โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ต่างประเทศ

ไร้ปาฎิหาริย์เรือดำน้ำ "ไททัน" ดำดิ่งใต้มหาสมุทรแอตแลนติก จบ 5 ชีวิต

THE ROOM 44 CHANNEL

เผยแพร่ 23 มิ.ย. 2566 เวลา 06.32 น.

ไร้ปาฎิหาริย์เรือดำน้ำ "ไททัน" ดำดิ่งใต้มหาสมุทรแอตแลนติก จบ 5 ชีวิต

กรณีการสูญหายไปอย่างเป็นปริศนาของ “เรือดำน้ำไททัน” ซึ่งเป็นเรือดำน้ำพาชม ซากเรือไททานิก ที่หลับใหลอยู่ใต้มหาสมุทรแอตแลนติก ถือเป็นประเด็นที่ทั่วโลกต่างกำลังจับตาอย่างใกล้ชิดด้วยความเอาใจช่วย และขอให้มีปาฏิหาริย์ทุกคนรอดชีวิต

รายชื่อผู้สูญหายทั้ง 5 รายไปพร้อมกับเรือดำน้ำไททัน

-นายฮามิช ฮาร์ดิง (Hamish Harding) นักผจญภัยชาวอังกฤษวัย 58 ปีที่เคยมีประสบการณ์เดินทางไปอวกาศและขั้วโลกใต้หลายครั้ง

-นายชาซาดา ดาวูด (Shahzada Dawood) นักธุรกิจชาวอังกฤษวัย 48 ปี ซึ่งเป็นสมาชิกของหนึ่งในตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดของปากีสถานและเป็นผู้สนับสนุนมูลนิธิ 2 แห่งที่ก่อตั้งโดยสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 แห่งราชวงศ์อังกฤษ

-นายซูเลมาน ดาวูด (Suleman Dawood) บุตรชายวัย 19 ปีของนายชาซาดา ดาวูด

-นายพอล อองรี นาร์โฌเลต์ (Paul-Henry Nargeolet) อดีตนักดำน้ำกองทัพเรือฝรั่งเศสวัย 77 ปี ซึ่งเป็นผู้ที่มีประสบการณ์สำรวจซากเรือไททานิกมากกว่านักสำรวจคนอื่น ๆ และเป็นหนึ่งในคณะสำรวจซากเรือไททานิกกลุ่มแรกในปี 2530

-นายสต็อกตัน รัช (Stockton Rush) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารโอเชียนเกตวัย 61 ปี โดยโอเชียนเกตเป็นผู้ทำทริปเที่ยวชมซากเรือไททานิก

วันที่ 17 มิถุนายน 2566

Hamish Harding นักบินและนักสำรวจ ได้โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ระบุว่า… กำลังเข้าร่วมปฏิบัติการสำรวจ ซากเรือไททานิค Mission V กับทางบริษัท โอเชียนเกต เอ็กซ์พิดิชันส์ (OceanGate Expeditions) โดยจะเริ่มออกเดินทางในช่วงเช้าวันพรุ่งนี้

วันที่ 18 มิถุนายน 2566

เรือดำน้ำไททัน (Titan) เริ่มเดินทางสู่ทะเลไปยังซากเรือไททานิคตั้งแต่ช่วงเช้า ก่อนขาดการติดต่อกับเรือโพลาร์ ปรินซ์ (Polar Prince) ในเวลา 1 ชั่วโมง 45 นาที โดยเร็วกว่ากำหนดการเดินทางสู่จุดหมาย 2 ชั่วโมง โดยเรือโพลาร์ ปรินซ์เป็นเรือแม่ที่ขนส่งไททันไปยังจุดเริ่มต้นการเดินทาง เจ้าหน้าที่เริ่มต้นออกปฏิบัติการค้นหาในวันเดียวกัน

วันที่ 19 มิถุนายน 2566

บริษัท โอเชียนเกต เอ็กซ์พิดิชันส์ ได้แถลงการสูญหายของเรือดำน้ำไททัน พร้อมผู้โดยสารและกัปตันรวม 5 คน

วันที่ 20 มิถุนายน 2566

ต่อมาได้มีการเปิดรายชื่อลูกเรือสูญหายพร้อมเรือดำน้ำไททันเพิ่มอีก 4 ราย คือ ชาซาดา ดาวูด , ซูเลมาน ดาวูด , ปอล อองรี นาร์โฌเลต์ และ สต็อกตัน รัช โดยทีมงานจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือของหน่วยยามฝั่งสหรัฐฯ ซึ่งประจำอยู่ที่บอสตัน ได้เริ่มภารกิจค้นหาอย่างเร่งด่วนและต่อเนื่อง

วันที่ 21 มิถุนายน 2566

-หน่วยยามฝั่งสหรัฐฯ โพสต์ข้อความลงทวิตเตอร์โดยระบุว่า…เครื่องบินของแคนาดา ตรวจพบสัญญาณเสียงรบกวนใต้น้ำในทางตอนเหนือของมหาสมุทรแอตแลนติก ในระหว่างค้นหายานดำน้ำที่พานักท่องเที่ยวไปชมซากของเรือไททานิค แต่ได้สูญหายไปในระหว่างการเดินทาง โดยทีมค้นหาได้กำหนดตำแหน่งใหม่สำหรับปฏิบัติการค้นหาของหุ่นยนต์ใต้น้ำ เพื่อพยายามเสาะหาต้นกำเนิดของเสียง

วันที่ 22 มิถุนายน 2566

การค้นหาเรือดำน้ำและผู้สูญหาย เต็มไปด้วยความกดดันและท้าทาย เพราะยิ่งเวลาผ่านไปหลายวัน ปริมาณออกซิเจนในเรือก็เหลือน้อยลงไปทุกที หากอ้างอิงตามทฤษฎี ออกซิเจนในเรือดำน้ำไททัน ที่ลงไปชมซากเรือไททานิค ได้หมดลงแล้ว เมื่อเวลา 17:00 น.ของวันที่ 22 มิ.ย.66 ตามเวลาประเทศไทย

-ผู้เชี่ยวชาญทางทะเล รวมถึง เดวิด มาร์เกต์ อดีตกัปตันเรือดำน้ำนิวเคลียร์ของกองทัพเรือสหรัฐฯ คาดการณ์ไปในทิศทางเดียวกันว่า หากเรือดำน้ำ “ไททัน” ติดอยู่กับซากเรือไททานิก ตามที่หลายฝ่ายสันนิษฐาน โอกาสที่จะพบคนบนเรือรอดชีวิต มีเพียง 1% เท่านั้น

- อัปเดตล่าสุด ยานสำรวจใต้น้ำระยะไกล (ROV) ที่ได้ส่งลงไปค้นหาเรือดำน้ำไททัน ได้ตรวจพบชิ้นส่วนบริเวณใต้ซากเรือไททานิค แต่อย่างไรก็ดียังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดว่า เศษชิ้นส่วนดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องกับเรือดำน้ำไททันหรือไม่

วันที่ 23 มิถุนายน 2566

ประสบกับความผิดหวังไร้ปาฎิหาริย์เพราะนอกจากหมดเวลาของออกซิเจนภายในเรือดำน้ำแล้ว ยังพบเศษชิ้นส่วนต้องสงสัยเต็มท้องทะเลจากแรงระเบิดอย่างฉับพลันที่ทำให้ผู้โดยสารและกัปตัน ทั้งหมดเสียชีวิตจึงต้องสิ้นสุดการค้นหาด้วยความช่วยเหลือจากนานาชาติตลอด 5 วันที่ผ่านมา

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...