ขบวนกองเกียรติยศ รับเคลื่อนร่าง 2 ทหารกำลังพล "เรือหลวงสุโขทัย" กลับบ้าน
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 23 ธันวาคม 2565 ที่ แหลมซุย ต.พุมเรียง อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี ชุดปฏิบัติการอินทรีย์เวหา กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับ ชมรมพารามอเตอร์ จ.สุราษฎร์ธานี นำร่มบินจำนวน 10 ลำ ขึ้นบินเพื่อตรวจสอบสภาพอากาศ และสังเกตุการณ์การค้นหาผู้สูญหาย จากเหตุเรือหลวงสุโขทัยอับปาง ตามแนวชายฝั่งตั้งแต่ อ.ไชยา ถึง อ.ท่าชนะ เป็นระยะทางประมาณ 39 กิโลเมตร โดยมีกำหนดการบินห่างจากชายฝั่ง 2,000 เมตร
ส่วนที่บริเวณพื้นที่อเนกประสงค์ ชายหาดสำเร็จ หมู่ที่ 5 ต.ท่าชนะ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี นายสำนวน ทองศรี นายอำเภอท่าชนะ พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และตำรวจในท้องที่ เร่งจัดเตรียมสถานที่เพื่อเตรียมใช้เป็นฐานปฏิบัติการให้เครื่องUAV ของกองทัพเรือใช้เพื่อค้นหาผู้สูญหาย ซึ่งโปรแกรมซาแมพ คำนวนทิศทางลม กระแสน้ำเคลื่อนไหวเคลื่อนเข้ามาในเขตพื้นที่อำเภอท่าชนะ ไชยา และท่าฉาง
นายวิชวุทย์ จินโต ผวจ.สุราษฎร์ธานี ในฐานะผอ.ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ) เปิดเผยว่า ตามการคาดการณ์ข้อมูลจากซาแมพคาดว่าผู้ประสบภัยจากเรือหลวงสุโขทัยอับปางจะเข้ามาในเขตพื้นที่ของจ.สุราษฎร์ธานี ในวันนี้ จึงได้มีคำสั่งให้เจ้าท่าภูมิภาคทุกสาขา แจ้งศูนย์ควบคุมการแจ้งเข้าออกเรือประมง ขอความร่วมมือเรือประมงทุกชนิด หากพบผู้ประสบภัยขอให้เข้าการช่วยเหลือทันทีและขอความร่วมมือในการบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน และมีคำสั่งไปยังพื้นที่อำเภอติดชายทะเล ประกอบด้วย ท่าชนะ ไชยา ท่าฉาง พุนพิน ดอนสัก เกาะสมุย และเกาะพะงัน ประสานขอความร่วมมือประมงชายฝั่งและชาวบ้านในพื้นที่ ในการช่วยติดตามหรือค้นหาผู้สูญหาย และหากพบวัสดุอุปกรณ์ ที่เกี่ยวข้องกับเรือหลวงสุโขทัย เช่นแพชูชีพ เสื้อชูชีพ หรืออุปกรณ์เครื่องใช้อื่นๆ ให้แจ้งให้ทางราชการทราบทันที
นายวิชวุทย์ กล่าวด้วยว่า ล่าสุดได้รับรายงานจากนายอำเภอเกาะพะงัน ว่าพบเสื้อชูชีพเปล่าลอยอยู่ในทะเลห่างจากเกาะเต่า 25 ไมล์ทะเลไปทางทิศใต้ ทำให้เป็นไปได้ว่า จะมีผู้สูญหาย ถูกกระแสน้ำทะเล พัดมาในเขตชายฝั่งทะเลของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ท่างด้าน อ.ท่าชนะ จึงได้ตั้งศูนย์ค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยเรือหลวงสุโขทัยอับปาง ที่หาดสำเร็จ ต.ท่าชนะ อ.ท่าชนะ เพื่อระดมกำลังค้นหา และเตรียมทีมแพทย์ฉุกเฉิน ซึ่งยังคงมีความหวังว่าจะพบผู้รอดชีวิต จากเหตุการณ์ดังกล่าว
และในเวลา 11.00 น.วันที่ 24 ธ.ค.เครื่องบิน FOKKER จะนำร่างของ พลฯ อัครเดช โพธิ์บัติ และ จ.อ.จักรพงศ์ พูลผล กำลังพลของเรือหลวงสุโขไทยที่ประสบเหตุอับปางที่กลางทะเลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มาลงที่ กองบิน7 สุราษฎร์ธานี โดยมีขบวนกองเกียรติยศจาก บน.๗ รับอย่างสมเกียรติ ศพพลฯ อัครเดช โพธิ์บัติ จะถูกลำเลียงจัดพิธีบำเพ็ญกุศลศพ ณ วัดสุธาฤดีวนาราม หมู่ 2ตำบลท่าสะท้อน อำเภอพุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี
ส่วนศพของ จ.อ.จักรพงศ์ พูลผล จะลำเลียงไปตั้งบำเพ็ญกุศลศพ ณ วัดคลองครามประชาสรรค์ ต.ปากแพรก อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี
เฟซบุ๊ก:ข่าวเวิร์คพอยท์23https://www.facebook.com/NewsWorkpoint