โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สุขภาพ

น้ำแร่ดีกว่าน้ำธรรมดา

Health Daily

เผยแพร่ 01 ก.ค. 2565 เวลา 11.00 น. • สุขภาพดีดี

น้ำแร่ดีกว่าน้ำธรรมดา อย่างไร?

หากคุณเดินในห้างสรรพสินค้าหรือร้านสะดวกซื้อ คุณจะเห็นน้ำดื่มในหลากหลายรูปแบบ ซึ่งมีทั้งน้ำดื่มธรรมดา น้ำแร่ธรรมชาติ น้ำแร่ น้ำผสมวิตามิน และน้ำอื่นๆอีกมากมาย แต่คุณรู้หรือไม่คะว่า น้ำแร่กับน้ำดื่มธรรมดานั้นแตกต่างกันอย่างไร ? วันนี้ สุขภาพดีดี.com ได้รวบรวมข้อมูลดีๆเกี่ยวกับหัวข้อ น้ำแร่ดีกว่าน้ำธรรมดา อย่างไร? มาให้ทุกคนได้อ่านและทำความเข้าใจกันค่ะ

เริ่มต้นกันที่ทำความรู้จักกับน้ำแร่กันก่อนว่าคืออะไร และมีความแตกต่างกันอย่างไร?

น้ำแร่ คือ น้ำบาดาลที่มาจากแหล่งธรรมชาติ อย่างน้ำพุธรรมชาติ น้ำพุร้อน ซึ่งที่มีแร่ธาตุละลายอยู่ในน้ำแล้ว ไม่ใช่การนำแร่ธาตุมาเติมในน้ำเอง โดยหลัก ๆ จะมีแร่ธาตุอยู่ 5 ชนิด คือ แคลเซียม โซเดียม แมกนีเซียม โพแทสเซียม และกำมะถัน แต่จะมีแร่ชนิดไหนมากกว่าก็ขึ้นอยู่กับแหล่งของน้ำที่นำมา และรสชาติที่แตกต่างกันก็ขึ้นอยู่กับว่าน้ำนั้นมีแร่ธาตุอะไรมากกว่าเช่นกัน ถ้ามีรสเค็มก็เป็นเพราะมีโซเดียมมากกว่าแร่ธาตุอื่น ๆ

ชนิดของน้ำแร่

  • น้ำแร่ไบคาร์บอเนตมีปริมาณไบคาร์บอเนตมากกว่า 600 มิลลิกรัมต่อลิตร ช่วยกระตุ้นการเคลื่อนของอาหารจากกระเพาะอาหารไปยังลำไส้เล็กให้เร็วขึ้น, กระตุ้นการหลั่งของฮอร์โมนในกระเพาะอาหาร, ช่วยเพิ่มปริมาณน้ำและเกลือแร่ให้แก่ร่างกาย ดังนั้นใครที่กำลังจะไปออกกำลังกาย หรือไปทำงานที่ต้องเสียเหงื่อ สามารถดื่มน้ำแร่นี้ได้ 500-700 มิลลิลิตร จะช่วยลดภาวะเลือดเป็นกรด

  • น้ำแร่ซัลเฟตมีปริมาณ ซัลเฟตมากกว่า 200 มิลลิกรัมต่อลิตร ช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ โดยเฉพาะในคนที่ท้องผู้กเรื้อรัง

  • น้ำแร่ซัลเฟต-ไบคาร์บอเนตใช้รักษาภาวะที่การทำงานของถุงน้ำดีผิดปกติ, นิ่วในถุงน้ำดี, อาการหลังผ่าตัดถุงน้ำดี

  • น้ำแร่ซัลเฟอร์, เกลือ-ไอโอดีน, เกลือ-โบรมีน-ไอโอดีนไม่นิยมดื่ม มักใช้กับอวัยวะภายนอกร่างกาย ใช้อาบ หรือสูดพ่นทางเดินหายใจ มีฤทธิ์บรรเทาอาการอักเสบของระบบสืบพันธุ์เพศหญิง และบรรเทาอาการทางผิวหนังบางชนิด

  • น้ำแร่ซัลเฟอร์และไบคาร์บอเนตใช้ในการรักษาโรคเบาหวาน โดยจะลดระดับน้ำตาล อาการกระหายน้ำ ปัสสาวะบ่อย และช่วยลดความต้องการอินซูลิน นอกจากนี้น้ำแร่ไบคาร์บอเนต ยังช่วยลดภาวะเลือดเป็นกรดในผู้ป่วยเบาหวานได้

  • น้ำแร่คลอรีน (น้ำเกลือ)มีปริมาณคลอไรด์มากกว่า 200 มิลลิกรัมต่อลิตร ช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้และการหลั่งสารที่เกี่ยวข้องกับน้ำและอิเล็กโตรไลท์, กระตุ้นการหลั่งน้ำดี, บรรเทาอาการท้องผูก

  • น้ำแร่แคลเซียมมีปริมาณแคลเซียมมากกว่า 150 มิลลิกรัมต่อลิตร เหมาะกับผู้ที่ต้องการแคลเซียมในปริมาณมากกว่าคนปกติ เช่น เด็ก หญิงตั้งครรภ์ สตรีวัยหมดประจำเดือน ผู้สูงอายุ

  • น้ำแร่แมกนีเซียมมีปริมาณแมกนีเซียมมากกว่า 50 มิลลิกรัมต่อลิตร ช่วยกระตุ้นการหลั่งน้ำดี

แตกต่างจากน้ำธรรมดาอย่างไร?

