัตนศิลป์บนครรลองของความประณีต พิถีพิถันกับทุกรายละเอียดจากกรงนกทรงไทยติดตั้งชิงช้าแขวนคอนให้นกเกาะ รวมถึงบานประตูคู่เปิด-ปิดได้ระหว่างที่ โมราฑิฆัมพร (Blue Lace Agate) สลักลายถึง 11 เม็ดจุดประกายจินตนาการถึงฤดูใบไม้ผลิ ทิ้งตัวลงมาตามก้านช่อประดับพราวน้ำค้างลูกปัดแก้วพรรณราย และโอปอลสีชมพูของสร้อยคอและต่างหู Symphony of Poetry Multicolor เข้าเซ็ต ส่วนมรกตคัด 11 เม็ดเจียระไนทรงหยดน้ำหลังเบี้ยของสร้อยคอ Melody of Eden ก็ทิ้งตัวสะโอดสะอง แซมสลับใบเขียวของพลอยแพริดอต (Peridot) บนตัวเรือนอ่อนช้อย ชิ้นงานอันวิจิตรงดงามนี้รังสรรค์มาพร้อมกับต่างหูที่เข้าเซ็ตกัน สะท้อนถึงความผูกพันอย่างมิอาจแยกจากระหว่างแฟชั่นกับเครื่องประดับ ถ่ายทอดแรงบันดาลใจจากความละเอียดอ่อน บอบบางดุจลูกไม้ถักมือในแบบอิตาเลียนเรเนซองส์ บรรดาสัญลักษณ์ทางการออกแบบประจำแบรนด์อย่างอักษรย่อพระนามาภิไธย S Signature ตลอดจนเกือกม้า และตะขอปากม้า ตัวแทนความรัก และทักษะส่วนพระองค์ในกีฬาขี่ม้าขององค์นักออกแบบ ต่างมาปรากฏพร้อมรูปหัวใจโดยหาได้เป็นเพียงลูกเล่นตกแต่ง ทว่ายังทำหน้าที่เป็นกลไกตัวกลัด หรือข้อต่อประกอบชิ้นส่วนโครงสร้างได้อย่างแยบคาย
ในอาณาจักรความงามแห่ง “สวนของเจ้าหญิง” Treasure of Dreams ถ่ายทอดความงดงามตระการตาน่าอัศจรรย์จากมวลธรรมชาติอันเป็นที่รักยิ่งของแบรนด์ SIRIVANNAVARI ด้วยโครงสร้างเปิดโปร่งลดน้ำหนักตัวเรือน กับศิลปะประกอบชิ้นส่วนทั้งแบบสมมาตร และอสมมาตร มนตราสะกดอารมณ์ของรัตนชาติหลากสรรพสีที่ผ่านการตรวจคัด จับคู่อย่างประณีต และเฉียบคม ได้เนรมิตเครื่องประดับรูปลักษณ์ ทั้งดอกไม้ และสัตว์น้อยใหญ่ในต่างอากัปกิริยา หรือจังหวะวงจรชีวิต ก่อลีลาล้อแสงเรืองระยับดุจภาพวาดเทพนิยาย จุดประกายจินตนาการ และปรารถนา ทั้งพราวเพชร หรือคริสตัลน้ำกระจ่าง ช่อทับทิมสอดแซมไพลินสลับสี หรือสีเขียวไล่ลำดับโทน ระหว่างมรกตกับพลอยแพริดอต บนตัวเรือนทองคำขาวขัดผิวขึ้นเงาราวกระจก ล้วนร่วมกันสะท้อนความล้ำค่าของไหวพริบทางการพลิกแพลงทักษะ ความชำนาญแขนงต่างๆ ในศิลปะศาสตร์อัญมณีได้อย่างแยบคาย
‘Treasure of Dreams’ คอลเลกชันจิวเวลรีชั้นสูงแห่งปี 2025 นอกจากจะแสดงให้ประจักษ์ถึงพระอัจฉริยภาพในด้านงานออกแบบจิวเวลรีอันล้ำค่าและทันสมัยขององค์ดีไซเนอร์ ยังบ่งบอกถึงการพัฒนาและยกระดับฝีมือช่างจิวเวลรีไทย เพื่อเชิดชู อนุรักษ์ และเผยแพร่คุณค่าไปสู่ระดับสากลได้อย่างภาคภูมิ.