โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

SPORTY AND LEARN รวมบทเรียนวิชากีฬาจากปี 2025

THE STANDARD

อัพเดต 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • thestandard.co
SPORTY AND LEARN รวมบทเรียนวิชากีฬาจากปี 2025

ปี 2025 กำลังจะบอกรักและบอกลาพวกเราไปในวันนี้แล้ว

สำหรับโลกของกีฬา ปีนี้เป็นอีกปีที่มีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้น มีทั้งเรื่องที่ทำให้หัวใจพองโตอย่างมีความสุข และเรื่องที่ทำให้ทุกข์ถึงขั้นต้องเสียน้ำตากับความสูญเสีย

สิ่งเหล่านี้ ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ ต่างเป็นบทเรียนที่ศึกษาได้ไม่ต่างอะไรจากตำราในชั้นหนังสือ ต่างกันเพียงแค่รูปแบบจากบันทึกบนหน้ากระดาษสู่การถ่ายทอดเรื่องราวด้วยเลือดเนื้อและจิตวิญญาณของคนจริงๆ

วันนี้เลยขอเก็บเอาบทเรียนเล็กๆ จากเกมกีฬาในปี 2025 มาฝากกัน เป็นการส่งท้ายปีนะครับ

1. ดีโอโก โชตา: เพราะชีวิตช่างเปราะบาง

“โชตาตาย เช็กข่าวหน่อย จริงหรือเปล่า”

ผมยังจำได้ดีถึงบ่ายแก่ๆ วันนั้นที่กำลังสาละวนอยู่กับการทำงาน แต่จู่ๆ ก็เริ่มมีข้อความและเสียงตามสายเข้ามาหา ก่อนที่มือจะสั่นและหัวใจจะหวิวไปกับรายงานข่าวจากหลายสำนักที่ไปในทิศทางเดียวกันว่า ดีโอโก โชตา กองหน้าขวัญใจแฟนบอลทีมลิเวอร์พูลเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ในระหว่างการเดินทางที่ประเทศสเปนพร้อมกับอังเดร ซิลวา ผู้เป็นน้องชาย

รายละเอียดและเรื่องราวหลังจากนั้นไม่จำเป็นต้องเล่าย้อนอีก

สิ่งสำคัญคือโชตา ที่เพิ่งจะเข้าพิธีวิวาห์กับภรรยาไปไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้านั้น และย้อนกลับไปอีกไม่นานก็เพิ่งจะฉลองแชมป์พรีเมียร์ลีกหนแรกของเขากับลิเวอร์พูล ได้จากทุกคนไปแบบไม่มีวันหวนกลับ

ไม่ได้บอกรัก ไม่ได้บอกลา ไม่ได้บอกอะไรกับใครเลย

เรื่องนี้ทำให้เราได้เห็นว่าชีวิตของเรานั้นช่างเปราะบางแค่ไหนและเราอาจจะต้องไปจากทุกคนแบบกะทันหันจริงๆ

แต่ในความสูญเสีย โชตาก็บอกให้เรารู้ว่าหากเราใช้ชีวิตอย่างดีพอและพอดี เราจะไม่มีวันตายจากทุกคนไป อย่างน้อยก็ในความทรงจำ เรื่องเล่าและเรื่องราวของเขา สิ่งดีๆที่เคยทำ บางเรื่องอาจจะไม่เคยได้รับการเปิดเผยก็ถูกเปิดเผยออกมา

ตัวของโชตาอาจจะไม่อยู่แล้ว แต่เขายังคงเป็น “FOREVER NO.20” ของแฟนๆทุกคน

2. แชมป์โลกของ McLaren: ไม่มีใครเก่งแค่คนเดียว

ปีที่ผ่านมาเป็นปีที่การแข่งขันรถฟอร์มูลาวัน (F1) สนุกมาก (ก.ไก่สิบห้าล้านตัว) และต้องลุ้นกันจนถึงสนามสุดท้ายจริงๆ ซึ่งสุดท้ายแชมป์โลกตกเป็นของแลนโด นอร์ริส ผู้รอคอยวันเวลานี้มาแสนนานที่จะได้ยืนอยู่ ณ จุดสูงสุดของโลก

