ผู้ชี้ทางกับบุคคลภายนอกพรรคฯให้มีส่วนร่วมในกิจการบ้านเมือง–เส้นทางสี จิ้นผิง(171)
ผู้ชี้ทางกับบุคคลภายนอกพรรคฯให้มีส่วนร่วมในกิจการบ้านเมือง--เส้นทางสี จิ้นผิง(171)
“ตอนนี้มีสหายบางคนมีอคติในความคิดของพวกเขา โดยเชื่อว่า บุคคลที่ไม่ใช่สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ไม่มีความสามารถ และเจ้าหน้าที่ระดับผู้นำที่เป็นผู้หญิงก็ไม่มีความสามารถ” นายสี จิ้นผิง ชี้ให้เห็นเช่นนี้ในที่ประชุมงานแนวร่วมของเมืองฝูโจวเมื่อเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1990
ในขณะนั้น เจ้าหน้าที่ที่ทำงานด้านแนวร่วมจำนวนไม่น้อยยังขาดความเข้าใจที่ครบถ้วนเกี่ยวกับสถานการณ์ของบุคคลที่อยู่นอกพรรคคอมมิวนิสต์จีน ความเข้าใจเช่นนี้นำไปสู่การไม่สามารถรวมพลังจากทุกฝ่ายเพื่อขับเคลื่อนการสร้างสรรค์ความทันสมัยแห่งสังคมนิยมได้อย่างเต็มที่
เดือนเมษายน ปี 1942 นายสี จิ้นผิง กล่าวในการประชุมเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ครั้งหนึ่งซึ่งจัดขึ้นโดยพรรคการเมืองประชาธิปไตยว่า “สิ่งที่ต้องเน้นย้ำเป็นพิเศษคือ พรรคประชาธิปไตยและบุคคลที่ไม่สังกัดพรรคการเมืองเป็นคลังสมองระดับสูง พวกเขาหลายคนเป็นสหายเก่าที่มีความเชี่ยวชาญในหลากหลายสาขาและเคยมีบทบาทสำคัญในการสร้างประเทศจีนใหม่ มีนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากมายที่ได้สร้างคุณูปการสำคัญต่อการสร้างสรรค์ “สี่ทันสมัย” ("สี่ทันสมัย" หมายถึง ความทันสมัยด้านอุตสาหกรรม เกษตรกรรม การป้องกันประเทศ และวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี) และยังมีนักคิดนักเขียน ศิลปิน และปราชญ์ชาวบ้านจำนวนมากมายที่สร้างผลงานโดดเด่นในการพัฒนากิจการวัฒนธรรมและการศึกษา------ช่างเป็นศูนย์รวมของผู้มีความสามารถจริงๆ”
ปี 1992 นางหวง ซวงเย่ว์ เพิ่งได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการพรรคจื้อกงแห่งเมืองฝูโจว และนายสี จิ้นผิงได้เชิญให้เข้าพบเป็นครั้งแรก ในขณะนั้น เธอยังไม่แน่ใจนัก เนื่องจากภาระงานในฐานะแพทย์ก็หนักอยู่แล้ว จึงกังวลว่าการรับตำแหน่งประธานพรรคจะกระทบต่อเวลาทำงานของเธอหรือไม่? อีกทั้งยังมีความเข้าใจที่ไม่ชัดเจนเกี่ยวกับการเมืองประชาธิปไตย โดยเฉพาะความสำคัญของการมีส่วนร่วมทางการเมืองของบุคคลประชาธิปไตย ทำให้เธอไม่ค่อยมีความกระตือรือร้นมากนัก
นายหวง ซวงเย่ว์ เป็นชาวจีนโพ้นทะเลที่เดินทางกลับมาตุภูมิ อีกทั้งยังเป็นศัลยแพทย์ฝีมือดีของโรงพยาบาลหมายเลขหนึ่งเมืองฝูโจว เธอจึงเป็นบุคคลที่มีความเป็นตัวแทนที่โดดเด่น ก่อนหน้านี้ สหายจากคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำเมืองฝูโจวได้พยายามชักชวนให้เธอเข้าร่วมงานมาแล้วหลายครั้ง
