กองทัพบกแถลงทหารเสียชีวิตเพิ่ม รวม 2 นาย เจ็บ 8 นาย – เฝ้าระวังสนามบิน – ใช้ F-16 เร่งทำลายฐาน
กองทัพบก แถลงสรุปทหารเสียชีวิตเพิ่มรวม 2 นาย เจ็บ 8 นาย เฝ้าระวังสนามบิน ใช้ F-16 เร่งทำลายฐานยิงอาวุธไกล ตึกกาสิโน กัมพูชา ผบ.ทบ.กำชับความปลอดภัยประชาชน- กำลังพล
ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย- กัมพูชาโดยย้ำว่าการใช้อาวุธตอบโต้ยังคงเป็นไปตามแผนการเผชิญเหตุเฉพาะพื้นที่ตามกฎการใช้กำลัง และมุ่งโจมตีพื้นที่เป้าหมายที่มีเจตนาคุกคามหรือกระทำต่อฝ่ายไทยยังพบว่ากัมพูชามีการเตรียมความพร้อมของกำลังพลยุทโธปกรณ์และอาวุธยิงสนับสนุนเพิ่มเติม รวมไปถึงมีแนวโน้มว่ากัมพูชามีการระบุพิกัดการใช้อาวุธระยะไกลในเขตพื้นที่ตอนใน ครอบคลุมพื้นที่ใกล้สนามบินบุรีรัมย์ และบริเวณพื้นที่ใกล้โรงพยาบาลในอำเภอปราสาท อยู่ห่างจากชายแดนถึง30 กิโลเมตร
ทั้งนี้เป็นเครื่องบ่งชี้วัดทางกัมพูชาอาจจะต้องการให้กำลังพลทหารฝ่ายไทย ได้รับผลกระทบจากทุ่นระเบิดเหล่านั้น
ขณะที่การปฏิบัติที่สำคัญในห้วงเย็นวานนี้ กองทัพภาคที่ 2 คำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชน มีการเร่งอพยพซึ่งการดำเนินการเป็นการปฏิบัติในพื้นที่ส่วนหลัง ทางกองทัพภาคที่ 2 ได้มีการประสานกับฝ่ายปกครองและฝ่ายท้องถิ่นรวมไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการที่จะดำเนินการอพยพซึ่งปัจจุบันมีความสมบูรณ์แล้ว
ขณะที่เหตุการณ์ในช่วงกลางดึกวานนี้ จนกระทั่งวันนี้ มีการยิงและเกิดการปะทะในหลายพื้นที่ จนกระทั่งรุ่งเช้า เริ่มมีการปะทะหนักขึ้นตั้งแต่เวลา 05.00 น. ทางฝ่ายกัมพูชามีการใช้ปืนเล็ก ปืนใหญ่ อาวุธยิงสนับสนุนต่างๆเข้ามาจนเป็นเหตุให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตในพื้นที่ช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี และยังพบหลักฐานว่าทางฝ่ายกัมพูชา ได้เปิดพื้นที่การปะทะเพิ่ม เช่น ช่องอานม้า ปราสาทคนา ปราสาทตาควาย และปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ และห้วยตะมาเรีย จ.ศรีสะเกษ
โดยฝ่ายไทยตอบโต้ตามแผนเผชิญเหตุเน้นเป้าหมายทางทหารเป็นหลัก เช่น ฐานทหาร ที่ตั้งอาวุธจริงสนับสนุน พร้อมประสานขอรับการสนับสนุนการใช้อากาศยานของกองทัพอากาศ ในการปล่อยอาวุธ เพื่อยับยั้งการโจมตีของทหารกัมพูชา ซึ่งถือเป็นความจำเป็นในการป้องกันตนเองหลังพบว่าฝ่ายกัมพูชามีการใช้อาวุธยิงสนับสนุนต่อฝ่ายไทยอย่างต่อเนื่อง
ขอเน้นย้ำว่าการใช้กำลังทางอากาศของฝ่ายไทยเป็นการปฏิบัติต่อเป้าหมายทางทหารของฝ่ายกัมพูชาเท่านั้น กำจัดวงและขอบเขตความเสียหาย พร้อมยับยั้งการโจมตีอาวุธยิงสนับสนุนของกัมพูชาที่ก่อให้เกิดการบาดเจ็บและเสียชีวิตแก่กำลังพลของฝ่ายไทย
สำหรับการโจมตีการปล่อยอาวุธจากอากาศยานเป็นการโจมตีที่ค่อนข้างมีความแม่นยำสูง บริเวณแนวปะทะไม่กระทบต่อพลเรือน ที่สำคัญฝ่ายไทยจำเป็นจะต้องสกัดกั่นอาวุธยิงสนับสนุนของฝ่ายกัมพูชา ที่กำลังคุกคามคนไทย เนื่องจากการปะทะครั้งที่ผ่านมาเคยยิงใส่ในพื้นที่เป้าหมายทางพลเรือนของฝ่ายไทย ทำให้ประชาชนและที่อยู่อาศัยมีความเสียหาย เกิดการบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก
เมื่อถามว่ากรณีที่ F- 16 โจมตีพื้นที่กาสิโน เป็นที่ตั้งของอาวุธชนิดใด โฆษกกองทัพบก ระบุว่า เป็นทั้งสถานที่บังคับการและศูนย์การบังคับบัญชาของอากาศยานไร้คนขับ(โดรน) พร้อมย้ำว่า เป็นที่ตั้งของทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับอากาศยานไร้คนขับ
พลตรีวินธัย กล่าวถึงยอดผู้เสียชีวิตในเบื้องต้นขอยืนยัน มีข้อมูลอย่างเป็นทางการเสียชีวิต 1 นาย ขณะที่ผู้ได้รับบาดเจ็บขณะนี้มี 8 นาย
