ไข่ต้มมี "ขอบเขียว" กินได้ไหม? อันตรายหรือแค่ต้มผิดวิธี เฉลยแล้วที่นี่!
ไข่ต้มมี "ขอบสีเขียว" รอบไข่แดง กินได้หรือไม่? อันตรายหรือแค่ต้มผิดวิธี เฉลยแล้วที่นี่
เมนู "ไข่ต้ม" เป็นอาหารยอดฮิตที่ทำง่ายและอยู่คู่ครัวทุกบ้าน แต่หลายครั้งเมื่อปอกเปลือกออกมาแล้วผ่าดู กลับพบว่ารอบๆ ไข่แดงมี "เส้นขอบสีเขียวอมเทา" ปรากฏอยู่ ทำให้หลายคนเกิดความกังวลว่าไข่ใบนั้นเน่าเสีย เป็นไข่เก่า หรือมีสารเคมีอันตรายหรือไม่ และที่สำคัญคือ "ยังกินได้อยู่หรือเปล่า"
ไข่แดงขอบเขียว เกิดจากอะไร?
รอยสีเขียวเทาหรือเขียวขี้ม้าที่เห็นรอบไข่แดง แท้จริงแล้วคือปฏิกิริยาทางเคมีตามธรรมชาติที่เรียกว่า "วงแหวนซัลเฟอร์" (Sulfur Ring) ซึ่งเกิดจากการต้มไข่นานเกินไป หรือใช้อุณหภูมิสูงเกินความจำเป็น
เมื่อไข่ขาวได้รับความร้อนนานเกินไป โปรตีนจะปล่อยกำมะถัน (Sulfur) ออกมาในรูปแบบก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์ ซึ่งจะทำปฏิกิริยากับธาตุเหล็ก (Iron) ที่มีอยู่มากในไข่แดง ผลลัพธ์ที่ได้คือสารประกอบที่เรียกว่า "ไอร์ออน ซัลไฟด์" (Iron Sulfide) ซึ่งมีสีเขียวเทาเคลือบอยู่รอบผิวของไข่แดงนั่นเอง
กินได้ไหม? อันตรายต่อสุขภาพหรือเปล่า?
ข่าวดีคือ สารไอร์ออน ซัลไฟด์ นี้ "ไม่เป็นพิษและไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย" คุณสามารถทานไข่ต้มที่มีขอบเขียวได้ตามปกติโดยไม่ต้องกังวลเรื่องสารตกค้าง
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เปลี่ยนไปคือ "รสสัมผัส" ไข่ที่ต้มจนมีขอบเขียวมักจะมีเนื้อที่แห้ง แข็ง และร่วนซุยกว่าไข่ต้มยางมะตูมหรือไข่ที่สุกพอดี ในแง่โภชนาการอาจมีการสูญเสียวิตามินบางชนิดที่ไวต่อความร้อน เช่น วิตามินบี ไปบ้างเล็กน้อย แต่โปรตีน ไขมันดี และแร่ธาตุหลักๆ ยังอยู่ครบถ้วน
เทคนิคต้มไข่ ให้ไข่แดงสีสวย ไม่เป็นขอบเขียว
สาเหตุหลักของขอบเขียวคือ "ความร้อนที่มากเกินไป" และ "เวลาที่นานเกินไป" ดังนั้น หากอยากได้ไข่ต้มที่ไข่แดงสีเหลืองสวย น่ารับประทาน ควรทำตามขั้นตอนดังนี้:
- จับเวลาให้เป๊ะ: ไข่ต้มสุกพอดี (Hard-boiled) ควรใช้เวลาต้มประมาณ 9-10 นาที (นับจากน้ำเดือด) ไม่ควรต้มทิ้งไว้นานกว่านี้
- น็อคน้ำเย็นทันที: นี่คือขั้นตอนสำคัญที่สุด! เมื่อครบเวลา ให้รีบตักไข่ออกแช่ในน้ำเย็นจัดหรือน้ำใส่น้ำแข็งทันที เพื่อหยุดความร้อนระอุภายใน ไม่ให้ไข่สุกต่อจนเกิดปฏิกิริยาเคมีเป็นสีเขียว
- อย่าใช้ไข่เก่าเกินไป: ไข่เก่าจะมีค่าความเป็นด่างสูง ซึ่งเอื้อให้เกิดวงแหวนสีเขียวได้ง่ายกว่าไข่สด
แบบไหนที่เรียกว่า "ไข่เสีย" จริงๆ
แม้ขอบเขียวจะทานได้ แต่ถ้าเจอสัญญาณเหล่านี้ ควรทิ้งทันที ห้ามเสียดาย:
- มีกลิ่นเหม็นเน่า หรือกลิ่นกำมะถันรุนแรงผิดปกติ (แม้ยังไม่ปอกเปลือก)
- ไข่ขาวมีลักษณะเป็นเมือก ลื่น หรือเหนียวเหนอะหนะ
- สีของไข่แดงผิดปกติในลักษณะดำคล้ำ หรือเป็นด่างดวงที่ไม่ใช่วงแหวนรอบนอก
รอยขอบสีเขียวบนไข่แดงไม่ใช่เรื่องน่ากลัว เป็นเพียงหลักฐานฟ้องว่าคุณ "ต้มไข่นานเกินไป" เท่านั้น ครั้งต่อไปลองปรับเวลาลดลงและแช่น้ำเย็นทันที คุณก็จะได้ไข่ต้มที่สวยเป๊ะ น่ากิน และได้ประโยชน์ครบถ้วนครับ