‘ใหม่’ ลั่นซึ้ง! สิ่งที่มีค่ามากกว่าแหวนเพชร 15 กะรัต คือ ‘เต๋อ ฉันทวิชช์’ ที่มีหนึ่งเดียวในโลก
เรียกได้ว่าสละโสดอย่างเป็นทางการหวานชื่นไปอีกหนึ่งคู่ สำหรับ “ใหม่ ดาวิกา โฮร์เน่” และ “เต๋อ ฉันทวิชช์ ธนะเสวี” ที่ก่อนหน้านี้ทั้งคู่ได้พร้อมใจกันโพสต์ภาพคู่สุดหวาน สวมแหวนเพชร 15 กะรัตที่นิ้วนางข้างซ้าย พร้อมแคปชั่นสุดเรียบง่ายที่ทำเอาทุกคนอึ้งว่า “หมั้นแล้วจ้า“ งานนี้แฟนๆ ที่เชียร์คู่นี้มาอย่างยาวนาน น้ำตาปริ่มตาม และยินดีกับความรักของทั้งคู่เพียบ
ล่าสุด "ใหม่ ดาวิกา" ได้มาร่วมงานเปิดตัวพรีเซนเตอร์คนใหม่ของ Dcash Master Mass หลังจากจบงานใหม่ ดาวิกา ได้เปิดใจกับสื่อมวลชนที่มาร่วมงานถึงโมเมนต์วันหมั้นสุดอบอุ่น ว่าจริงๆ แล้วไม่ได้เป็นการเซอร์ไพร้ส์แต่อย่างใด โดย ใหม่ เผยว่า
"หนูรู้ก่อน หนูล็อกวันไว้เลย ทุกคนอาจจะคิดว่าพี่เต๋อ จะพาหนูไปไหนสักที่หนึ่งแล้วก็คุกเข่าขอ หนูรอคอยวันนั้นว่ามันจะเหมือนในละครแล้วน้ำตาใหลแบบที่ทุกคนเป็นกัน แต่ของหนูมันคือการล็อกคิวให้ตรงกัน หนูถามพี่เต๋อเลยว่าพี่จะขอหนูวันไหน แต่มันก็เป็นความสุขอีกแบบ สำหรับหนู หนูรอแค่ตอนที่พี่เต๋อ คุกเข่าเขาพูดอะไร อันนี้คือสิ่งที่หนูรอฟังที่สุด ซึ่งก่อนหน้านี้พี่เต๋อได้เอาพานพุ่มมาขอคุณแม่ มันเรียบง่ายมากถ้าดูดีๆ แม่หนูอยู่ในชุดอยู่บ้าน พี่เต๋อก็อยู่ในชุดชิลมาก ไม่มีพิธีรีตองอะไร คือเอาพานพุ่มมาแล้วก็ขอบคุณแต่มันเป็นโมเมนต์ที่ตลกมากแล้วก็มีความสุขมาก เราไม่คิดว่าเขาจะมากราบเท้าแม่แล้วขอเรา พี่เต๋อบอกกับแม่บอกว่าจะเลี้ยงดูแล้วจะดูแลใหม่ให้ดีที่สุด ใหม่ก็คิดในใจว่าโอ้ยพี่เต๋อซวยแล้ว หนูก็รู้สึกดีใจแล้วรู้ว่าแม่ก็ทำตัวไม่ถูก เพราะแม่หนูบอกพี่เต๋อว่าแม่คุยกับต้นไม้ทุกวัน โมเมนต์นั้นหนูคิดว่าพี่เต๋อก็คงต้องวิ่งหนีแล้ว เราก็รู้สึกว่าแม่ก็น่ารักดีเพราะแม่เขาพูดอะไรไม่ถูก"