ส่วนจะมีการขยายแนวไปที่กองทัพภาคที่ 1 หรือไม่ พลตรีวิธัย ปัจจุบันเป็นการตอบโต้เผชิญเหตุตามสถานการณ์มีเพียงข้อมูลตามที่ได้รายงานไปให้ทราบเท่านั้น
เมื่อถามว่าพลเอกพนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก หรือ ผบ.ทบ. ได้สั่งการกำชับอะไรหรือไม่ พลตรีวินธัย กล่าวว่า สถานการณ์พื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาตลอดห้วงเวลาที่ผ่านมา ไม่ได้อยู่ในขั้นที่ไว้วางใจ ดังนั้นผบ.ทบ.ได้สั่งการให้หน่วยนั้นมีการเตรียมความพร้อมไว้ล่วงหน้าแล้ว พร้อมเตรียมการทางยุทธวิธีที่จะตอบโต้ภัยคุกคามที่ทางกัมพูชาทำ โดยเฉพาะการใช้อาวุธ รวมทั้งเป็นห่วงในเรื่องการบาดเจ็บและสูญเสียของกำลังพลฝ่ายไทย คำนึงสูงสุดถึงการที่จะส่งผลกระทบต่อการบาดเจ็บและสูญเสียของประชาชน จนเป็นที่มาให้ทำลายเป้าหมายที่สำคัญสุดสุดคือ ต้องทำลายระบบอาวุธยิงสนับสนุนของฝ่ายกัมพูชา เพราะสิ่งนั้นไม่เพียงแต่กระทบต่อกำลังพลผู้ปฏิบัติหน้าที่ของทหาร แต่มีโอกาสสูงที่จะกระทบต่อประชาชนของไทย
เมื่อถามถึงการป้องกันสถานที่สำคัญ เช่น สนามบิน โรงพยาบาล คลังอาวุธของไทย มีความพร้อมเพียงใด พลตรีวินธัย ยอมรับว่ามีการเตรียมการไว้ เครื่องมือแอนตี้โดรนสามารถสกัดกั้นได้อยู่อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะถานที่สำคัญๆในทางทหาร มีการเตรียมการอยู่ในระบบปกติของราชการอยู่แล้ว
ส่วนประเมินความเสี่ยงของสนามบินอย่างไรพลตรีวินธัย กล่าวว่า หลักการใช้อาวุธจะต้องจำกัดขอบเขตในพื้นที่ชายแดน หากเกินพื้นที่ชายแดนสังคมโลกยอมรับไม่ได้ และเคยมีเหตุการณ์ลักษณะแบบนี้มาแล้ว เพราะฉะนั้นส่วนใหญ่ในพื้นที่สนามบินค่อนข้างมีความห่างไกลพื้นที่การรบพอสมควร แต่ตามมาตรการทางทหารไม่ได้ประมาทมีมาตรการที่จะดูแลและป้องกันอยู่แล้ว
เมื่อถามว่าสถานการณ์ย้อนกลับไปเหมือนการสู้รบครั้งแรก เมื่อ 24-28 ก.ค. 2568 ใช่หรือไม่ พลตรีวินธัย กล่าวว่า ตอนนี้ตอบยาก การใช้กำลังของฝ่ายไทย ยังเป็นไปตามการเผชิญเหตุ ยังอยู่ในกรอบและกติกาที่เป็นสากล การตอบโต้เป็นไปตามเหตุและผลอยู่ในระดับที่เหมาะสม
สำหรับการดูแลพื้นที่ส่วนหลังหรือการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เพิ่มเติม พลตรีวิธัย กล่าวว่าหน่วยทหารและฝ่ายปกครองได้ทำอย่างสมบูรณ์แล้ว ช่วงเย็นช่วงค่ำเมื่อวานนี้ สามารถอพยพได้เป็นไปตามเป้าหมาย และข้อกังวลในเรื่องนั้นจะน้อยกว่าคราวที่แล้ว
พลตรีวินธัย กล่าวต่อว่า การยิง BM 21 ในเชิงรุกจะต้องทำลายที่ตั้งยิงเหล่านั้นให้ได้มากที่สุด ส่วนมาตรการเชิงรับจะใช้วิธีการอพยพคน พยายามที่จะทำให้ผลกระทบที่เกิดจากการใช้อาวุธนั้น ไม่เกิดกับความบาดเจ็บและความสูญเสียของประชาชน สำหรับเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมามีการยิง BM 21 ตกในพื้นที่เกษตรกรรม ไม่มีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและสูญเสีย แต่ต้องติดตามเป็นระยะ เนื่องจากมีการใช้อาวุธประเภทจรวดกี่จุดกี่พื้นที่
ส่วนทหารที่เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย ตอนนี้ได้รับรายงานแล้ว อยู่ระหว่างการตรวจสอบพิสูจน์ทราบก่อนเปิดเผยชื่อ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- 'นายกรัฐมนตรี' แถลงการณ์สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ยันไทยไม่ได้เริ่มก่อน
- ‘นายกฯ อนุทิน’ พร้อม ‘ผบ.เหล่าทัพ’ แถลงด่วน! สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา
- ทบ.สั่ง ‘ปฏิบัติการเชิงรุก’ ทำลายระบบยิงสนับสนุนกัมพูชา
ติดตามเราได้ที่