เพียงแต่นอร์ริสไม่ได้เป็นผู้ชนะแค่คนเดียวในฤดูกาลนี้ เพราะทีม McLaren ได้รางวัล ‘ทีมผู้สร้าง’ (Constructor awards) เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ตอกย้ำซ้ำๆ ว่าความสำเร็จของเหล่าชาว Papaya นั้นได้มาเพราะพวกเขาใช้หัวใจดวงเดียวกัน

หัวใจที่เรียกว่า ‘ทีมเวิร์ก’

ถึงการแข่งรถเอฟวันจะเป็นกีฬาที่มี ‘พระเอก’ แค่คนเดียวคือนักขับที่อยู่หน้างาน ต้องเป็นผู้ควบคุมรถด้วยทักษะที่สูงเหนือมนุษย์ แต่รถแข่งไม่เคยเป็นกีฬาของใครคนหนึ่ง แต่เป็นกีฬาประเภททีมยิ่งกว่าทีม ทุกคนมีบทบาทที่สำคัญของตัวเอง และสิ่งสำคัญที่สุดคือการทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด

ในวงเล็บว่าคลื่นความคิดและจิตวิญญาณต้องเท่าเทียมกันด้วย

ความเก่งกาจของ นอร์ริส ไม่มีอะไรต้องสงสัย แต่เราเห็นได้ชัดในสนามสุดท้ายถึงการทำงานเป็นทีมของ McLaren ที่เมื่อรู้ว่าออสการ์ พิอาสทรี หมดโอกาสในการลุ้นแชมป์โลกด้วยแล้ว ทุกคนกลับมารวมพลังวางกลยุทธ์และทำตามอย่างแข็งขันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สำคัญที่สุดคือการมีแชมป์โลกในทีมของพวกเขาอีกครั้ง

เรื่องแบบนี้มันก็เหมือนชีวิตจริงในการทำงานของเรา

เก่งคนเดียวไม่เคยพอ

3. ซีเกมส์: อย่าคาดหวังผลลัพธ์ที่ดีจากการทำงานชุ่ยๆ

มหกรรมกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 33 กลายเป็นมหกรรมที่ติดตรึงอยู่ในใจของแฟนกีฬาชาวไทยมากที่สุด

ผู้คนไม่ได้จดจำว่าเราเป็นเจ้าเหรียญทอง หรือนึกถึงผลงานอันสุดยอดของเหล่านักกีฬาผู้ทุ่มเทกายใจและจิตวิญญาณเพื่อสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศชาติ

แต่จำจนตายถึงการเป็นเจ้าภาพที่แย่และล้มเหลวที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย

ไม่ว่ามันจะเป็นเพราะอะไรก็ตาม แต่ซีเกมส์ครั้งนี้ล้มเหลวในมิติของการเป็นเจ้าภาพ สนามกีฬาที่ล้าสมัย ไร้ความพร้อม ไม่มีการประชาสัมพันธ์ ระบบต่างๆ การปิดอัฒจันทร์ด้านหนึ่งของสนามราชมังคลากีฬาสถานเพื่อใช้สำหรับพิธีเปิดและพิธีปิด ไปยันนักกีฬาผู้น่าสงสารที่ไม่ได้รับเบี้ยเลี้ยง

ทั้งๆ ที่มันควรจะเป็นช่วงเวลาที่ทุกคนได้มีความสุขไปกับมหกรรมกีฬาที่ไม่ได้แวะเวียนมาในบ้านเรานานถึง 18 ปี

สิ่งที่ดีที่สุดจากการเป็นเจ้าภาพในครั้งนี้คือการที่คนไทยได้ตระหนักรู้ถึง ‘รากเหง้า’ ของปัญหาว่ามันเกิดจากคนไม่กี่คนที่มองเห็นผลประโยชน์ส่วนตนมากกว่าหน้าตาของประเทศชาติ

และไม่ว่ามหกรรมกีฬาครั้งหน้าจะวนกลับมาที่บ้านเราเมื่อไร

มันคงไม่มีอะไรแย่ไปกว่าซีเกมส์ครั้งนี้แล้ว

4. ปรากฏการณ์หมอนทองวิทยา: เพราะความฝันไม่มีวันหมดอายุ

หนึ่งในความมหัศจรรย์ของวงการกีฬาปีที่ผ่านมาคือปรากฏการณ์ของน้องๆ ทีม ‘หมอนทองวิทยา’ ที่กลายเป็นขวัญใจของคนทั้งประเทศในช่วงเวลาไม่กี่สัปดาห์

