โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ต่างประเทศ

ไข่ต้มมี "ขอบเขียว" กินได้ไหม? อันตรายหรือแค่ต้มผิดวิธี เฉลยแล้วที่นี่!

sanook.com

เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • Sanook

ไข่ต้มมี "ขอบสีเขียว" รอบไข่แดง กินได้หรือไม่? อันตรายหรือแค่ต้มผิดวิธี เฉลยแล้วที่นี่

เมนู "ไข่ต้ม" เป็นอาหารยอดฮิตที่ทำง่ายและอยู่คู่ครัวทุกบ้าน แต่หลายครั้งเมื่อปอกเปลือกออกมาแล้วผ่าดู กลับพบว่ารอบๆ ไข่แดงมี "เส้นขอบสีเขียวอมเทา" ปรากฏอยู่ ทำให้หลายคนเกิดความกังวลว่าไข่ใบนั้นเน่าเสีย เป็นไข่เก่า หรือมีสารเคมีอันตรายหรือไม่ และที่สำคัญคือ "ยังกินได้อยู่หรือเปล่า"

ไข่แดงขอบเขียว เกิดจากอะไร?

รอยสีเขียวเทาหรือเขียวขี้ม้าที่เห็นรอบไข่แดง แท้จริงแล้วคือปฏิกิริยาทางเคมีตามธรรมชาติที่เรียกว่า "วงแหวนซัลเฟอร์" (Sulfur Ring) ซึ่งเกิดจากการต้มไข่นานเกินไป หรือใช้อุณหภูมิสูงเกินความจำเป็น

เมื่อไข่ขาวได้รับความร้อนนานเกินไป โปรตีนจะปล่อยกำมะถัน (Sulfur) ออกมาในรูปแบบก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์ ซึ่งจะทำปฏิกิริยากับธาตุเหล็ก (Iron) ที่มีอยู่มากในไข่แดง ผลลัพธ์ที่ได้คือสารประกอบที่เรียกว่า "ไอร์ออน ซัลไฟด์" (Iron Sulfide) ซึ่งมีสีเขียวเทาเคลือบอยู่รอบผิวของไข่แดงนั่นเอง

กินได้ไหม? อันตรายต่อสุขภาพหรือเปล่า?

ข่าวดีคือ สารไอร์ออน ซัลไฟด์ นี้ "ไม่เป็นพิษและไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย" คุณสามารถทานไข่ต้มที่มีขอบเขียวได้ตามปกติโดยไม่ต้องกังวลเรื่องสารตกค้าง

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เปลี่ยนไปคือ "รสสัมผัส" ไข่ที่ต้มจนมีขอบเขียวมักจะมีเนื้อที่แห้ง แข็ง และร่วนซุยกว่าไข่ต้มยางมะตูมหรือไข่ที่สุกพอดี ในแง่โภชนาการอาจมีการสูญเสียวิตามินบางชนิดที่ไวต่อความร้อน เช่น วิตามินบี ไปบ้างเล็กน้อย แต่โปรตีน ไขมันดี และแร่ธาตุหลักๆ ยังอยู่ครบถ้วน

เทคนิคต้มไข่ ให้ไข่แดงสีสวย ไม่เป็นขอบเขียว

สาเหตุหลักของขอบเขียวคือ "ความร้อนที่มากเกินไป" และ "เวลาที่นานเกินไป" ดังนั้น หากอยากได้ไข่ต้มที่ไข่แดงสีเหลืองสวย น่ารับประทาน ควรทำตามขั้นตอนดังนี้:

  • จับเวลาให้เป๊ะ: ไข่ต้มสุกพอดี (Hard-boiled) ควรใช้เวลาต้มประมาณ 9-10 นาที (นับจากน้ำเดือด) ไม่ควรต้มทิ้งไว้นานกว่านี้
  • น็อคน้ำเย็นทันที: นี่คือขั้นตอนสำคัญที่สุด! เมื่อครบเวลา ให้รีบตักไข่ออกแช่ในน้ำเย็นจัดหรือน้ำใส่น้ำแข็งทันที เพื่อหยุดความร้อนระอุภายใน ไม่ให้ไข่สุกต่อจนเกิดปฏิกิริยาเคมีเป็นสีเขียว
  • อย่าใช้ไข่เก่าเกินไป: ไข่เก่าจะมีค่าความเป็นด่างสูง ซึ่งเอื้อให้เกิดวงแหวนสีเขียวได้ง่ายกว่าไข่สด

แบบไหนที่เรียกว่า "ไข่เสีย" จริงๆ

แม้ขอบเขียวจะทานได้ แต่ถ้าเจอสัญญาณเหล่านี้ ควรทิ้งทันที ห้ามเสียดาย:

  • มีกลิ่นเหม็นเน่า หรือกลิ่นกำมะถันรุนแรงผิดปกติ (แม้ยังไม่ปอกเปลือก)
  • ไข่ขาวมีลักษณะเป็นเมือก ลื่น หรือเหนียวเหนอะหนะ
  • สีของไข่แดงผิดปกติในลักษณะดำคล้ำ หรือเป็นด่างดวงที่ไม่ใช่วงแหวนรอบนอก

รอยขอบสีเขียวบนไข่แดงไม่ใช่เรื่องน่ากลัว เป็นเพียงหลักฐานฟ้องว่าคุณ "ต้มไข่นานเกินไป" เท่านั้น ครั้งต่อไปลองปรับเวลาลดลงและแช่น้ำเย็นทันที คุณก็จะได้ไข่ต้มที่สวยเป๊ะ น่ากิน และได้ประโยชน์ครบถ้วนครับ

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...