ไม่มีความแตกต่างกันมากนักแต่จะมีความแตกต่างกันที่น้ำแร่นั้นมีแร่ธาตุมากกว่าในน้ำดื่มปกติเท่านั้นเอง ซึ่งถ้าหากถามว่าจำเป็นต้องดื่มน้ำแร่มั้ยนั้น คำตอบก็คืออาจจะไม่จำเป็น ด้วยความที่น้ำแร่มีปริมาณแร่ธาตุมากกว่าน้ำเปล่าธรรมดา ๆ ทำให้หลายคนเข้าใจว่า ถ้าอย่างนั้นดื่มน้ำแร่ก็น่าจะดีกับสุขภาพมากกว่าดื่มน้ำเปลาธรรมดาแน่ ๆ เลย เพราะจะได้รับแร่ธาตุมากกว่า

แต่ในความเป็นจริงแล้ว เราไม่จำเป็นต้องดื่มน้ำแร่ก็ได้ หากเราไม่ได้เจ็บป่วยหรือร่างกายขาดแร่ธาตุตัวใด เพราะร่างกายของเราได้รับแร่ธาตุวิตามินมาจากอาหารที่เราทานทุกวันอยู่แล้วค่ะ

ประโยชน์ของการดื่มน้ำ

1. ช่วยลดน้ำหนัก

สำหรับคุณผู้หญิงหรือคุณผู้ชายที่กำลังลดน้ำหนักอยู่ การดื่มน้ำจะช่วยกระตุ้นการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย เมื่อร่างกายมีน้ำมาเติมเต็ม จะทำให้ความอยากอาหารลดลง การลดน้ำหนักจะเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น

2. ช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น

การดื่มน้ำน้อยมีสาเหตุมาจากการที่ลำไส้เคลื่อนไหวไม่คล่อง ดังนั้นการดื่มน้ำไม่เพียงพอ ร่างกายจึงดึงน้ำจากอุจจาระในลำไส้เรานั่นเอง ทำให้อุจจาระเราผูก ขาดความชุ่มชื้น การดื่มน้ำเข้าไปในร่างกาย จะทำให้การทำงานของลำไส้เป็นไปอย่างสมดุล การขับถ่ายก็คล่องขึ้น

3. ดื่มน้ำต้านมะเร็ง

จากงานวิจัยพบว่า ผู้ที่ดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอ มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งลำไส้ลดลงมากถึง 45% รวมทั้งมะเร็งกระเพาะปัสสาวะและมะเร็งเต้านม ลดลงถึง 50% เพราะน้ำเป็นตัวชำระล้างของเสียในลำไส้และร่างกายของเรา ซึ่งเป็นตัวก่อให้เกิดสารก่อมะเร็งได้

4. ช่วยให้สมองทำงานดีขึ้น

มีงานวิจัยออกมาว่า สมองของเราได้สูญเสียน้ำอย่างรวดเร็ว จากกิจวัตรประจำวัน ก่อให้เกิดการกระหายน้ำ รู้สึกเพลีย ไม่สดชื่น อาจมีอาการมึนงงได้ ดังนั้นการดื่มน้ำจึงเป็นวิธีการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ โดยเฉพาะการดื่มน้ำตอนเช้าหลังตื่นนอน จะช่วยกระตุ้นให้สมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

5. ช่วยให้หัวใจทำงานแข็งแรง

การดื่มน้ำเป็นประจำช่วยลดความหนืดของเลือด ไปเจือจางสารพิษที่ไปเกาะบริเวณหลอดเลือดของเรา อันเป็นสาเหตุของโรคหัวใจ ดังนั้นการดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสม โดยจะต้องดื่มน้ำวันละ 8-10 แก้วต่อวัน ช่วยให้การไหลเวียนของโลหิตคล่องตัวขึ้นและช่วยให้หัวใจทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

6. ช่วยให้ผิวมีสุขภาพดี ชะลอวัย

การดื่มน้ำน้อยจะทำให้เซลล์ผิวหนังของเราไม่มีความชุ่มชื้น แห้งกร้าน ก่อให้เกิดสิวได้ การดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสม ช่วยเติมความชุ่มชื่น ผิวของเราจะมีความเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล ดูอ่อนกว่าวัยขึ้นมาทันที

ที่มาข้อมูล : น้ำเปล่า vs น้ำแร่

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...