โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

“ประเสริฐ” ชัด ไม่หนุน NT ประมูลคลื่น ชี้ขาดทุนปีละ 4 พันล.

PostToday

อัพเดต 03 มิ.ย. เวลา 22.59 น. • เผยแพร่ 04 มิ.ย. เวลา 06.00 น.

จากกรณีที่ สภาองค์กรของผู้บริโภค ได้ยื่นคำร้องต่อศาลปกครอง ขอให้สั่ง “ชะลอ” การประมูลคลื่นความถี่ 4 ย่าน ได้แก่ 850 MHz 1500 MHz 2100 MHz และ 2300 MHz ที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในวันที่ 29 มิ.ย.นี้ โดยมีประเด็นสำคัญคือ ต้องการให้ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT ได้คลื่นความถี่ด้วย เพื่อให้ประชาชนมีทางเลือก ผู้ให้บริการไม่ถูกผูกขาดเพียง 2 รายนั้น โดยเสนอให้มีการเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อให้ NT ประมูลคลื่นความถี่ หรือ ให้จัดสรรเพื่อประโยชน์สาธารณะโดยวิธีการคัดเลือกนั้น

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวว่า ที่ผ่านมา NT ให้บริการมือถือกับประชาชนด้วยการแข่งกับเอกชนและพบว่าขาดทุนปีละ 4,000 ล้านบาท ดังนั้นเรื่องนี้จึงไม่เห็นด้วยที่ NT จะเข้าร่วมประมูล หรือ มีคลื่นความถี่ในการให้บริการแข่งกับประชาชน เพราะทำไปก็ขาดทุน ส่วนคลื่นที่เหลืออยู่คือ คลื่น 700 MHz ก็ยังไม่ถูกนำมาบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อไม่มีการนำเสนอเข้าครม.ก็ขอให้เข้าใจว่า NT ไม่ประมูล

ดังนั้นทางแก้ไขที่ดีที่สุดของ NT ตอนนี้ คือการหาพันธมิตรทางธุรกิจ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือและยังไม่ได้ตัดสินใจเลือกใคร จากที่เคยมีกระแสข่าวว่า บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส ยื่นข้อเสนอมา ขณะนี้จึงยังไม่สามารถให้คำตอบได้ เนื่องจาก NT อยู่ระหว่างการจัดทำแผนธุรกิจใหม่ และยังไม่มีไทม์ไลน์ที่ชัดเจนว่าจะเสนอเข้าสู่บอร์ดบริหารเมื่อไหร่

อย่างไรก็ตาม นายประเสริฐ กล่าวว่า ไม่ได้มีเจตนาคัดค้านการบริหารของ NT แต่ต้องการให้มีความชัดเจน โปร่งใส ตรวจสอบได้ โดยเฉพาะเมื่อคลื่นความถี่ถือเป็นทรัพยากรระดับชาติที่มีมูลค่ามหาศาล ดังนั้น จึงต้องฟังเสียงจากทุกฝ่าย โดยเฉพาะสภาองค์กรผู้บริโภค และควรมีเวทีพูดคุยให้ข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา ก่อนจะไปถึงจุดที่ต้องประมูล เพราะหากตัดสินใจผิดพลาด ประชาชนจะเป็นผู้ที่เสียประโยชน์ในที่สุด ดังนั้นตนเองจึงยินดีคุยกับสภาผู้บริโภคเพื่อทำความเข้าใจร่วมกัน

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...