โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

ธปท. ห่วงเศรษฐกิจทรุดยาว ลากปี’69 จีดีพีซึม 1.7%

อีจัน

อัพเดต 09 ก.ค. เวลา 14.16 น. • เผยแพร่ 09 ก.ค. เวลา 06.42 น. • อีจัน

วันนี้ (9 ก.ค.68) นายปิติ ดิษยทัต รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงกรณีสหรัฐฯ ประกาศนโยบายเก็บภาษีหลายประเทศทั่วโลก (Reciprocal Tariff) โดยไทยอาจถูกเก็บภาษีที่ระดับ 36% ในวันที่ 1 ส.ค.นี้

นายปิติกล่าวว่า จากการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประเมินกรณีภาษีอยู่ที่ 18% เป็นอัตราที่พิจารณาในภาพรวมว่าไทยอาจถูกเก็บในอัตรานี้ ส่งผลให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) อยู่ที่ 1.5% โดยตัวเลขจากค่ากลางในกรอบ 1.5-2% ซึ่งปี 2568 ธปท. ประเมินจีดีพีไทยอยู่ที่ 2.3%

อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของตัวเลขยังไม่สำคัญมากเท่ากับ ทิศทางโดยรวมของเศรษฐกิจ เพราะชัดเจนว่าครึ่งหลังของปีนี้เป็นต้นไปเศรษฐกิจจะแผ่วลง หากนับจากเดือน ส.ค. เหลือเพียง 4 เดือน ซึ่งตัวสำคัญคือเศรษฐกิจในครึ่งแรกของปี 2569 จากที่เห็นว่า ธปท. ปรับประมาณการลงที่ 1.7% จากเดิมที่ 1.8%

“ทิศทางเศรษฐกิจในระยะข้างหน้ามีแนวโน้มชะลอลงพอสมควร อัตราการขยายตัวจากนี้ไป ไม่ดี เราขยายตัวต่ำกว่าศักยภาพ ผลจากปัจจัยที่เข้ามาแล้วเป็นช็อกที่ทอดยาว ซึ่งในกรณีเลวร้ายก็อยู่ในวิสัยที่เราได้ประเมินไว้ส่วนภาพใหญ่คงไม่เปลี่ยนว่าทิศทางของการขยายตัวเศรษฐกิจจะชะลอลง”นายปิติกล่าว

นายปิติกล่าวว่า หากมองผลกระทบจากปัญหาภาษีสหรัฐฯ ต่อเศรษฐกิจไทยมีผลแตกต่างจากวิกฤตการเงินโลก (GFC) และวิกฤตโควิด-19 ที่เศรษฐกิจหยุดชะงักทันที

เนื่องจาก 1.การเก็บภาษีของสหรัฐฯ มีการรับรู้ตั้งแต่การเริ่มดำเนินการนโยบายนี้ ซึ่งไม่ใช่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นทันทีหรือไม่สามารถปรับตัวได้ ซึ่งมีภาษีที่ถูกเก็บไปก่อนหน้านี้ที่ 10% แต่ภาษีอื่นๆ ยังไม่มีความชัดเจน

2.ลักษณะการเก็บภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ที่ทำให้ต้นทุนการนำเข้าเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งก็จะทำให้ความต้องการซื้อของสหรัฐฯ ลดลง และอีกส่วนหนึ่งมีความพยายามจะผลักต้นทุนไปที่ผู้ประกอบการทั้งในสหรัฐฯ หรือผู้ส่งออกในประเทศอื่นๆ ซึ่งเป็นต้นทุนที่แพงขึ้นจากการทำธุรกิจค้า-ขาย โดยผลกระทบค่อนข้างกว้าง เพราะสหรัฐฯ คือผู้บริโภคหลักของโลก

“ผลกระทบที่เกิดขึ้นครั้งนี้ มีผลระยะยาวและรุนแรง เพราะส่งผลต่อโครงสร้างการค้าเปลี่ยน ซัพพายเชนเปลี่ยน ธุรกิจต้องปรับตัวในการหาตลาดใหม่ หากเทียบกับวิกฤตโควิด และ GFC ที่เกิดขึ้นเร็ว”นายปิติกล่าว

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...