โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สุขภาพ

สปสช. เปิดฟังความเห็นจ่ายค่าจ้างดูแลคนพึ่งพิงสูงสุด 6 พันบาท/เดือน

ฐานเศรษฐกิจ

อัพเดต 09 ก.ค. เวลา 00.31 น. • เผยแพร่ 09 ก.ค. เวลา 07.30 น.

สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สปสช. เปิดรับฟังความเห็น ร่างประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง การจ่ายค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขสำหรับผู้ที่มีภาวะพึ่งพิง ตามนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล พ.ศ. …. ผ่านทางเว็บไซต์ ระบบกลางทางกฎหมาย ระหว่างวันที่ 8-22 กรกฎาคม 2568 เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่ได้รับผลกระทบ อาทิ กลุ่มผู้รับบริการและประชาชน, กลุ่มผู้ให้บริการ คือ หน่วยบริการ , กลุ่มผู้ซื้อบริการ คือ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และกลุ่มผู้ควบคุมกำกับ คือ กระทรวงสาธารณสุข และรัฐบาล

ในร่างประกาศฉบับนี้ ระบุถึงความเป็นมา สภาพของปัญหาและกำหนดเป้าหมายไว้อย่างชัดเจนว่า กระทรวงสาธารณสุข กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ให้ความสำคัญกับ"กลุ่มคนเปราะบาง" จึงได้ส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพและจัดสวัสดิการสังคมให้สอดคล้องกับบริบทของสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป ประกอบกับปัจจุบันมีจำนวนผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงในชุมชนเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ควรจัดสรรค่าบริการสาธารณสุขสำหรับผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงในชุมชนให้เพียงพอกับจำนวนผู้มีภาวะพึ่งพิงที่มีจำนวนมากขึ้น

จึงได้ดำเนินการเสนอ "โครงการค่าบริการสาธารณสุขสำหรับผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงในชุมชนต่อรัฐบาล" ตาม โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจตามแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ซึ่งต่อมาคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2568 เห็นชอบข้อเสนอ"โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจตามแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ" ที่ผ่านการพิจารณาของ คณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ จำนวน 50 หน่วยรับ และอนุมัติให้หน่วยรับงบประมาณดังกล่าวเป็นหน่วยงานดำเนินโครงการดังกล่าวต่อไปเพื่อให้การดำเนินการตามมติ ครม.เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จึงได้ดำเนินการกำหนดหลักเกณฑ์ และวิธีการในการจ่ายค่าบริการสาธารณสุขสำหรับ "ผู้มีภาวะพึ่งพิง" ตามนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลให้กับ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) โดยการจ่ายเป็นค่าจ้างผู้ช่วยเหลือดูแลผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงในชุมชนในพื้นที่ทั่วประเทศ โดยส่งเสริมกระบวนการมีส่วนร่วมตามความพร้อม ความเหมาะสม และความต้องการของประชาชนในท้องถิ่นตามเจตนารมณ์ของมาตรา 47 แห่งพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545

ประเด็นสำคัญของร่างกฎหมาย หรือ กฎหมายที่นำมารับฟังความคิดเห็นครั้งนี้ มีรายละเอียดที่น่าสนใจหลายประการ ดังเช่น

การกำหนดนิยามของคำว่า "ผู้ที่มีภาวะพึ่งพิง" และ "ผู้ช่วยเหลือดูแลผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงในชุมชน (Caregiver)" เอาไว้อย่างชัดเจน

นอกจากนี้เพื่อให้บรรลุเป้าหมายทำให้เกิดการจ้างงานและกระตุ้นเศรษฐกิจในปีงบประมาณนี้ ตามวัตถุประสงค์ของโครงการฯ ได้กำหนดหลักเกณฑ์การจ้างผู้ช่วยเหลือดูแลผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงในชุมชน หมวด 1 ข้อ 8 ระบุว่า

