โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

‘อนุทิน’ ระบุ ‘ทรัมป์’ รับข้อมูลคลาดเคลื่อน ย้ำไทยไม่ใช่ฝ่ายรุกราน

ไทยโพสต์

อัพเดต 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 9 ชั่วโมงที่ผ่านมา

นายกฯ เผยหารือตรงประธานาธิบดีสหรัฐฯ อธิบายข้อเท็จจริงไทยปฏิบัติตามข้อตกลงมาโดยตลอด ชี้กัมพูชาเป็นฝ่ายละเมิด ยืนยันกองทัพไทยยังปฏิบัติหน้าที่ปกป้องอธิปไตย พร้อมย้ำการหยุดยิงต้องเริ่มจากฝ่ายที่ละเมิด ขณะ “สีหศักดิ์” ระบุหยุดยิงเป็นกลยุทธ์

เมื่อเวลา 22.05 น. วันที่ 12 ธ.ค. ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังหารือทางโทรศัพท์กับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา

การพูดคุยเริ่มตั้งแต่เวลา 21.26 น. ใช้เวลาประมาณ 20 นาที โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทยและสหรัฐฯ รวมถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ร่วมสนทนาด้วย บรรยากาศเป็นไปด้วยดี

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แสดงความเป็นห่วงสถานการณ์ และอยากให้ทุกฝ่ายกลับไปสู่กรอบ Joint Declaration หรือปฏิญญาร่วมที่เคยลงนามกันที่ประเทศมาเลเซีย

ทั้งนี้ ตนได้ยืนยันกับผู้นำสหรัฐฯ ว่า ประเทศไทยปฏิบัติตามเงื่อนไขของปฏิญญาร่วมมาโดยตลอด ไม่เคยออกนอกกรอบแม้แต่น้อย แต่ฝ่ายกัมพูชาเป็นผู้ละเมิด

นายอนุทิน อธิบายว่า หากเป็นการละเมิดในลักษณะปฏิบัติ เช่น ไม่ถอนกำลัง หรือไม่ก่อให้เกิดความสูญเสีย ก็ยังสามารถเจรจาให้กลับมาปฏิบัติตามข้อตกลงได้ แต่หากเป็นการละเมิดที่ทำให้ฝ่ายไทยสูญเสียชีวิต อวัยวะ หรือทรัพย์สิน ประเทศไทยจำเป็นต้องตอบโต้เพื่อปกป้องอธิปไตย ทรัพย์สิน และชีวิตประชาชน

นายกรัฐมนตรี ระบุว่า จำเป็นต้องอธิบายข้อเท็จจริงให้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เข้าใจ มิฉะนั้นอาจถูกมองว่าไทยเป็นฝ่ายจู่โจม ซึ่งไม่ตรงกับความเป็นจริง เพราะไทยเป็นฝ่ายตอบโต้เพื่อป้องกันตนเอง

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ประเทศที่ไม่ได้เป็นคู่สัญญาโดยตรง หากรับฟังข้อมูลจากฝ่ายเดียวอาจเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน ดังนั้น สหรัฐฯ จำเป็นต้องรับฟังข้อมูลจากฝ่ายไทยในฐานะฝ่ายที่ถูกกระทำก่อน

เมื่อถูกถามว่าได้พูดถึงเรื่องการเลือกตั้งกับสหรัฐฯ หรือไม่ นายกรัฐมนตรี ตอบว่า เป็นเรื่องภายในของประเทศไทย และไม่ควรนำมาเชื่อมโยงกับการปกป้องอธิปไตยหรือการป้องกันประเทศ สิ่งสำคัญที่สุดในขณะนี้คือการป้องกันไม่ให้ทหารและประชาชนต้องบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

สำหรับท่าทีของประธานาธิบดีสหรัฐฯ หลังรับฟังคำอธิบาย นายอนุทิน กล่าวว่า ผู้นำสหรัฐฯ ระบุว่าเข้าใจสถานการณ์ และเปิดช่องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของทั้งสองประเทศติดต่อกันได้โดยตรงตลอดเวลา รวมถึงสามารถโทรศัพท์ถึงกันได้หากมีความจำเป็น

นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า ขณะนี้ประเทศไทยยังสามารถรับมือกับสถานการณ์ได้ และกระทรวงการต่างประเทศของไทยมีการประสานงานกับสหรัฐฯ ในหลายระดับอยู่แล้ว

เมื่อถามว่าสหรัฐฯ กดดันให้ไทยหยุดยิงหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ อยากให้มีการหยุดยิง แต่ตนได้เสนอว่า ควรบอกให้โลกรู้ว่ากัมพูชาต้องหยุดยิง ถอนกำลัง และเก็บกู้วัตถุระเบิดที่วางไว้ให้หมดก่อน

