แสนเงียบเหงา! ทำไม "บ็อกซิ่งเดย์" ปีนี้แทบไม่มีแมตช์แข่งขัน?
ถ้าพูดถึงฟุตบอลอังกฤษ ภาพหนึ่งที่แฟนบอลทั่วโลกคุ้นตากันดี คือ บ็อกซิ่งเดย์ วันที่สนามแทบทุกแห่งเปิดไฟสว่างไสวพร้อมกัน ผู้คนพาครอบครัวออกจากบ้านหลังวันคริสต์มาส เสียงเชียร์ดังก้องท่ามกลางอากาศหนาว และทำให้ฟุตบอลกลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมช่วงปลายปีไปโดยปริยาย
แต่ในปีนี้ ภาพเหล่านั้นกลับเงียบกว่าที่เคย เพราะพรีเมียร์ลีกจะมีการแข่งขันในวันที่ 26 ธันวาคม เพียงแค่นัดเดียวเท่านั้น คือแมตช์ที่แมนฯยูไนเต็ด เปิดบ้านต้อนรับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด
นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของจำนวนแมตช์ที่ลดลง แต่มันสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของฟุตบอลอังกฤษ ในยุคที่ปฏิทินฟุตบอลทั่วโลกแน่นเอี้ยดจนแทบไม่มีช่องว่างให้หายใจ
หากย้อนกลับไปตั้งแต่ปี 1888 วันที่ฟุตบอลลีกอังกฤษถือกำเนิดขึ้น “บ็อกซิ่งเดย์” คือหัวใจของฤดูกาลมาโดยตลอด เกมแรกในประวัติศาสตร์เริ่มต้นด้วยชัยชนะ 5-0 ของเพรสตัน เหนือเวสต์บรอมวิช และนับจากวันนั้น วันที่ 26 ธันวาคมแทบไม่เคยว่างจากเสียงเชียร์ฟุตบอล มีเพียงไม่กี่ปีเท่านั้นที่ไม่มีการแข่งขันเลย
บ็อกซิ่งเดย์คือวันที่สร้างความทรงจำระดับตำนาน ไม่ว่าจะเป็นวันที่มีประตูรวมกันถึง 66 ลูกในปี 1963ที่แข่งกัน 10คู่, เกมที่ฟูแล่มถล่มเลสเตอร์ 10-1 หรือวันที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดนเบิร์นลีย์ยิง 6 ประตู
รวมถึงเกมสุดมันในยุคพรีเมียร์ลีก อย่างวันที่เชลซีเสมอแอสตัน วิลล่า 4-4 หรือเกมที่เอริค คันโตน่า ยิงประตูพายูไนเต็ดไล่ตีเสมอหลังโดนนำสามลูก
แต่ปีนี้ บรรยากาศแบบนั้นแทบไม่เหลืออยู่ เพราะพรีเมียร์ลีกเลือกจัดโปรแกรมเพียงนัดเดียว
สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการไม่เห็นคุณค่าของบ็อกซิ่งเดย์ แต่เป็นเพราะตารางฟุตบอลโลกที่แน่นเกินรับไหว การขยายรายการยุโรป การเพิ่มจำนวนเกมระดับทวีป รวมถึงฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก
ล้วนทำให้นักเตะมีเวลาพักน้อยลงอย่างน่ากังวล พรีเมียร์ลีกจึงจำเป็นต้องกระจายโปรแกรมการแข่งขันออกไป เพื่อให้มีเวลาพักอย่างน้อย 60 ชั่วโมงระหว่างเกม
ถ้าฝืนจัดทุกแมตช์ในวันที่ 26 ธันวาคม จะทำให้ช่วงสุดสัปดาห์ถัดไปไม่มีเกมเลย ซึ่งกระทบทั้งแฟนบอลและผู้ถือลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด นี่จึงกลายเป็นทางเลือกที่ “เจ็บน้อยที่สุด” แม้จะต้องแลกกับการลดความขลังของบ็อกซิ่งเดย์ลงก็ตาม
ปฏิกิริยาของแฟนบอลก็ไม่ได้รุนแรงอย่างที่หลายคนคาด ส่วนหนึ่งเพราะในช่วงหลายปีหลัง บ็อกซิ่งเดย์มักถูกกระจายไปแข่งสองวันอยู่แล้ว แฟนบอลจำนวนไม่น้อยเริ่มคุ้นชิน เพียงแต่ยังรู้สึกเสียดายบรรยากาศดั้งเดิม
โดยเฉพาะการที่เกมเดียวของวันถูกเตะในช่วงสองทุ่ม ซึ่งไม่เป็นมิตรกับแฟนบอลที่เดินทางไปสนามเท่าไรนัก
อย่างไรก็ตาม ฟุตบอลอังกฤษก็ยังไม่หายไปไหน เพราะในวันเดียวกัน ลีกระดับล่างอย่างแชมเปียนชิพ ลีกวัน ลีกทู และเนชันแนลลีก ยังลงแข่งขันกันครบถ้วน ใครที่อยากรักษาธรรมเนียมการดูบอลในวันบ็อกซิ่งเดย์ ก็ยังพอมีทางเลือกอยู่
พรีเมียร์ลีกยืนยันว่า นี่เป็นเพียงสถานการณ์ชั่วคราว และในปี 2026 ซึ่งวันที่ 26 ธันวาคมตรงกับวันเสาร์ โปรแกรมบ็อกซิ่งเดย์จะกลับมาเต็มรูปแบบอีกครั้ง
ทั้งหมดนี้สะท้อนความจริงอย่างหนึ่งว่า ฟุตบอลกำลังเปลี่ยนไป จากกีฬาที่ขับเคลื่อนด้วยวัฒนธรรมและประเพณี กำลังถูกหล่อหลอมด้วยธุรกิจและปฏิทินระดับโลกมากขึ้นเรื่อย ๆ บ็อกซิ่งเดย์อาจไม่ศักดิ์สิทธิ์เหมือนเดิม
แต่ก็ยังไม่หายไปไหน มันอาจเหลือเพียงเกมเดียว แต่ยังคงเป็นสัญลักษณ์ของความทรงจำ ความผูกพัน และความรักที่แฟนบอลมีต่อฟุตบอลอังกฤษมาตลอดกว่าร้อยปี…
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พรีเมียร์ลีก ปรับโปรแกรมวันบ็อกซิ่งเดย์ เตะคู่เดียว ครั้งแรกรอบ 42 ปี
อโมริม ยืนยัน เมนู ยังเป็นแข้งอนาคตของแมนยู แม้โอกาสลงเล่นน้อย
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : แสนเงียบเหงา! ทำไม "บ็อกซิ่งเดย์" ปีนี้แทบไม่มีแมตช์แข่งขัน?
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.pptvhd36.com