ผู้ช่วยเหลือดูแลผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงที่มีสิทธิรับค่าจ้างตามหมวดนี้ จะต้องไม่เป็น "ข้าราชการ" หรือ "พนักงานส่วนท้องถิ่น" ซึ่งมีตําแหน่งหรือเงินเดือนประจํา ผู้ปฏิบัติงานให้หน่วยงานของรัฐ หรือในรัฐวิสาหกิจ ผู้บริหารท้องถิ่น สมาชิกสภาท้องถิ่น ลูกจ้างของส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจ หรือบุคคล ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายโดยได้รับ"ค่าตอบแทน" หรือ "ค่าป่วยการ" เป็นการประจําเพื่อเป็นการดําเนินการตามนโยบายของรัฐบาลในการจ้างงาน

ให้ "ผู้ช่วยเหลือดูแลผู้ที่มีภาวะพึ่งพิง" ตามวรรคหนึ่งจะต้องไม่เป็นผู้ช่วยเหลือดูแลผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงที่ได้ทําสัญญากับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก่อนวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2568 ซึ่งเป็นวันที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ให้ความเห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจตามแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

และกำหนดไว้ในบทเฉพาะกาล ข้อ 16 ว่า การจ่ายค่าจ้างสําหรับผู้ช่วยเหลือดูแลผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงในชุมชนให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ได้จ่ายไปตั้งแต่วันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 (วันที่ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตามข้อ 2) จนถึงวันก่อนวันที่ประกาศนี้มีผลใช้บังคับ ให้ถือเป็นการจ่ายค่าจ้างตามประกาศนี้และให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีสิทธิได้รับค่าจ้างสําหรับผู้ช่วยเหลือดูแลผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงในชุมชนตามประกาศนี้

สำหรับร่างประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง การจ่ายค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขสำหรับผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงตามนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล พ.ศ. …. มีรายละเอียด ดังต่อนี้

ข้อ 1 ประกาศนี้เรียกว่า "ประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง การจ่าย ค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขสําหรับผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงตามนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล พ.ศ. ….

ข้อ 2 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 จนถึงวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2569

ข้อ 3 ในประกาศนี้

"สํานักงาน" หมายความว่า สํานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ทั้งนี้ ไม่หมายความรวมถึง สํานักงานสาขา

"ผู้ที่มีภาวะพึ่งพิง" หมายความว่า บุคคลที่ได้รับการประเมินว่ามีภาวะพึ่งพิงตามประกาศ สํานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเกี่ยวกับการจ่ายค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขสําหรับผู้มีภาวะพึ่งพิงในชุมชน

"ผู้ช่วยเหลือดูแลผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงในชุมชน (Caregiver)" หมายความว่า บุคคลทั่วไป ผู้สูงอายุ คนพิการที่ได้จดทะเบียน ผู้ที่สําเร็จการศึกษาจากหลักสูตรการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยที่ผ่านการอบรมตามหลักสูตรของกรมอนามัยหรือหลักสูตรผู้ช่วยเหลือดูแลผู้มีภาวะพึ่งพิงหรือหลักสูตรอื่นที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง

"องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น" หมายความว่า องค์การบริหารส่วนตําบลตามกฎหมายว่าด้วย สภาตําบลและองค์การบริหารส่วนตําบล เทศบาลตามกฎหมายว่าด้วยเทศบาล หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รูปแบบอื่นที่มีกฎหมายจัดตั้ง รวมถึงกรุงเทพมหานครและเมืองพัทยาที่ได้รับการสนับสนุนให้ดําเนินงานและบริหารจัดการระบบหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่

ข้อ 4 ให้เลขาธิการสํานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติรักษาการตามประกาศนี้

หมวด 1 หลักเกณฑ์การจ้างผู้ช่วยเหลือดูแลผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงในชุมชน

