โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

โลกลุยฉายภาพยนตร์ ฟื้นธุรกิจ เมเจอร์ฯ ลุ้นรัฐคลายล็อกน์ โรงหนังเปิด ส.ค.

กรุงเทพธุรกิจ

อัพเดต 05 ก.ค. 2564 เวลา 21.34 น. • เผยแพร่ 06 ก.ค. 2564 เวลา 00.07 น.

โรงภาพยนตร์” เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ถูกคำสั่งรัฐให้“ปิดบริการ” ชั่วคราวในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลรอบล่าสุดปิดยาวถึง28 ก.ค.นี้และตลอดเวลากว่า1 ปีผู้ประกอบการยังปรับตัวต่อเนื่องไม่เพียงเพื่ออยู่รอดแต่มุ่งสร้างความแข็งแกร่งรอวันตลาดกลับมาสดใสหลังโควิดคลี่คลาย

นรุตม์ เจียรสนอง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาดบริษัทเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์กรุ้ปจำกัด(มหาชน) เบอร์1 ในอุตสาหกรรมโรงภาพยนตร์ฉายภาพธุรกิจปี2564 ยังต้องฝ่าวิกฤติโรคระบาดแต่ยังมองบวกเป็นปีแห่ง โอกาส” เพราะกุญแจสำคัญคือคอนเทนท์“ภาพยนตร์” ที่จ่อคิวเข้าฉายจนถึงสิ้นปีเต็มไปด้วยหนังฟอร์มยักษ์ไม่ว่าจะเป็นแบล็ควิโดว์, เร็ว..แรงทะลุนรก(Fast&Furios9) เจมส์บอนด์(No Time to Die) คนเรียกผี(The Conjuring 3) ร่างทรงฯเฉพาะเดือนสิงหาคมหากโรงหนังกลับมาเปิดให้บริการได้จะมีหนังเข้าฉายราว10 เรื่อง

นอกจากนี้ไล่เรียงจนถึงสิ้นปีคาดว่าจะมีหนังเข้าฉายเฉลี่ยเดือนละ8-10 เรื่องเพื่อดึงคนดูโดยทุกค่ายยืนยันจะไม่มีการเลื่อนฉายแล้วเนื่องจากปัจจุบันตลาดเบอร์1 และเบอร์2 ของโลกทั้งสหรัฐและจีนโรงหนังกลับมาเปิดให้บริการปกติแล้ว

“โรงหนังในสหรัฐจีนกลับมาเปิดให้บริการ100% แสดงว่าหนังทุกเรื่องจากฮอลลีวู้ดจะเดินหน้าเข้าฉายเต็มที่ไม่รอตลาดอื่นแล้ว”

162552082080

ขณะที่ประเทศไทยโรงหนังในกรุงเทพฯและปริมณฑลบางส่วนถูกปิดให้บริการสาขาที่ยังเปิดได้โดยเฉพาะอยู่ใกล้กรุงทพฯเช่นรังสิตสมุทรปราการกลับพบว่าพฤติกรรมผู้บริโภคยอมเดินทางไปดูหนังที่สาขาดังกล่าวมากขึ้น 

ปีนี้ธุรกิจโรงหนังยังไม่ถูกปิด 100% เทียบกับปีก่อน โดยปิดสูงสุดอยู่ที่ 60% สาขาต่างจังหวัด 40% ยังเปิดให้บริการได้  แต่ความท้าทายคือ ไทยยังปิดโรงหนังบางส่วน แต่เบอร์ 1-2 ลุยฉายหนังฟอร์มใหญ่แล้ว อาจทำให้มีการฉายเถื่อนส่งผลกระทบธุรกิจได้ ดังนั้นไทยต้องรีบนำหนังฮอลลีวู้ดเข้าฉายในโรงให้เร็วสุด”  

ปี2564 นอกจากหนังฟอร์มยักษ์จากฮอลลีวู้ดกลยุทธ์ด้านคอนเทนท์ของเมเจอร์ฯได้ระดมหนังเอเชียทั้งจากจีนญี่ปุ่นเกาหลีมาเสิร์ฟคนดูเพราะที่ผ่านมาผู้ผลิตท้องถิ่นทุ่มทุนสร้างหนังเจาะตลาดทำรายได้มหาศาลโดยสิงหาคมมีหนังญี่ปุ่น12 เรื่องเกาหลี6 เรื่องและจีน3-4 เรื่องเสริมทัพเข้าโรง

