เลือดล้างหน้าเด็ก บ่งบอกถึงอะไร ?
เลือดล้างหน้าเด็ก บ่งบอกถึงอะไร ?
เราคงจะได้ยินคำว่า "เลือดล้างหน้าเด็ก" กันมาบ้าง บางคนก็บอกว่ามันคือสัญญาณแรกของการตั้งครรภ์ แต่กับคนอีกกลุ่มที่ยังไม่พร้อมจะตั้งครรภ์ ก็คงเกิดความวิตกกังวลว่าประจำเดือนที่มาให้เห็นนั้นอาจจะเป็นเลือดล้างหน้าเด็กหรือเปล่า และนั่นแปลว่าฉันตั้งครรภ์เหรอ วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับมันให้ดีขึ้นกันค่ะ
เลือดล้างหน้าเด็กคืออะไร ?
คืออาการที่มีเลือดออกมาจากช่องคลอดแบบกระปริบกระปรอยแต่ไม่ใช่เลือดประจำเดือน เป็นอาการที่เกิดขึ้นกับผู้หญิงที่เพิ่งเริ่มตั้งครรภ์ ส่วนใหญ่แล้วมักจะเกิดขึ้นเป็นเวลา 10-14 วัน หลังจากเกิดการปฏิสนธิ ซึ่งอาจทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นประจำเดือนได้ มันเกิดมาจากการที่ไข่ซึ่งผ่านการผสมกับอสุจิแล้ว เคลื่อนตัวไปฝังตัวที่ผนังมดลูก ทำให้มีเลือดออกมาทางช่องคลอด ซึ่งจะเกิดขึ้นหลังการปฏิสนธิของไข่และอสุจิประมาณ 7-9 วัน เราจะเห็นได้ว่าภาวะนี้เกิดขึ้นก่อนที่ประจำเดือนจะขาดประมาณ 1 สัปดาห์ อาจเป็นช่วงก่อนที่เราทราบว่าตั้งครรภ์ด้วยซ้ำ
เลือดที่ออกมาจะมีลักษณะแตกต่างจากประจำเดือนปกติ คือจะมีลักษณะเป็นสีชมพูออกมาในปริมาณเพียงเล็กน้อย หรืออาจมีอาการปวดท้องร่วมด้วย ซึ่งมันอาจไม่เกิดกับผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ทุกคน ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์บางคนอาจไม่เคยมีอาการเช่นนี้ รวมถึงอาการอื่น ๆ ที่บ่งบอกว่าตั้งครรภ์เลยก็เป็นไปได้เช่นกัน
มีอันตรายหรือไม่ ?
ถือเป็นอาการที่ไม่อันตราย เพราะจะมีอาการเพียง 1-2 วันเท่านั้น แต่หากมีเลือดออกติดต่อกันเกินกว่า 2 วัน รวมทั้งมีปริมาณและสีของเลือดที่ผิดปกติ ไม่ว่าจะเลือดออกมามากหรือมีลักษณะเป็นลิ่ม สีของเลือดมีสีแดงสดแทนที่จะเป็นสีชมพูหรือสีน้ำตาล ก็ควรปรึกษาแพทย์ เพราะอาจเป็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นในมดลูก หรือเป็นอาการที่อันตรายต่อทารกในครรภ์ได้ เช่น การแท้ง หรือการตั้งครรรภ์นอกมดลูก
แตกต่างกับประจำเดือนอย่างไร ?
ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดก็คือปริมาณเลือดที่ออกมาจากช่องคลอดและระยะเวลาที่เป็น เลือดล้างหน้าเด็กจะมีปริมาณเลือดออกมาเพียงเล็กน้อยในลักษณะกระปริบกระปรอย ซึ่งโดยปกติจะกินเวลาเพียง 1-2 วันเท่านั้น มักมีสีแดงจาง ๆ ที่ค่อนไปทางชมพู อาจมีการปวดท้องประจำเดือนบ้างแต่รุนแรงน้อยกว่าการปวดประจำเดือนตามปกติ ในขณะที่ประจำเดือนจะมีปริมาณเลือดออกมามากกว่า และระยะเวลาในการเป็นจะประมาณ 7 วัน
แตกต่างจากการแท้งคุกคามอย่างไร ?