นายกรัฐมนตรี ระบุว่า หากกัมพูชาดำเนินการเช่นนั้น ไทยก็พร้อมอยู่เฉย ไม่เคยมีความประสงค์จะเข้าไปยึดครองดินแดนของฝ่ายใด แต่ข้อเท็จจริงที่กองทัพรายงานมาอย่างต่อเนื่องคือ พบวัตถุระเบิดใหม่ที่เพิ่งวาง และเป็นสาเหตุให้ทหารไทยบาดเจ็บและเสียชีวิต

ทั้งนี้ การเก็บกู้ทุ่นระเบิดของไทยได้ดำเนินการต่อเนื่องมา 2–3 สัปดาห์ โดยมี ASEAN Observer Team (AOT) เป็นพยานจากนานาชาติ ซึ่งยืนยันได้ว่ากัมพูชาเป็นฝ่ายละเมิดข้อตกลง

นายอนุทิน กล่าวว่า หลักสากลคือ ผู้ที่ละเมิดสัญญาต้องเป็นฝ่ายแก้ไข ไม่ใช่ฝ่ายที่ถูกกระทำ

เมื่อถูกถามถึงกรณีพื้นที่ที่กัมพูชาอ้างสิทธิ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า แม้บางพื้นที่จะเป็นของฝ่ายกัมพูชา แต่ภายใต้ Joint Declaration ระบุชัดว่าต้องร่วมกันเก็บกู้ทุ่นระเบิดด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรม

นายสีหศักดิ์ ให้ข้อมูลเสริมว่า พื้นที่ที่กัมพูชาอ้างว่าเป็นของตน ต้องมีการปฏิบัติการร่วมกันตามกรอบข้อตกลง

สำหรับพื้นที่ตาควายที่กัมพูชายังไม่ยอมถอนกำลัง นายอนุทิน กล่าวว่า รายละเอียดเชิงยุทธการเป็นหน้าที่ของกองทัพ ซึ่งมีแผนและแถลงสถานการณ์ให้ประชาชนทราบทุกวัน ขณะที่ฝ่ายนโยบายมีหน้าที่ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นและประเทศได้ประโยชน์สูงสุด

นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า ไม่มีใครอยากเห็นการสูญเสียชีวิต ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือคนต่างชาติ แต่หากเป็นเรื่องอธิปไตยและดินแดนของไทย ตนจะไม่ยอมให้ถูกละเมิด ไม่ยอมให้มีการลอบยิงหรือกลั่นแกล้งใด ๆ

เมื่อถามถึงการปฏิบัติหน้าที่ของทหารในพื้นที่ นายอนุทิน ยืนยันว่า ยังปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ส่วนกรอบเวลาการสู้รบไม่สามารถระบุได้ แต่สิ่งที่ยืนยันได้คือ ไทยจะไม่ละเมิดกฎหมายไทยหรือกฎหมายสากล และไม่เคยรุกรานดินแดนของประเทศเพื่อนบ้าน

นายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้หารือกับกองทัพและกระทรวงกลาโหมแล้ว ทุกฝ่ายมีความมั่นใจ สนับสนุนซึ่งกันและกัน และมีเป้าหมายเดียวกัน

เมื่อถามว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ระบุหรือไม่ว่าจะไปพูดคุยกับกัมพูชาเมื่อใด นายอนุทิน กล่าวว่า ตนได้ขอให้สหรัฐฯ ไปบอกฝ่ายกัมพูชาในฐานะผู้ละเมิดข้อตกลง

สำหรับคำถามเรื่องการหยุดยิงในขณะที่การสู้รบยังไม่สิ้นสุด นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คำว่าสำเร็จไม่สามารถวัดได้จากจำนวนวันที่สู้รบ และขณะนี้กัมพูชายังไม่หยุดยิง

ขณะที่นายสีหศักดิ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า การหยุดยิงถือเป็นกลยุทธ์อย่างหนึ่ง

เมื่อถามถึงเหตุผลที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เลือกติดต่อฝ่ายไทย นายอนุทิน ประเมินว่า สหรัฐฯ น่าจะได้พูดคุยกับกัมพูชามาก่อนแล้ว และได้รับข้อมูลที่คลาดเคลื่อนว่าไทยเป็นฝ่ายรุกราน เนื่องจากภาพการใช้กำลังทางอากาศของไทย

นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า ไทยไม่ใช่ฝ่ายรุกราน แต่เป็นการตอบโต้เพื่อป้องกันตนเอง และยืนยันว่า “ประเทศไทยเป็นประเทศอธิปไตย คำพูดของรัฐบาลไทยต้องได้รับความน่าเชื่อถือจากนานาชาติ มิฉะนั้นเราจะยืนอยู่บนแผนที่โลกไม่ได้”

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...