โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

แมวพุงย้อย ไม่ได้แปลว่าน้องอ้วน! ไขความลับหน้าท้องสุดนุ่มนิ่มของเจ้าเหมียว

sanook.com

เผยแพร่ 1 วันที่แล้ว • Sanook
แมวพุงย้อยไม่ได้แปลว่าอ้วนนะทาส! มาทำความรู้จัก Primordial Pouch หรือ

ทำความรู้จัก "Primordial Pouch" พุงย้อยๆของแมว คืออะไร? และมีไว้ทำอะไรกันแน่?

ใครว่าพุงย้อยคือพุงอ้วน! ที่จริงแล้วเจ้าก้อนนุ่มนิ่มที่ห้อยอยู่ตรงท้องของน้องเหมียวนั้นมีชื่อเก๋ ๆ ว่า "Primordial Pouch" หรือถุงเก็บไขมันดั้งเดิม ซึ่งมันไม่ได้แค่มาเพิ่มความน่ารักเท่านั้นนะ แต่ยังเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ซ่อนพลังสุดยอดให้นักล่าตัวจิ๋วของเราด้วย! มาดูกันว่าพุงย้อยมหัศจรรย์นี้มีประโยชน์ต่อสุขภาพและความคล่องตัวของเจ้าเหมียวขนาดไหนกันค่ะ

Primordial Pouch หรือ พุงย้อยของแมว คืออะไรกันแน่?

ภาพที่คุณส่งมาเป็นการให้ข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับ "พุงย้อย" ที่พบในแมวหลายตัว ซึ่งมีชื่อทางเทคนิคว่า Primordial Pouch เป็นลักษณะทางกายวิภาคตามธรรมชาติของแมว (พบได้ในแมวทุกสายพันธุ์) เป็นแผ่นผิวหนังที่ยืดหยุ่นและมีไขมันสะสมอยู่ด้านใน มีประโยชน์ด้านการอยู่รอด เช่น ช่วยปกป้องอวัยวะภายในเมื่อต่อสู้ เป็นแหล่งไขมันสำรอง และเพิ่มความยืดหยุ่นในการเคลื่อนที่สิ่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของสรีระตามธรรมชาติของแมว และ ไม่ได้เป็นสัญญาณว่าแมวอ้วนหรือมีน้ำหนักเกินเสมอไป

ประโยชน์หลักของ Primordial Pouch ของแมว

Primordial Pouch มีหน้าที่สำคัญหลายประการที่ช่วยให้แมวมีชีวิตรอดและเคลื่อนไหวได้อย่างมีประสิทธิภาพ:

1. เก็บไขมันสำรองกรณีฉุกเฉิน

ไขมันบริเวณหน้าท้องส่วนนั้นจะทำหน้าที่เป็นแหล่งเก็บพลังงานสำรองที่แมวสามารถนำมาใช้ได้ทันทีเมื่อต้องต่อสู้หรือในสถานการณ์ที่ขาดแคลนอาหาร

2. ปกป้องอวัยวะภายในเมื่อต่อสู้

เจ้าพุงนุ่มนิ่มทำหน้าที่เป็นเสมือนเกราะกำบังชั้นแรก ช่วยปกป้องอวัยวะสำคัญในช่องท้องจากการถูกเตะหรือถูกกัดระหว่างการต่อสู้ ถือเป็นกลไกการป้องกันตัวเองที่ชาญฉลาดมากเลยนะ

3. ช่วยเพิ่มพื้นที่ในการเก็บอาหาร

ถุงนี้ให้พื้นที่เพิ่มเติมในช่องท้องสำหรับการขยายตัวของกระเพาะอาหาร ทำให้แมวซึ่งมีสัญชาตญาณนักล่าสามารถกินอาหารได้มากขึ้นในครั้งเดียว

4. ช่วยให้แมวเคลื่อนที่ได้เร็วขึ้น

แม้จะดูเหมือนเป็นส่วนเกิน แต่ถุงไขมันนี้มีความยืดหยุ่นสูง ช่วยให้ผิวหนังและช่องท้องสามารถยืดตัวได้เต็มที่ ทำให้แมวสามารถยืดตัวและวิ่งได้อย่างคล่องแคล่วและรวดเร็ว

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Primordial Pouch ของแมว

  • พบในแมวทุกสายพันธุ์: Primordial Pouch สามารถพบได้ในแมวทุกสายพันธุ์ ทั้งแมวบ้านและแมวป่า (เช่น เสือ สิงโต) โดยจะสังเกตเห็นได้ชัดเจนขึ้นเมื่อแมวโตเต็มวัย หรือเริ่มปรากฏให้เห็นได้ชัดในช่วงอายุ 6 เดือนถึง 1 ปี

  • แตกต่างจากไขมันที่เกิดจากภาวะอ้วน: พุงย้อยนี้จะมีลักษณะเป็นถุงผิวหนังที่ยืดหยุ่น ห้อยลงมาจากส่วนล่างของช่องท้องตั้งแต่ช่วงขาหลัง ส่วนไขมันที่เกิดจากภาวะอ้วนจะกระจายอยู่ทั่วร่างกายมากกว่า และทำให้แมวมีรูปร่างกลมหรือกว้างขึ้นเมื่อมองจากด้านบนหรือด้านข้าง

  • วิธีการสังเกตความแตกต่าง:

  • ให้แมวยืนและสังเกตส่วนท้องที่ห้อยลงมา

    • ถ้าคุณสามารถสัมผัสก้อนไขมันนุ่ม ๆ ที่ห้อยลงมาเป็นแผ่น โดยที่ซี่โครงและส่วนเอวยังรู้สึกได้ชัดเจน นั่นอาจเป็น Primordial Pouch
    • แต่… หากคุณ ไม่สามารถคลำซี่โครงได้ชัดเจน หรือ ส่วนเอวหายไปเมื่อมองจากด้านบน นั่นคือสัญญาณของ ภาวะน้ำหนักเกินหรืออ้วน นะคะ ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับพุงย้อยตามธรรมชาติเลย

หากคุณยังไม่แน่ใจว่าพุงย้อยของน้องแมวเป็นเพียง Primordial Pouch หรือเป็นสัญญาณของภาวะน้ำหนักเกิน ควรปรึกษาสัตวแพทย์ เพื่อประเมินคะแนนสภาพร่างกาย (Body Condition Score - BCS) ของแมวอย่างถูกต้อง หากแมวมีภาวะน้ำหนักเกินจริง การปรับอาหารและการออกกำลังกายเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งต่อสุขภาพในระยะยาวของน้องแมวครับ

แหล่งอ้างอิง

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...