"ใหม่ว่ามันถึงเวลาที่ความรักสุกงอม เราก็หนุนกันไปในทางที่ดี ใหม่คิดว่าผู้ชายคนนี้จะทำให้ชีวิตเราร่มเย็น หมายถึงว่าเราอยู่ด้วยแล้วเราจะมีแต่ความคิดที่ดี ความคิดบวกและสิ่งที่ดีเกิดขึ้น เราก็บอกเขาไปว่ารีบๆนะพี่หนูพร้อมแล้ว พี่เต๋อเขาก็มาขอวันแรกที่หนูโพสต์ลงเลยค่ะ ไม่ได้ดูฤกษ์ไม่ได้ดูหมอดูเอาที่สะดวกล้วนล้วนเลย ก่อนที่จะหมั้นมันเป็นความรู้ที่ว่าแน่ใจแล้วใช่ไหม เราก็ถามกันแบบนี้ งั้นก็ไปเอาพานพุ่มมาแล้วขอกับคุณแม่ทำตามพิธีไทย ทีนี้ก็ดูว่าแหวนพร้อมหรือยัง จริงๆหนูรู้แล้วว่าจะได้แหวน15กะรัตเพราะหนูเป็นคนจิ้ม พี่เต๋อมือไม้สั่นวันที่เขามาส่งแหวนพี่เต๋อร้องไห้เพราะจ่ายเช็คแต่จริงๆแล้วเขาซาบซึ้ง เอาจริงๆพี่เต๋อเขาให้อิสระในการเลือกแหวน เขาก็มีวงเงินมาให้ว่าได้ประมาณไหน"
ใหม่เผยต่อว่า"ถ้าพี่เต๋อให้เป็นแหวนเกลี้ยง ใหม่ก็แต่งนะมันไม่ได้เกี่ยวกับกะรัต ไม่ได้เกี่ยวกับอะไรไหมไม่อยากให้ทุกคนรู้สึกว่าจะต้องเอาเป็นเยี่ยงอย่างว่ารักฉันต้องกะรัตเยอะหรืออะไร ใหม่รู้สึกว่าสิ่งที่มีค่ามากกว่าแหวนคือผู้ชายคนนี้ คือพี่เต๋อที่มีหนึ่งเดียวในโลก เป็นคนเดียวที่ใหม่รู้สึกว่าเขาเป็นคนดีที่สุดสำหรับใหม่ ไปบอกพี่เต๋อทุกวันว่าใหม่โชคดีจังเลย บอกอยู่ตลอด แล้วใหม่ก็ถามเขาประจำว่าพี่เต๋อแน่ใจใช่ไหมเพราะหนูก็แรงอยู่ สิ่งที่ทำให้หนูมั่นใจว่าฝากชีวิตไว้ที่พี่เต๋ออย่างที่ทุกคนทราบกันดี พี่เต๋อเค้าเป็นคนแบบที่ทุกคนรู้จักเป็นคนน่ารัก วันนั้นพี่เต๋อ พูดกับใหม่ว่าพี่เจอหนูแล้วพี่ไม่สามารถปล่อยหนูไปได้ ในใจหนูคิดว่าเสร็จแล้วล่ะ เสร็จแล้วเต๋อ(ยิ้ม) เขาก็บอกหนูว่าแต่งงานกับพี่นะ หนูเลยตอบเขาไปว่า แต่งค่ะ"
ใหม่ เล่าต่อว่า "สำหรับฤกษ์แต่งปีนี้ไม่ค่อยมีฤกษ์ดีเท่าไหร่ พยายามที่จะหาให้ได้ภายในปีนี้ แต่ว่าปีนี้ฤกษ์ไม่ค่อยดี พี่เต๋อจะแต่งเข้าบ้านใหม่ เพราะใหม่ไม่สามารถย้ายออกจากบ้านที่เพิ่งสร้างได้ ใหม่ขอบคุณพี่เต๋อเขาน่ารักมากเข้าใจใหม่ พี่เต๋อเขาก็มาซื้อที่ที่บ้านของหนู หนูก็โอเคแต่ไม่เปลี่ยนชื่อในโฉนด(ยิ้ม) ก็ถ้าเขาทำตัวไม่ดีที่ตรงนั้นก็เป็นที่ของเราอยู่ดีไงคะ ใกล้จะได้เป็นเจ้าสาวตอนแรกใหม่คิดว่าใหม่จะไม่รู้สึกอะไร แต่พอมันใกล้เข้ามาก็เลยรู้สึกว่าเป็นโมเมนต์ที่เราเริ่มเข้าใจว่าทำไมผู้หญิงทุกคนอยากแต่งงานและอยากมีโมเมนต์นี้ มันเป็นโมเมนต์ที่เราได้แชร์กับพาร์ทเนอร์ของเราได้คุยเรื่องอนาคต มันจะมีความเพ้อฝันและมีความสุขมาก ใหม่รู้สึกดีใจที่ได้เอ็นจอยกับโมเมนต์นี้"