ข้อ 5 การจ่ายค่าบริการสาธารณสุขสําหรับผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงตามนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล เป็นการจัดสรรค่าบริการสาธารณสุขให้กับกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติในระดับท้องถิ่น หรือพื้นที่ เพื่อเป็นค่าบริการสาธารณสุขสําหรับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการดําเนินงานและบริหารจัดการระบบหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ในส่วนของค่าจ้างสําหรับผู้ช่วยเหลือดูแลผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงในชุมชน

ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ประสงค์จะรับค่าจ้างสําหรับผู้ช่วยเหลือดูแลผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงในชุมชนจัดแจ้งความประสงค์มาที่สํานักงาน ทั้งนี้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไม่ต้องสมทบเงินเพื่อเป็นค่าจ้างสําหรับผู้ช่วยเหลือดูแลผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงในชุมชนตามหมวดนี้

ข้อ 6 เพื่อสร้างหลักประกันสุขภาพแห่งชาติให้กับบุคคลในพื้นที่โดยส่งเสริมกระบวนการมีส่วนร่วมตามความพร้อม ความเหมาะสม และความต้องการของประชาชนในท้องถิ่น ให้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระดับท้องถิ่น หรือพื้นที่ดําเนินการจ้าง "ผู้ช่วยเหลือผู้ดูแลผู้ที่มีภาวะพึ่งพิง" เพื่อให้การดูแล "ผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงในชุมชน"

โดยหลักเกณฑ์และแนวทางในการจ้างผู้ช่วยเหลือดูแลผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงในชุมชนให้เทียบเคียงกับระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยอาสาสมัครบริบาลท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและการเบิกค่าใช้จ่าย และประกาศคณะกรรมการการกระจายอํานาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเกี่ยวกับการกําหนดกิจการที่เป็นผลประโยชน์ของประชาชนในท้องถิ่นให้เป็นอํานาจและหน้าที่ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ด้านการดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง โดยที่ไม่ขัดหรือแย้งกับประกาศนี้

ข้อ 7 กิจกรรม รูปแบบการให้บริการ กลุ่มเป้าหมายในการให้บริการดูแลผู้ที่มีภาวะพึ่งพิง ในชุมชนขึ้นอยู่กับสภาพปัญหาของผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงแต่ละรายโดยให้เป็นไปตามแนวทางการดูแลผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงของกระทรวงสาธารณสุข หรือหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องกําหนด

ข้อ 8 ผู้ช่วยเหลือดูแลผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงที่มีสิทธิรับค่าจ้างตามหมวดนี้ จะต้องไม่เป็น "ข้าราชการ" หรือ "พนักงานส่วนท้องถิ่น" ซึ่งมีตําแหน่งหรือเงินเดือนประจํา ผู้ปฏิบัติงานให้หน่วยงานของรัฐ หรือในรัฐวิสาหกิจ ผู้บริหารท้องถิ่น สมาชิกสภาท้องถิ่น ลูกจ้างของส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจ หรือบุคคล ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายโดยได้รับค่าตอบแทนหรือค่าป่วยการเป็นการประจําเพื่อเป็นการดําเนินการตามนโยบายของรัฐบาลในการจ้างงานให้ผู้ช่วยเหลือดูแลผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงตามวรรคหนึ่งจะต้องไม่เป็นผู้ช่วยเหลือดูแลผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงที่ได้ทําสัญญากับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก่อนวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2568 ซึ่งเป็นวันที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ตามแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

ข้อ 9 เงินค่าจ้างให้จ่ายภายใต้เงื่อนไข ดังต่อไปนี้

(1) จ่ายไม่เกิน 5,000 บาทต่อเดือน รวมไม่เกิน 50,000 บาทต่อหนึ่งปีงบประมาณ ให้แก่ผู้ช่วยเหลือดูแลผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงที่ผ่านการอบรม 70 ชั่วโมง

(2) จ่ายไม่เกิน 6,000 บาทต่อเดือน รวมไม่เกิน 72,000 บาทต่อหนึ่งปีงบประมาณ ให้แก่ผู้ช่วยเหลือดูแลผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงที่ผ่านการอบรม 70 ชั่วโมงขึ้นไป

