โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

เจาะรายงาน The Wall Street Journal เมื่อมิตรภาพ ‘ชินวัตร-ฮุน’ พังทลาย สู่ชนวนเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชาที่รุนแรงที่สุดในรอบทศวรรษ

THE STANDARD

อัพเดต 26 ก.ค. เวลา 11.06 น. • เผยแพร่ 26 ก.ค. เวลา 11.06 น. • thestandard.co
เจาะรายงาน The Wall Street Journal เมื่อมิตรภาพ ‘ชินวัตร-ฮุน’ พังทลาย สู่ชนวนเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชาที่รุนแรงที่สุดในรอบทศวรรษ

เมื่อเย็นวานนี้ (25 ก.ค.) ตามเวลาประเทศไทย หนังสือพิมพ์ The Wall Street Journal ได้เผยแพร่รายงาน What Is Driving the Thai-Cambodia Border Clashes หรือ ‘อะไรคือชนวนเหตุการณ์ปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา’ โดยมีเนื้อหาสำคัญที่วิเคราะห์ถึงปัจจัยเบื้องหลังของความขัดแย้ง

รายงานระบุว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสองตระกูลการเมืองที่ทรงอำนาจ คือตระกูลชินวัตรในไทยและตระกูลฮุนในกัมพูชา ซึ่งเคยมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันมายาวนานเกือบสามทศวรรษ และขยายไปสู่ความร่วมมือทางธุรกิจ รวมถึงการให้ความคุ้มครองจากศัตรูทางการเมือง ได้พังทลายลงอย่างสิ้นเชิง

และกำลังเป็นเชื้อไฟที่โหมกระพือความขัดแย้งรุนแรงบริเวณชายแดน จนนำไปสู่การสูญเสียชีวิตและการพลัดถิ่นของประชาชนจำนวนมาก

การปะทะรุนแรงและผลกระทบ

สถานการณ์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา กองกำลังทหารไทยและกัมพูชาได้เปิดฉากยิงปะทะกันอย่างหนักเป็นวันที่สองตลอดแนวชายแดนยาวกว่า 800 กิโลเมตร โดยฝ่ายกัมพูชาได้ใช้จรวดและปืนใหญ่ ขณะที่ฝ่ายไทยได้ส่งโดรนติดอาวุธและเครื่องบินขับไล่ F-16 เข้าโจมตีคลังกระสุนและที่มั่นของฝ่ายตรงข้าม

เหตุการณ์ปะทะกันครั้งนี้ส่งผลให้มีพลเรือนเสียชีวิตอย่างน้อย 14 รายในฝั่งไทย และ 1 รายในฝั่งกัมพูชา มีผู้บาดเจ็บอีกหลายสิบราย และประชาชนกว่า 100,000 คนต้องอพยพออกจากบ้านเรือน นับเป็นความรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2011 เป็นอย่างน้อย

พื้นที่พิพาทดังกล่าวครอบคลุมปราสาทหินโบราณหลายแห่งที่สร้างขึ้นในสมัยอาณาจักรขอม ซึ่งเคยปกครองพื้นที่ส่วนใหญ่ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เมื่อประมาณ 1,000 ปีก่อน โดยทั้งไทยและกัมพูชาต่างถือว่าโบราณสถานเหล่านี้เป็นส่วนสำคัญของมรดกทางวัฒนธรรมของตน

ศักยภาพทางทหารของสองประเทศ

สำนักข่าว Bloomberg ได้รายงานเพิ่มเติมถึงการเปรียบเทียบศักยภาพทางทหาร โดยอ้างอิงข้อมูลจากสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการศึกษาเชิงยุทธศาสตร์ (IISS) ซึ่งระบุว่าประเทศไทยมีกำลังพลประจำการในกองทัพมากกว่าอย่างมีนัยสำคัญ ที่ 360,000 นาย เทียบกับกัมพูชาที่มีอยู่ประมาณ 124,000 นาย

Bloomberg ยังรายงานว่า เหล่าผู้นำกองทัพไทย ซึ่งเคยเข้ายึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือนมาแล้วหลายครั้ง ได้ใช้งบประมาณด้านการทหารในแต่ละปีสูงกว่าของกัมพูชาถึง 4 ถึง 5 เท่า และได้สร้างแสนยานุภาพจนเป็นหนึ่งในกองทัพที่มีศักยภาพมากที่สุดในภูมิภาค โดยจัดซื้อยุทโธปกรณ์ส่วนใหญ่จากสหรัฐฯ และยุโรป