นอกจากนี้ตลอด1 ปีเมเจอร์ฯยังปรับตัวอีกหลายด้านเพื่อประคองธุรกิจฝ่าห้วงเวลายากลำบากโมเดลที่โดดเด่นคือการจำหน่าย ป๊อปคอร์น” ที่ขยายจากหน้าโรงหนังไปสู่เดลิเวอรี่เสิร์ฟอร่อยถึงบ้านออกสินค้าใหม่เพื่ออยู่บนชั้นวาง(เชลฟ์) ในซูเปอร์มาร์เก็ตทั้งวิลล่ามาร์เก็ตและกูร์เมต์มาร์เก็ตซึ่งได้ผลตอบรับดีจากผู้บริโภค

ล่าสุดเมเจอร์ฯขยายร้านป๊อปคอร์นผ่านโมเดลจุดขายขนาดเล็กในชื่อ “Kiosk POPSTAR” อิงโรงภาพยนตร์ที่ทำรายได้ดี และเลือกทำเลใกล้ซูเปอร์มาร์เก็ตในการเปิดร้านเจาะกลุ่มเป้าหมายปัจจุบันมี2 สาขาที่ศูนย์การค้าสยามพารากอนและเมกาบางนาจนถึงสิ้นปีคาดว่าจะมีร้านไม่ต่ำกว่า10 สาขาลุ้นสร้างยอดขายแตะ200 ล้านบาทซึ่งยังไม่รวมยอดขายป๊อปคอร์นในโรงภาพยนตร์

162552055090

“ป๊อปคอร์นกลายเป็นสินค้าขายดียอดขายมีการเติบโตทุกเดือนขณะเดียวกันตลาดเริ่มมีการแข่งขันสูงขึ้นบนเชลฟ์มีแบรนด์เข้ามาทำตลาดมากขึ้นทั้งของไทยและต่างประเทศร่วม10 แบรนด์”

ครึ่งปีหลังผู้ประกอบการลุ้นรัฐเคาะเปิดให้โรงหนังกลับมาทำธุรกิจได้ตามปกติเมเจอร์ฯจึงเตรียมแคมเปญโปรโมชั่นมากมายเพื่อต้อนรับลูกค้าให้กลับมาชมภาพยนตร์ทั้งมูฟวี่เดย์กลยุทธ์ราคา77 บาท88 บาท99 บาทรวมถึงเอาใจกลุ่มเป้าหมายที่ถือบัตรสมาชิกเอ็มพาสที่มีหลักแสนรายเป็นต้น

นอกจากนี้ยังปัดฝุ่นกลยุทธ์มูฟวี่ออนดีมานด์กระตุ้นยอดขายตั๋วสาขาต่างจังหวัดที่มีจำนวน1-2 โรงโดยเปิดให้ลูกค้าโหวตหนังที่ต้องการชมหากคะแนะโหวตถึง100 พร้อมเปิดฉายทันทีรวมถึงการลุยโปรแกรมชมภาพยนตร์แบบส่วนตัวเลือกภาพยนตร์ราคาจำนวนผู้ชมได้ตามต้องการ

ส่วนแผนการขยายสาขาโรงภาพยนตร์ยังมีต่อเนื่องเช่นที่ชลบุรีกัมพูชาแต่ภาพรวมชะลอการลงทุนให้สอดคล้องสถานการณ์รวมถึงการแตะเบรกลงทุนสร้างหนังด้วยเดิมเมเจอร์ฯจะร่วมกับพันธมิตรผลิตหนังราว20 เรื่องป้อนคนดู

162552057551

หลายประเทศที่มีผู้ติดเชื้อโควิดสูง แต่โรงหนังกลับมาเปิดให้บริการ เช่น อังกฤษ สะท้อนภาพนิว นอร์มัล ผู้บริโภคอยู่กับโรคระบาดได้ ส่วนธุรกิจโรงหนังในไทยจะอยู่ในทิศทางไหน ขึ้นกับนโยบายภาครัฐให้โรงหนังเปิดบริการเมื่อใด ปีนี้หากโรงหนังเปิดได้ จะมีคอนเทนท์หนังจำนวนมากเข้าฉาย ต่างจากปีก่อนไม่มีคอนเทนท์เลย 

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...