โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ชงครม.ซื้อคืน‘รถไฟฟ้า’ กฤษฎีกาเทเงินออมหวย

ไทยโพสต์

อัพเดต 7 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 11 ชั่วโมงที่ผ่านมา

“พิพัฒน์” เตรียมชง ครม. 9 ธ.ค. เคาะหัวเชื้อซื้อคืนสัมปทานรถไฟฟ้า หวังเชื่อมระบบตั๋วร่วม รับสภาพจบไม่ทันรัฐบาลนี้ คอหวยเศร้า! ปลัดคลังบอกเงินออมคนไม่ถูกรางวัลแห้ว กฤษฎีกาตีความว่าเกินอำนาจ เพราะสำนักงานสลากฯ มีแค่หน้าที่ออกสลาก ไม่ใช่ส่งเสริมการออม!

เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2568 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้มอบให้กระทรวงการคลังเป็นเจ้าภาพหารือกับกรมการขนส่งทางราง (ขร.), การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถึงแหล่งเงิน ในแนวทางการซื้อคืนสัมปทานรถไฟฟ้า ว่าจะใช้วิธีการอย่างไรที่ไม่กระทบกับหนี้สาธารณะ โดยเบื้องต้นจะเสนอขออนุมัติหลักการในการดำเนินการเรื่องนี้จากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันอังคารที่ 9 ธ.ค.2568 ไว้ก่อน เพื่อให้เป็นสารตั้งต้นนับหนึ่งในการดำเนินการเรื่องซื้อคืนสัมปทานรถไฟฟ้าได้ เพราะคาดว่าข้อสรุปจบไม่ทันรัฐบาลชุดนี้

นายพิพัฒน์ยอมรับว่า ยังไม่ได้กำหนดกรอบเวลาว่าต้องได้ข้อสรุปเมื่อใด เพราะต้องศึกษา ซึ่งคงใช้เวลาพอสมควร และต้องเจรจากับเอกชนผู้รับสัมปทานให้จบ มิฉะนั้นตั๋วร่วมก็คงไม่เกิด เบื้องต้นจะให้ รฟม.เป็นผู้บริหารจัดการโครงการรถไฟฟ้าแบบองค์รวม โดยผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะกรรมการจัดการจราจรทางบก (คจร.) แล้ว ซึ่งเมื่อซื้อคืนสัมปทานรถไฟฟ้ามา จะให้อยู่ภายใต้การดูแลของ รฟม. เพื่อให้เกิดเป็นเอกภาพ ให้ระบบตั๋วร่วมสามารถเกิดขึ้นได้

นายพิพัฒน์ยังกล่าวถึงมาตรการค่าโดยสาร 40 บาทตลอดวันว่า ถือเป็นสารตั้งต้นของระบบตั๋วร่วมในอนาคต โดยเปิดทางให้ผู้โดยสารที่ใช้บัตร EMV เช่น บัตรเดบิตหรือเครดิตวีซ่าและมาสเตอร์การ์ด จ่ายค่าโดยสารในอัตรา 42 บาท และระบบจะคืนเงิน 2 บาทภายใน 3 วันทำการ ทำให้ผู้โดยสารจ่ายจริงเพียง 40 บาทสำหรับการเดินทางทั้งวันบนสองเส้นทางนำร่องนี้ หากไม่มีบัตร EMV ผู้โดยสารสามารถซื้อบัตรโดยสารจากสถานีสายสีม่วงซึ่งใช้งานแบบเดียวกับบัตรเดบิตได้

“นโยบายมุ่งลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้เดินทางเป็นประจำ โดยรัฐบาลตั้งเป้าให้เป็นจุดเริ่มต้นของการบูรณาการระบบค่าโดยสารร่วมสำหรับรถไฟฟ้าทุกเส้นทางในกรุงเทพฯ และพื้นที่ต่อเนื่อง” นายพิพัฒน์กล่าว

ขณะที่ นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกฯ และ รมว.การคลัง กล่าวว่า เตรียมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เศรษฐกิจในวันจันทร์ที่ 8 ธ.ค. พิจารณาเกี่ยวกับนโยบายเพื่อส่งเสริมการออมของประชาชน และสร้างความมั่นคงให้กับคนไทย โดยเฉพาะมาตรการในการสนับสนุนการออมรายบุคคล ซึ่งเป็นเครื่องมือการออมที่นำมาหักลดหย่อนภาษีได้ และยังเป็นการสนับสนุนการลงทุนในตลาดหุ้นไทยให้ใหญ่ขึ้นด้วย ส่วนรายละเอียดอยู่ระหว่างการเร่งพิจารณา

นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวถึงความคืบหน้านโยบายส่งเสริมการออมผ่านการซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลแบบ 6 หลัก ในรูปแบบดิจิทัล (L6) ที่มีแนวคิดคืนเงินให้ผู้ไม่ถูกรางวัลเพื่อนำไปเป็นเงินออมว่า ไม่สามารถดำเนินการได้ หลังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่าเป็นการดำเนินงานที่เกินอำนาจหน้าที่ของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล

“กฤษฎีกาตีความแล้วว่าทำไม่ได้ เป็นเรื่องที่เกินอำนาจหน้าที่ของสำนักงานสลากฯ ซึ่งถูกจัดตั้งมาเพื่อดำเนินกิจการสลาก ไม่ใช่ส่งเสริมการออมโดยตรง” นายลวรณกล่าว

ปลัดกระทรวงการคลังยืนยันว่า กระทรวงการคลังยังมีช่องทางหรือโครงการในการส่งเสริมการออมในรูปแบบอื่นๆ ที่เดินหน้าได้ตามปกติ เช่น สลากกองทุนการออมแห่งชาติ (สลาก กอช.) ซึ่งเตรียมเปิดจำหน่ายในเดือน ม.ค.2569 รวมถึงมาตรการส่งเสริมการออมใหม่อีก 4-5 แนวทาง ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาเพื่อนำเสนอ ครม. คาดว่าจะเป็นอีกทางเลือกที่มีประโยชน์ต่อประชาชน.

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...