ในทางตรงกันข้าม กัมพูชาได้รับอาวุธเกือบทั้งหมดจากจีน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเทคโนโลยีรุ่นเก่า หากเป็นการรบทางอากาศ ประเทศไทยจะมีความได้เปรียบอย่างชัดเจน โดยมีฝูงบินขับไล่ที่ทันสมัยอย่าง F-16 สองฝูงบิน และ Gripen C/D อีกหนึ่งฝูงบิน ในขณะที่กัมพูชาไม่มีเครื่องบินรบในประจำการเลย

ส่วนการรบภาคพื้นดิน ประเทศไทยยังคงมีความเหนือกว่าด้วยจำนวนรถถังที่มากกว่าประมาณสองเท่า และปืนใหญ่ที่มากกว่าห้าเท่า ขณะที่ระบบป้องกันภัยทางอากาศหลักของกัมพูชาที่ผลิตในจีน ก็มีเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยน้อยกว่ายุทโธปกรณ์ของชาติตะวันตก

เบื้องหลังรอยร้าวสองตระกูลการเมือง

ชนวนเหตุที่แท้จริงซึ่งนำไปสู่การแตกหักของความสัมพันธ์นั้นยังไม่เป็นที่แน่ชัด แต่ความตึงเครียดได้ทวีความรุนแรงขึ้นหลังจากเหตุการณ์ยิงปะทะกันใกล้ปราสาทแห่งหนึ่งเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม ซึ่งทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 1 นาย

หลายสัปดาห์ต่อมา ฮุน เซน อดีตผู้นำกัมพูชา ได้เผยแพร่คลิปเสียงสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างตนเองกับ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทย ในคลิปเสียงดังกล่าว แพทองธารได้เรียกฮุน เซนว่า ‘ลุง’ และเรียกตนเองว่า ‘หลาน’ พร้อมให้คำมั่นว่าจะทำ ‘ทุกอย่างที่ท่านต้องการ’ เพื่อคลี่คลายความตึงเครียด และยังได้กล่าวถึงกองทัพไทยว่าเป็น ‘ฝ่ายตรงข้าม’

คลิปเสียงที่รั่วไหลออกมาได้สร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงของแพทองธารในประเทศไทย และนำไปสู่การที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาข้อกล่าวหาว่าเธอกระทำการอันเป็นการบ่อนทำลายอธิปไตยของชาติ

ขณะที่ ทักษิณ ชินวัตร บิดาของแพทองธารได้เข้ามาร่วมในความขัดแย้งนี้ โดยใช้บัญชี X ของตนปฏิเสธข้อเสนอไกล่เกลี่ยจากภายนอก พร้อมระบุว่า “เราอาจต้องปล่อยให้ทหารไทยทำหน้าที่สั่งสอนบทเรียนให้ฮุน เซนได้รู้จักเล่ห์เหลี่ยมของเขาก่อน”

ด้านฮุน เซน ซึ่งรัฐบาลของเขาเคยให้ที่พักพิงแก่พันธมิตรของทักษิณจำนวนมากหลังการรัฐประหารในปี 2014 ได้ตอบโต้ผ่านหน้า Facebook ของตนว่า “ตอนนี้ ภายใต้ข้ออ้างที่จะแก้แค้นฮุน เซน (ทักษิณ) กำลังหันไปใช้สงคราม ซึ่งผลสุดท้ายที่จะตามมาคือความทุกข์ยากของประชาชน”

นักวิเคราะห์กล่าวว่า การพังทลายของความสัมพันธ์ ประกอบกับการที่อำนาจของตระกูลชินวัตรในไทยอ่อนแอลง อาจทำให้การแก้ไขความขัดแย้งในปัจจุบันทำได้ยากยิ่งขึ้น ดังที่ชาวบ้านรายหนึ่งซึ่งลี้ภัยอยู่ในวัดได้กล่าวว่า “ชาวบ้านพูดกันว่าฮุน เซนกับตระกูลชินวัตรกำลังทะเลาะกัน หักหลังกัน” และตั้งคำถามว่า “ทำไมพวกเขาไม่จัดการเรื่องนี้ให้เร็วกว่านี้ ก่อนที่มันจะบานปลายขนาดนี้”

ภาพ:ณาฌารัฐ ภักดีอาสา / THE STANDARD WEALTH

อ้างอิง:

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...