สพฐ. ยกระดับคุณภาพห้องเรียนการศึกษาทางไกลแบบสื่อสารสองทาง เฟส 3

เมื่อวันที่ 15 ก.ค.ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) มอบหมายให้ นางเกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการ กพฐ. เป็นประธานเปิดการประชุมชี้แจงแนวทางการดำเนินงานโครงการการศึกษาทางไกลแบบสื่อสารสองทาง (IDL : Interactive Distance Learning) สำหรับระดับมัธยมศึกษาตอนต้น โดยมีผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา 18 เขต ผู้บริหารสถานศึกษา ศึกษานิเทศก์ และตัวแทนโรงเรียนที่ร่วมโครงการ 20 โรงเรียน เข้าร่วม ณ โรงแรมปริ๊นซ์ตัน พาร์ค สวีท กรุงเทพมหานคร
.
โครงการการศึกษาทางไกลแบบสื่อสารสองทาง (IDL) เป็นความร่วมมือระหว่างมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ในพระบรมราชูปถัมภ์ และ สพฐ. เริ่มต้นดำเนินงานตั้งแต่ปี 2562 โดยใช้เทคโนโลยีสื่อสารแบบสองทางในลักษณะห้องเรียนเสมือนจริง เปิดโอกาสให้นักเรียนในพื้นที่ห่างไกลสามารถเรียนรู้ร่วมกับครูและเพื่อนในเวลาเดียวกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับการประชุมครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกันเกี่ยวกับการดำเนินโครงการในระยะที่ 3 พร้อมทั้งร่วมวางแผนการดำเนินงานระหว่างโรงเรียนต้นทางและปลายทาง รวมถึงแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ถอดบทเรียน และหารือแนวทางการพัฒนาโครงการในอนาคต โดยมี ดร.วิภา ตัณฑุลพงษ์ รองหัวหน้าสำนักงานมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมคณะทำงาน ศพก. สพฐ. ร่วมเป็นวิทยากรในครั้งนี้
.
นางเกศทิพย์ ศุภวานิช กล่าวว่า การยกระดับการศึกษาเพื่อนักเรียนในพื้นที่ห่างไกล เป็นอีกหนึ่งนโยบายสำคัญของผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ นำโดย ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ผศ.ดร.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และนายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่สานต่อจากอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ) และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล) เพื่อให้นักเรียนในพื้นที่ห่างไกลได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างเท่าเทียมและทั่วถึง สพฐ. โดยการนำของ ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการ กพฐ. จึงได้ขับเคลื่อนนโยบายลงสู่ห้องเรียนอย่างทั่วถึงในทุกพื้นที่และเห็นผลการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง
.
ทั้งนี้ การดำเนินงานระยะที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการเชิงบวกทั้งในด้านโรงเรียน ครู และนักเรียน โดยมีการจัดระบบ “โรงเรียนเครือข่าย“ เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และสร้างเครือข่ายการเรียนรู้ร่วมกัน ส่งผลให้นักเรียนในโรงเรียนขนาดเล็กได้รับโอกาสทางการศึกษาอย่างเท่าเทียม ส่วนในระยะที่ 3 มุ่งเน้นการทำงานแบบเครือข่ายในระดับพื้นที่ โดยเฉพาะการจัดทีม Teaching ระหว่างโรงเรียนต้นทางและปลายทาง เพื่อให้แน่ใจว่านักเรียนได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดและมีคุณภาพชีวิตที่ดีในระบบการเรียนทางไกล
.
โดยมีโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการใน 5 ภูมิภาค ดังนี้
ภาคกลาง โรงเรียนพรหมานุสรณ์ จังหวัดเพชรบุรี สพม.เพชรบุรี โรงเรียนอนุบาลวัดบางนางบุญ สพป.ปทุมธานี เขต 1 โรงเรียนบ้านหนองปืนแตก สพป.เพชรบุรี เขต 2
โรงเรียนทีปังกรวิทยาพัฒน์(วัดสุนทรสถิต) ในพระบรมราชูปถัมภ์ สพป.สมุทรสาคร
ภาคเหนือ โรงเรียนดำรงราษฎร์สงเคราะห์ สพม.เชียงราย
โรงเรียนอมก๋อยวิทยาคม สพม.เชียงใหม่ โรงเรียนบ้านแซววิทยาคม สพม.เชียงราย โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๑๕ (เวียงเก่าแสนภูวิทยาประสาท) สพป.เชียงราย เขต 3
ภาคเหนือตอนล่าง โรงเรียนตากพิทยาคม สพม.ตากโรงเรียนบ้านแม่สลิดหลวงวิทยา สพป.ตาก เขต 2 โรงเรียนบ้านหนองแดน สพป.กำแพงเพชร เขต 1 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๒๓ จังหวัดพิษณุโลก สศศ.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โรงเรียนมุกดาหาร สพม.มุกดาหาร
โรงเรียนวัดฤาษีสถิต สพป.บุรีรัมย์ เขต 4 โรงเรียนบ้านกกตูม สพป.มุกดาหาร โรงเรียนมัธยมพัชรกิติยาภา ๑ นครพนม สพม.นครพนม
ภาคใต้ โรงเรียนสุราษฎร์ธานี สพม.สุราษฎร์ธานี ชุมพร
โรงเรียนมัธยมพัชรกิติยาภา ๓ สุราษฎร์ธานี สพม.สุราษฎร์ธานี ชุมพร โรงเรียนบ้านป่าโอน สพป.สงขลา เขต 3 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓ สพป.ชุมพร เขต 2
.
พร้อมกันนี้ ขอฝากให้ ศพก. ถอดบทเรียนความสำเร็จจากโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการ วิเคราะห์ปัจจัยแห่งความสำเร็จ พร้อมรวบรวมปัญหาและข้อเสนอแนะ เพื่อนำไปต่อยอดและพัฒนาโครงการให้ดียิ่งขึ้น พร้อมทั้งศึกษาการเปลี่ยนแปลงของนักเรียนที่ร่วมโครงการตั้งแต่ระยะที่ 1 ทั้งในด้านทักษะ ความมั่นใจ และความต้องการในการเรียนรู้ เพื่อกำหนดแนวทางการพัฒนาที่ตอบโจทย์ผู้เรียนอย่างแท้จริง
.
"โครงการนี้เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่เกิดจากพระเมตตาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และรัชกาลที่ 10 รวมถึงสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ที่ทรงพระกรุณารับโครงการไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์ สร้างโอกาสทางการศึกษาอย่างเสมอภาคให้กับนักเรียนไทยทั่วประเทศ" รองเลขาธิการ กพฐ. กล่าว