สำหรับคนที่ยังไม่รู้ตัวว่ากำลังจะเป็นแม่ แต่พบว่ามีเลือดไหลออกมาจากทางช่องคลอดที่ไม่ตรงกับการมาของประจำเดือน มักจะมีสาเหตุได้อยู่ 2 อย่าง คืออาจเป็นเลือดล้างหน้าเด็กหรือการแท้งคุกคาม
เลือดที่ออกมาจากสาเหตุการแท้งคุกคามและที่เป็นเลือดล้างหน้าเด็กนั้น อาจจะออกมาแบบกะปริบกะปรอยได้เหมือน ๆ เดียวกัน แต่มีวิธีแยกแยะง่าย ๆ คืออาการแท้งคุกคามเกือบทั้งหมดนั้นจะมาพร้อมกับอาการปวดเกร็ง ไม่ว่าจะเป็นการปวดในบริเวณท้องน้อยหรือบริเวณหลังช่วงล่าง ยิ่งไปกว่านั้นอาจจะมีลิ่มเลือดหรือก้อนเลือดหลุดออกมาจากช่องคลอดอีกด้วย
ทั้งนี้ อาการเลือดออกทางช่องคลอดอาจเกิดมาจากสาเหตุอื่นได้ด้วยเช่นกัน สาเหตุที่อาจทำให้เกิดเลือดออกจากช่องคลอดในช่วงตั้งครรภ์มีดังนี้
- การมีเพศสัมพันธ์ หากมีเพศสัมพันธ์อย่างรุนแรงหรือมีการใช้สิ่งแปลกปลอมสอดใส่เข้าไปในอวัยวะเพศขณะที่เพศสัมพันธ์ ก็อาจทำให้ภายในช่องคลอดเกิดการฉีกขาด ส่งผลให้มีเลือดออกทางช่องคลอดได้ แต่ถ้าหากเป็นผู้หญิงที่อยู่ในช่วงตั้งครรภ์ จะเป็นช่วงที่ฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนแปลงจนทำให้ความต้องการทางเพศเพิ่มขึ้น และการมีเพศสัมพันธ์ในช่วงนี้อาจทำให้มีเลือดออกมาจากช่องคลอดได้
- การคุมกำเนิด การรับประทานยาคุมกำเนิดหรือการใช้วิธีการคุมกำเนิดด้วยห่วงอนามัย สามารถทำให้เลือดออกทางช่องคลอดได้ โดยเฉพาะการใช้ยาคุมกำเนิดที่ไม่สม่ำเสมออาจทำให้ประจำเดือนมาผิดปกติได้
- การติดเชื้อหรือการอักเสบของอวัยวะภายในอุ้งเชิงกราน การติดเชื้อในบริเวณอุ้งเชิงกรานที่เกี่ยวข้องกับระบบสืบพันธุ์เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดเลือดออกทางช่องคลอดได้ โดยเฉพาะโรคทางเพศสัมพันธ์ เช่น โรคซิฟิลิส โรคหนองใน หรือกามโรคอื่น ๆ
- การทำงานของมดลูกที่ปิดปกติ เช่น โรคกลุ่มอาการรังไข่ที่มีถุงน้ำหลายใบ (PCOS) หรือประจำเดือนมาไม่ปกติ ก็อาจพบเลือดออกจากช่องคลอดได้
- การตั้งครรภ์นอกมดลูก จุดเป็นความผิดปกติที่ค่อนข้างอันตรายทั้งกับแม่และเด็ก ซึ่งจะก่อให้เกิดอาการปวดท้องอย่างรุนแรงและมีเลือดออกมามากผิดปกติ ถ้าหากมีอาการดังกล่าวควรรีบไปพบแพทย์ เพราะเป็นอันตรายถึงชีวิต
- การแท้ง อาการเลือดออกและปวดท้องอย่างรุนแรงถือเป็นสัญญาณอันตรายของภาวะแท้งที่ผู้หญิงตั้งครรภ์ทุกคนควรระมัดระวัง และหากเกิดอาการขึ้นควรรีบพบแพทย์ทันที
เมื่อไหร่ควรไปพบแพทย์ ?
เมื่อแน่ใจว่าตั้งครรภ์แล้ว ซึ่งโดยปกติการตั้งครรภ์ไม่ควรมีเลือดออกทางช่องคลอด ดังนั้น หากพบว่ามีเลือดออกทางช่องคลอดในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ (ตั้งแต่รู้ตัวว่าตั้งครรภ์ ไปจนเมื่อมีอายุครรภ์ 14 สัปดาห์ หรือประมาณ 3 เดือน) มักจะเป็นเลือดที่เกิดจากภาวะแทรกซ้อนของการตั้งครรภ์ไตรมาสแรก ก็ควรไปพบแพทย์ โดยเฉพาะถ้ามีเลือดออกมาก เลือดที่ออกมามีลักษณะเหมือนประจำเดือน มีชื้นเนื้อหลุด หรือมีอาการปวดท้องร่วมด้วย
หากต้องการความมั่นใจว่าเลือดที่ออกมาจากช่องคลอดนั้นคือเลือดอะไรกันแน่ ควรไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจอย่างละเอียด หากมีความสงสัยว่าเป็นเลือดล้างหน้าเด็ก ก็สามารถตรวจเบื้องต้นโดยการใช้ที่ตรวจการตั้งครรภ์ เมื่อทราบผลแล้วก็จะสามารถวางแผนการดูแลตัวเองหรือวางแผนในการรักษาอย่างทันท่วงที
อ่านบทความสำหรับแม่และเด็กอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่นี่ >> story.motherhood.co.th
มองหาสินค้าสำหรับแม่และเด็กในราคาสุดพิเศษได้เลยที่ >> Motherhood.co.th