โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

พ่อ‘เสี่ยตี๋’เต็นท์รถรมควันดับยกครัว ยังติดใจ ไม่เชื่อลูกชายมีหนี้นับสิบล้าน(ชมคลิป)

MATICHON ONLINE

อัพเดต 22 ก.พ. 2563 เวลา 09.33 น. • เผยแพร่ 22 ก.พ. 2563 เวลา 09.31 น.

เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีนายกัณตภณ แป้นวงศ์ หรือเสี่ยตี๋ อายุ 40 ปี เจ้าของเต็นท์รถยนต์มือสองกัณตภณออโต้ อ.เมือง จ.พิษณุโลก กินยาฆ่าตัวตายแล้วใช้เตาอั้งโล่รมควันพร้อมกับคนในครอบครัวจนเสียชีวิตรวมกันถึง 5 ศพ พร้อมสุนัขอีก 6 ตัวนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 12.00 น. กลุ่มเจ้าหนี้ของนายกัณตภณ เสี่ยตี๋ กว่า 10 คน ได้รวมตัวกันไปที่สถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก เพื่อนำหลักฐานและเอกสารและข้อมูลเกี่ยวกับการกู้เงินของเสี่ยตี๋ไปลงบันทึกประจำวัน เพื่อเป็นหลักฐานและเพื่อความบริสุทธิ์ใจว่ามูลเหตุที่เกิดขึ้น นำโดยนายภิชาติ อมรรุ่งรัศมี ญาติพี่น้องของเสี่ยตี๋ และให้ยืมเงิน กล่าวว่า ตนได้นำเงินมาลงทุนร่วมกับนายกัณตภณ หรือตี๋ และให้ยืมเงินมาโดยตลอด ซึ่งตนก็โน้ตไว้ว่ามีการคืนเงินเมื่อไร นอกจากนี้น้องสาวของเอง เฮียตี๋ ก็ไปขอยืมมีหลักฐานการยืมเงินอีกกว่า 8 ล้านบาท ซึ่งตนเองและพร้องเพื่อนที่เป็นเจ้าหนี้อยากให้สบายใจจึงนำหลักฐานมาแสดงความบริสุทธิ์ใจกับเจ้าหน้าที่

ขณะนี้นายธงชัย แป้นวงศ์ พ่อของนายกัณตภณ อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 74/1 หมู่ 1 ต.พลายชุมพล อ.เมืองพิษณุโลก ซึ่งเป็นพ่อของนายกัณตภณ ได้เดินทางมาให้ปากคำเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน พร้อมขอเอกสาร เพื่อนำไปประกอบในการรับศพทั้งหมดที่นิติเวช โรงพยาบาลพุทธชินราช และนำไปทำเพ็ญกุศล

นายธงชัย กล่าวว่า ตนเองยังไม่ปักใจเชื่อสาเหตุการตายของลูกชายและครอบครัว ซึ่งอาจมีเบื้องหน้าเบื้องหลัง ซึ่งตนเองถึงแม้ว่าจะแยกครอบครัวกันอยู่ แต่ก็ติดต่อกันตลอดเวลา คนภายนอกจะไม่รู้เรื่อง ลูกชายมีปัญหาเรื่องหนี้สิน 1-2 ล้าน ตนเองก็หยิบยื่นให้ เพราะการทำธุรกิจก็ต้องมีเงินหมุนเวียนเป็นเรื่องธรรมดา แต่จะมาบอกว่าลูกชายติดสิ้นนับสิน 10 ล้านบาท ตนไม่เชื่อแต่อย่างใด อีกทั้งสาเหตุการตายก็ไม่ชัดเจน จะต้องมีการผ่าพิสูจน์จากแพทย์นิติเวช ให้ชัดเจนอีกครั้ง เนื่องจากลูกสาวก็จบปริญญาโท จากลอนดอน สายภาษา ส่วนลูกชายก็จบเตรียมทหาร ก็คิดว่าไม่น่าจะคิดสั้นเช่นนี้

พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนได้เรียกสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องไปแล้วจำนวน 3 ปาก ซึ่งก็ได้ข้อมูลมามากพอสมควร ว่าครอบครัวของผู้เสียชีวิตนั้นไปกู้เงินจากธนาคารใดบ้าง ส่วนเงินกู้นอกระบบนั้น ก็เป็นกลุ่มของเพื่อนฝูงที่รู้จักกันจำนวนรวมถึงมากกว่า 10 ล้านบาท มีการเสียดอกเบี้ยต่อเดือนถึงหลักแสน จึงอาจจะทำให้หมุนเงินทางธุรกิจหลายอย่างที่เพิ่งลงทุนไปไม่ทัน อาทิ เต็นท์รถยนต์มือสอง สถานตรวจสภาพรถเอกชน ร้านกาแฟ ธุรกิจส่งน้ำแข็ง เป็นต้น จึงมุ่งไปที่ประเด็นการฆ่าตัวตายจากปัญหาหนี้สิน ส่วนผลชันสูตรของแพทย์ระบุว่าครอบครัวของผู้เสียชีวิตทั้งหมดสูดดมสารพิษเข้าสู่ร่างกายในปริมาณที่มาก อีกทั้งในห้องที่เกิดเหตุมีการนำเอาถุงพลาสติกปิดช่องระบายอากาศเอาไว้ เพื่อมิให้ก๊าซคาร์บอนไดซ์ออคไซด์ จากเตาอั้งโล่ ออกไปด้านนอกได้ ซึ่งส่วนใหญ่คนที่เสียชีวิตตามธรรมชาติทั่วไปแผ่นหลังจะมีเลือดตกสีดำคล้ำ แต่ถ้ามีสารพิษเข้าสู่ร่างกายที่แผ่นหลังจะมีเลือดตกเป็นสีแดงสด จึงสอดคล้องกับหลักฐานทางนิติเวชในที่เกิดเหตุ

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่ 

เพิ่มเพื่อน

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...