โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

“วรุณา” เปิดตัวโมเดลประเมินคาร์บอนเครดิตภาคป่าไม้ ด้วย AI และ Remote Sensing เสริมศักยภาพโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจของไทย

Positioningmag

อัพเดต 20 มิ.ย. เวลา 09.58 น. • เผยแพร่ 20 มิ.ย. เวลา 09.58 น. • PR News

บริษัท วรุณา (ประเทศไทย) จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านการขับเคลื่อนคาร์บอนเครดิตอย่างยั่งยืน ได้นำเสนอนวัตกรรมเพื่อเสริมศักยภาพโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจของไทย (T-VER) ด้วยการเปิดตัวแพลตฟอร์มบริหารจัดการพื้นที่สีเขียวแบบครบวงจร หรือ “Smart Forest” และ โปรแกรมการประเมินคาร์บอนเครดิตภาคป่าไม้ ภายในงาน "นวัตกรรมสำหรับโครงการ T-VER ภาคป่าไม้" ซึ่งจัดโดยองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก. ณ โรงแรมพูลแมน คิงเพาเวอร์ กรุงเทพฯ เมื่อวันศุกร์ที่ 13 มิถุนายน 2568
นอกจากการเปิดตัวโปรแกรมการประเมินคาร์บอนเครดิตภาคป่าไม้ด้วยเทคโนโลยีการสำรวจข้อมูลระยะไกล (Remote Sensing) และ AI แล้ว ภายในงานยังมีการเสวนาในหัวข้อ “นวัตกรรมสำหรับโครงการ T-VER ภาคป่าไม้”


ในช่วงเปิดตัวนวัตกรรม คุณมีนา ศุภวิวรรธน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหารชื่อเสียงองค์กรและกิจการเพื่อสังคม บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้ให้เกียรติร่วมเปิดตัวโปรแกรมการประเมินคาร์บอนเครดิตภาคป่าไม้ด้วย Remote Sensing และ AI และคุณพณัญญา เจริญสวัสดิ์พงศ์ ผู้ก่อตั้งบริษัท วรุณา ได้ร่วม เสวนาเพื่อถ่ายทอดประสบการณ์ด้านนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับโครงการ T-VER ภาคป่าไม้
คุณพณัญญา เจริญสวัสดิ์พงศ์ ผู้ก่อตั้งบริษัท วรุณา กล่าวว่า
เนื่องจากการกักเก็บคาร์บอนในต้นไม้มีบทบาทสำคัญในการลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกในบรรยากาศ ซึ่งมีความสำคัญต่อการลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อย่างไรก็ตาม การประเมินค่าการกักเก็บคาร์บอนในพื้นที่ป่าไม้ ต้องอาศัยการลงพื้นที่เพื่อสำรวจและเก็บข้อมูลทางชีวภาพ ซึ่งกระบวนการเหล่านี้ใช้เวลานาน มีต้นทุนสูง และอาจไม่สามารถครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงอาจเกิดอันตรายจากสภาพภูมิประเทศและสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย


บริษัท วรุณา (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) จึงได้มีแนวคิดในการนำเทคโนโลยีมาช่วยแก้ปัญหาความท้าทายในการพัฒนาโครงการคาร์บอนเครดิตภาคป่าไม้ โดยประยุกต์ใช้เทคโนโลยีการสำรวจระยะไกลร่วมกับเทคนิคปัญญาประดิษฐ์พัฒนาเป็นแบบจำลองที่สามารถประเมินการกักเก็บคาร์บอนของพื้นที่ป่าไม้ และแสดงผลผ่านแพลตฟอร์ม Smart Forest ซึ่งนอกจากช่วยลดต้นทุน เวลา และการเสี่ยงภัยในการลงพื้นที่สำรวจแล้ว ยังสามารถช่วยประเมินพื้นที่ขนาดใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว ส่งเสริมการสร้างความโปร่งใส สนับสนุนการพัฒนาโครงการด้านคาร์บอนเครดิต การอนุรักษ์ป่าไม้ และการติดตามการเปลี่ยนแปลงของพื้นที่สีเขียวในระยะยาว
ความสำเร็จในการดำเนินการนี้เป็นก้าวสำคัญที่เกิดขึ้นได้จากความร่วมมือของทุกภาคส่วน โดย ปตท. ได้ให้การสนับสนุนข้อมูลที่สำคัญและการลงพื้นที่ภาคสนาม เพื่อใช้ในการตรวจสอบและยืนยันความถูกต้องของค่าที่ได้จากโมเดล ทำให้ผลลัพธ์มีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น” คุณพณัญญา ให้ความเห็นเพิ่มเติม
จุดเด่นของ Smart Forest ไม่เพียงช่วยในด้านการประเมินคาร์บอนเครดิตเท่านั้น แต่ยังช่วยในการวางแผนการเลือกพื้นที่ การคัดเลือกแปลง การติดตามการดำเนินการทั้งในด้านการลดความเสี่ยงจากไฟป่า การลักลอบตัดไม้ทำลายป่า และการดูแลชุมชมเพื่อให้ทุกบริษัทบรรลุเป้าหมายของโครงการและได้คาร์บอนเครดิตที่มีคุณภาพ บรรลุเป้าหมายการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ขององค์กร


“เราหวังว่า Smart Forest จะเป็นจุดเริ่มต้นให้ผู้ประกอบการและหน่วยงานที่กำลังมองหาเครื่องมือสำหรับบริหารจัดการพื้นที่ป่า ได้มีทางเลือกที่มีประสิทธิภาพ เพื่อผลักดันให้นวัตกรรมสำหรับพื้นที่สีเขียวของไทยเป็นที่ยอมรับในระดับสากล และสนับสนุนให้ตลาดคาร์บอนเครดิตภาคสมัครใจของไทยเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป” คุณพณัญญา กล่าวทิ้งท้าย

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...