โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

นักวิชาการ ชี้ รัฐบาลไม่มีเสถียรภาพแน่ หลังไร้ภูมิใจไทย

The Better

อัพเดต 18 มิ.ย. เวลา 07.50 น. • เผยแพร่ 18 มิ.ย. เวลา 07.49 น. • THE BETTER
นักวิชาการ ชี้ รัฐบาลไม่มีเสถียรภาพแน่ หลังไร้ภูมิใจไทย เกมต่อรองใหม่ พร้อมระเบิดศึก ลุ้นหนักถึงขั้น “พังกลางทาง”

รศ.ดร.โอฬาร ถิ่นบางเตียว อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา วิเคราะห์ถึงสถานการณ์ การเมือง ณ ขณะนี้ ที่พรรคภูมิใจไทย จะถูกปรับเป็นฝ่ายค้าน ว่า

พรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นแกนนำรัฐบาล ต้องเผชิญกับความเป็นจริงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ นั่นคือ การเปลี่ยนสถานะจาก “รัฐบาลเสียงข้างมากที่มั่นคง” สู่การเป็น “รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ” จากนี้ไป เสียงในสภาผู้แทนราษฎรของฝั่งรัฐบาลกับฝ่ายค้านในขณะนี้ มีจำนวนที่ใกล้เคียงกันอย่างน่าตกใจ ความแตกต่างของจำนวน ส.ส. อาจเหลือเพียงหลักหน่วย หรืออาจไม่มีความได้เปรียบเลยหากมีการงดออกเสียง หรือขาดประชุมของสมาชิกบางคน นั่นหมายความว่า ทุกการขับเคลื่อนนโยบาย หรือการผลักดันกฎหมายสำคัญ ๆ จะไม่สามารถดำเนินไปได้อย่างราบรื่นอีกต่อไป

ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายงบประมาณ กฎหมายเกี่ยวกับการจัดเก็บภาษี หรือแม้แต่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการปฏิรูปประเทศ กฎหมายกาสิโน ล้วนต้องใช้เสียงสนับสนุนจากสภาในระดับที่มีความชัดเจนและมั่นคง ซึ่งรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำย่อมขาดความสามารถในการควบคุมเสียงเหล่านี้ได้แบบเบ็ดเสร็จอย่างที่เคยเป็นมา

ในสภาพเช่นนี้ พรรคเพื่อไทยจะต้องประเมิน ควบคุม และบริหารจัดการ “เสียง” ในสภาอย่างระมัดระวังมากยิ่งขึ้น การประชุมสภาแต่ละครั้งจะกลายเป็นเกมที่ต้องวางหมากเดินอย่างแม่นยำ ต้องมีการเช็คชื่อ เช็คคิว เช็ครายงานตัวของ ส.ส. แทบทุกนาที เพราะแม้แต่การขาดประชุมเพียงหนึ่งเสียง ก็อาจทำให้ร่างกฎหมายสำคัญต้องตกอย่างน่าเสียดาย

ที่สำคัญไปกว่านั้น คือ “พรรคร่วมรัฐบาล” จะกลายเป็นผู้เล่นที่ทรงอำนาจมากขึ้นอย่างชัดเจน เมื่อพรรคเพื่อไทยไม่มีความได้เปรียบด้านเสียงเด็ดขาดอีกต่อไป การดำรงอยู่ของพรรคร่วมรัฐบาลแต่ละพรรค จะกลายเป็นตัวแปรที่สามารถต่อรอง เรียกร้อง และ “ต่อราคา” ได้มากกว่าที่เคย ไม่ว่าจะเป็นการต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรี การขอจัดสรรงบประมาณในพื้นที่ หรือแม้กระทั่งการขอผลักดันนโยบายเฉพาะพรรคเข้าสู่การพิจารณาของรัฐบาล

ภายใต้สถานการณ์นี้ พรรคเพื่อไทยจะต้องเดินเกมการเมืองอย่างระมัดระวังทุกก้าว ทุกการเจรจา ทุกการจัดสรรผลประโยชน์ ล้วนต้องแลกกับเสียงในสภา ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดวิกฤติศรัทธาทางการเมือง และเพื่อให้รัฐบาลยังสามารถบริหารประเทศได้ต่อไป แต่หากขยับเกมพลาดแม้เพียงนิดเดียว รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำนี้ พังกลางทางแน่นอน เพราะมีปัจจัยลบเยอะมาก โดยเฉพาะปัจจัยเรื่องเสถียรภาพรัฐบาล

อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่เพียงแค่ปัญหาภายในรัฐบาลเท่านั้น เพราะการเป็นรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำย่อมเปิดโอกาสให้ฝ่ายค้านใช้จังหวะนี้ขยายพื้นที่ทางการเมือง สร้างความกดดัน และยกระดับการตรวจสอบอย่างเต็มที่ ในบางกรณีอาจถึงขั้นยื่นญัตติไม่ไว้วางใจ ซึ่งอาจนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในโครงสร้างอำนาจ สุดท้าย ความไม่แน่นอนนี้ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของทั้งประชาชนและนักลงทุน เพราะรัฐบาลที่ไม่มีเสถียรภาพทางเสียงในสภา ก็อาจไม่มีเสถียรภาพในการขับเคลื่อนประเทศได้อย่างมั่นคง แล้วคนที่ทนทุกข์ ก็คือประชาชนนี่เอง

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...