การจ่ายเงินตามวรรคหนึ่งสํานักงานจะจ่ายให้ผู้ดูแลผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงทุกเดือน ทั้งนี้ ให้สํานักงานกําหนดหลักเกณฑ์ วิธีการจ่ายเงินตามวรรคหนึ่งและสอง เพื่อแจ้งเวียนไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก็ได้

ข้อ 10 ให้ทําสัญญาจ้างผู้ช่วยเหลือดูแลผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงในชุมชนให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2568

หมวด 2 วิธีการเรียกเก็บค่าบริการสาธารณสุข

ข้อ 11 การให้บริการตามประกาศนี้ ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ได้จ้างผู้ช่วยเหลือดูแลผู้มีภาวะพึ่งพิงบันทึกข้อมูลของผู้รับจ้างในระบบ https://itcnew.nhso.go.th/ หรือผ่านระบบโปรแกรมอื่น ตามที่สํานักงานกําหนด

ข้อ 12 เมื่อมีการส่งข้อมูลการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายตามตามประกาศนี้แล้ว ให้ถือว่า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ส่งข้อมูลรับรองว่า ได้มีการจ้างตามหลักเกณฑ์ที่กําหนด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดังกล่าวต้องจัดเตรียมเอกสารหรือข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการนั้นไว้เพื่อการตรวจสอบของสํานักงาน

หมวด 3 เงื่อนไขการจ้างผู้ช่วยเหลือดูแลผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงในชุมชน

ข้อ 13 หากพบความผิดปกติอื่นใดของข้อมูลผลงานหรือการเบิกจ่ายของกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่นั้น ๆ สํานักงานจะตรวจสอบเอกสารหลักฐานการจ้างตามประกาศนี้

ข้อ 14 สํานักงานจะพิจารณาปฏิเสธการจ่ายค่าใช้จ่ายตามประกาศนี้ในกรณีอย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้

(1) คุณสมบัติของผู้ช่วยเหลือดูแลผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงในชุมชนไม่เป็นไปตามประกาศนี้ หรือไม่เป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ตามประกาศนี้

(2) การให้บริการไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์มาตรฐานในการดูแลผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงในชุมชน

(3) ไม่พบแผนการดูแลรายบุคคลที่ผู้ช่วยเหลือดูแลผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงในชุมชนจัดทําขึ้น

(4) ไม่พบหลักฐานการให้บริการดูแลด้านสาธารณสุขตามแผนการดูแลรายบุคคล

(5) ไม่พบการบันทึกข้อมูลตามข้อ 11

ข้อ 15 ในกรณีที่มีเหตุอันสมควรสงสัยก่อนการจ่ายค่าจ้างว่าเป็นการจ่ายที่อาจไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กําหนดในประกาศนี้ หรือในกรณีที่สํานักงานตรวจพบความผิดปกติหลังการจ่ายค่าจ้าง ตามประกาศนี้ สํานักงานอาจเรียกข้อมูลหรือเอกสารที่แสดงว่า ได้มีการจ้างจริงหรือมีการให้บริการจริง มาประกอบการตรวจสอบและดําเนินการตามระเบียบคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเกี่ยวกับวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการตรวจสอบเอกสารหลักฐานการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุข และดําเนินการ กรณีตรวจสอบพบความไม่ถูกต้องในการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุข

บทเฉพาะกาล

ข้อ 16 การจ่ายค่าจ้างสําหรับผู้ช่วยเหลือดูแลผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงในชุมชนให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ได้จ่ายไปตั้งแต่วันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 จนถึงวันก่อนวันที่ประกาศนี้มีผลใช้บังคับ ให้ถือเป็นการจ่ายค่าจ้างตามประกาศนี้ และให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีสิทธิได้รับค่าจ้างสําหรับผู้ช่วยเหลือดูแลผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงในชุมชนตามประกาศนี้

ช่องทางร่วมแสดงความคิดเห็น ระบบกลางทางกฎหมาย

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...