เด็กๆ จากโรงเรียนในเมืองแปดริ้ว สร้างความประทับใจจากผลงานในรายการ ‘ฟุตบอล 7 สี’ ซึ่งเป็นหนึ่งในรายการระดับเยาวชนที่มีชื่อเสียงที่สุดของเมืองไทย โดยเป็นทีม ‘ม้ามืด’ ที่พลิกโค่นทีมดังๆ ระดับหัวแถวของประเทศได้อย่างมากมาย

จากนัดนี้ไปนัดหน้า หมอนทองวิทยากลายเป็น ‘สตอรี’ ที่สร้างแรงบันดาลใจให้แก่คนมากมาย

เด็กๆ ที่กระจัดกระจายมาจากที่ต่างๆ ถูกขัดเกลาโดยอาจารย์ผู้รักการปั้นดาวรุ่งขึ้นมาประดับวงการ

การเดินทางที่ยากลำบากด้วย ‘รถขนฝัน’ แต่ไม่เคยย่อท้อ

สุดท้ายแม้ว่าพวกเขาจะไปไม่ถึงปลายทางของความฝันเมื่อเจอคู่แข่งที่แข็งแกร่งอย่างทีมโรงเรียนชัยนาท แต่อย่างน้อยที่สุดระหว่างทางที่ผ่านมาของหมอนทองวิทยาก็เหมือนความฝันแล้ว

และสิ่งล้ำค่าที่สุดคือการที่เด็กๆเหล่านี้ได้ทำให้ผู้ใหญ่อีกมากมายได้กลับมานึกออกอีกครั้ง

ว่าความฝันหน้าตาเป็นเช่นไร

5. ซินเนอร์-อัลคาราซ: คู่แข่งแห่งชีวิต

ไม่ใช่ทุกคนหรอกที่ชอบจะมีคู่แข่ง เพราะมันทั้งกดดันและเหนื่อยยาก แต่ไม่ใช่ว่าการมีคู่แข่งทุกครั้งจะเป็นเรื่องไม่ดี

ในเชิงกีฬานั้นการมีคู่แข่ง (Rivalry) เป็นเรื่องที่สามารถส่งผลในทางที่ดีให้เกิดขึ้นได้ เพราะยิ่งมีคู่แข่งที่เก่งมากขึ้นเท่าไร ยิ่งต้องเจอกับความยากลำบากแค่ไหนในการจะค้นหาชัยชนะ แต่ในเวลาเดียวกันคู่แข่งนี่แหละที่จะเป็นแรงผลักดันให้เรายิ่งต้องพยายามมากขึ้นและมากขึ้น

สุดท้ายจะนำไปสู่การพัฒนาตัวเองไปอีกขั้น

เหมือนกรณีคู่ของ ยานนิค ซินเนอร์ และคาร์ลอส อัลคาราซ ที่กลายเป็นคู่แข่งใหม่ของวงการเทนนิสที่ทำให้คิดถึงคู่ของ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์กับราฟาเอล นาดาล ที่ต่างผลักดันกันและกันให้ไปสู่จุดที่สูงยิ่งขึ้น เก่งยิ่งขึ้น และแกร่งยิ่งขึ้น

สำหรับเกมกีฬาชัยชนะก็สำคัญอยู่

แต่บางครั้งชัยชนะไม่ได้มาในรูปแบบของการล้มคู่แข่งได้อย่างเดียว เพราะการชนะขีดจำกัดของตัวเองได้ไม่ว่าจะเล็กน้อยแค่ไหนก็ตาม

แค่นั้นก็นับว่าเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่แล้ว

เป็นอันสรุปบทเรียนสั้นๆ ที่ได้เรียนรู้จากวงการกีฬาตลอดปี 2025 ที่ผ่านมา

ไม่ว่า 365 วันที่ผ่านมาของทุกคนจะเป็นอย่างไรก็ตาม ขอให้มีกำลังกายกำลังใจเข้มแข็งสำหรับอีก 365 วันข้างหน้า ที่กำลังจะมาถึง

สวัสดีปีใหม่ล่วงหน้านะครับ 🙂

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...