"ที่ผ่านมาพี่เต๋อให้ความมั่นคงกับใหม่คือเขาเป็นผู้ใหญ่ การที่เขาเป็นผู้ใหญ่มันทำให้เขาเอาเราอยู่ สอนเราได้ เขาพูดอะไรแล้วเราเชื่อฟัง แล้วอีกอย่างหนึ่งเค้าทำงานตรงกับเราหมายถึงว่าเขาเป็นนักเขียน และเป็นนักแสดงมันตรงกับเรามาก เป็นคนประหยัดอดออมซึ่งดีมากเพราะเราเป็นคนฟุ่มเฟือยเลยอยู่ด้วยกันได้ สิ่งที่สำคัญเลยถ้าคนไหนแม่เซย์โนใหม่จะไม่เอา แต่คนนี้เข้ากับแม่ได้ดี และเราก็เข้ากับแม่เขาได้ดี หนูบอกแม่พี่เต๋อไปว่าการแต่งเข้าในครั้งนี้หนูเอาแม่พี่เต๋อเข้ามาในบ้านด้วย เราไม่ได้อยู่กันแค่สองคนแต่เราอยู่กับครอบครัวของพี่เต๋อและครอบครัวของเราด้วยดังนั้นไม่ใช่ว่าเราแยกไปอยู่กันสองคน แต่ทุกคนอยู่ด้วยกันหมด ทั้งแม่เขาแม่เรา หนูทิ้งแม่ของหนูไม่ได้จริงๆ หนูติดแม่มาก
"หนูไม่ได้มองว่าแต่งเร็วเกินไป หนูอยากใช้ชีวิตร่วมกับพี่เต๋อแล้ว ใหม่มั่นใจมากๆแล้วก็รู้สึกว่าตัวเองแก่ มองว่าตัวเราเองเล่นบทใสๆไม่ได้แล้วมันเป็นอีกสเต็ปหนึ่งของใหม่ ถามว่าตอนไหนที่เรารู้สึกอยากแต่งงานกับเขามากก็น่าจะเป็นช่วงนี้แหละค่ะที่อยากแต่งงานกับเขาเพราะว่าเราได้ลองอยู่ด้วยกันใช้ชีวิตด้วยกันจริงๆ เรามาอยู่บ้านด้วยกันได้เห็นตอนตื่นเช้าเป็นยังไง ก่อนนอนเป็นยังไง นอนดิ้นไหม อะไรแบบนี้เราต้องลอง ไม่งั้นจะมีปัญหา ล้างอาถรรพ์ไหม หนูจำไม่ได้ด้วยซ้ำคิดว่าปีนี้เป็นปีที่6 แต่กลายเป็นว่า 7 ปี กำลังจะเข้าปีที่8แล้ว ถามว่าใครต้องปรับตัวพี่เต๋อเป็นคนปรับเพราะใหม่นอนดิ้นใหม่ได้ยินพี่เต๋อพูดทุกคืนเลยว่าหนูขยับไปหน่อย พี่ไม่มีที่เหลือแล้วหนูก็เลยรู้สึกว่า เราต้องปรับตัว แล้วพอแบบลงตัวปุ๊บก็เลยรู้สึกโอเคไม่มีปัญหาอะไรก็ได้ค่ะ สิ่งที่อยากจะบอกพี่เต๋อก็อยากจะขอบคุณพี่เต๋อมากๆที่เอ็นดูใหม่และรับใหม่ไปเป็นภรรยา"
ขอบคุณภาพจาก davikah