“คุณไม่ต้องกังวล คณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำเมืองจะเป็นกำลังสนับสนุนคุณอย่างเต็มที่ ถ้ามีปัญหาคุณก็มาหาคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำเมือง หรือมาหาผมโดยตรงก็ได้”
นี่คือคำพูดที่นายสี จิ้นผิงกล่าวกับนางหวง ซวงเย่ว์ ในการพบกันครั้งแรก พร้อมทั้งให้กำลังใจว่า “หวังว่าคุณจะพยายามศึกษาความรู้เกี่ยวกับแนวร่วมให้มากขึ้น ส่งเสริมจิตสำนึกเกี่ยวกับความร่วมมือหลายพรรค และในขณะเดียวกันที่ทำหน้าที่แพทย์ของคุณด้วยดีนั้นก็ทำงานของพรรคการเมืองให้ดีด้วย”
นางหวง ซวงเย่ว์ ตัดสินใจลองดู และไม่นานหลังจากนั้น เธอได้จัดคณะกรรมการพรรคจื้อกงประจำเมืองฝูโจวไปศึกษาดูงานที่มณฑลกวางตุ้ง ซึ่งถือเป็นครั้งแรกสำหรับพรรคจื้อกงทั่วประเทศ และได้ผลลัพธ์ที่ดี
“เมื่อตัดสินใจทำแล้ว ก็ต้องทำงานพรรคการเมืองให้ดีที่สุด” เธอปักใจว่าจะไม่ทำให้ความไว้วางใจของนายสี จิ้นผิงต้องสูญเปล่า
หลังจากกลายเป็นคู่ติดต่อและผูกมิตรในฐานะบุคคลนอกพรรคคอมมิวนิสต์จีนของนายสี จิ้นผิงแล้ว นางหวง ซวงเย่ว์ ได้มีโอกาสเรียนรู้จากนายสี จิ้นผิงมากขึ้น เธอกล่าวว่า “ทุกครั้งที่สนทนา ท่านมักจะเปิดเผยและจริงใจเสมอ ไม่ว่าฉันจะมีข้อสงสัยเกี่ยวกับแนวคิดหรือการทำงาน ก็สามารถพูดคุยกับท่านได้”
ด้วยการสนับสนุนของนายสี จิ้นผิง หวง นางหวง ซวงเย่ว์ ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาปรึกษาการเมืองของเมืองฝูโจว กรรมการในคณะกรรมการประจำสภาผู้แทนประชาชนมณฑล และสมาชิกสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติตามลำดับ เธอได้เสนอข้อเสนอและญัตติที่มีคุณภาพสูงจำนวนมาก เมื่อย้อนอดีต เธอรู้สึกซาบซึ้งและกล่าวว่า “สหายสี จิ้นผิง เป็นผู้ชี้ทางให้ฉันเข้าสู่เส้นทางการมีส่วนร่วมทางการเมือง”
ในที่ประชุมว่าด้วยงานแนวร่วมของเมืองฝูโจวครั้งหนึ่ง นายสี จิ้นผิงชี้ให้เห็นว่า “ต้องเสนอแนะบุคคลที่มีคุณสมบัติ ‘สี่ลักษณะเด่น’ ของเจ้าหน้าที่ ("สี่ลักษณะเด่น" ของเจ้าหน้าที่ หมายถึง ลักษณะเด่นด้านการปฏิวัติ ความเยาว์วัย การมีความรู้ และความเป็นมืออาชีพของขบวนเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นมาตรฐานในการฝึกอบรมและคัดเลือกเจ้าหน้าที่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในยุคใหม่สำหรับการสร้างสรรค์สังคมนิยม) และเป็นผู้มีคุณธรรมและความสามารถ ให้เข้าดำรงตำแหน่งผู้นำที่เหมาะสม อันดับแรกคือต้อนรับการเข้ามาของพวกเขาโดยปราศจากอคติ”
นายซุน ซินเฟิง อดีตรองประธานคณะกรรมการพรรคหมินเก๋อประจำมณฑลฝูเจี้ยน และอดีตรองประธานสภาปรึกษาการเมืองเมืองฝูโจว กล่าวว่า “ในเวลานั้น สังคมยังคงมีปรากฏการณ์ดูถูกบุคคลที่ไม่ใช่สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีนจริง แต่นายสี จิ้นผิงไม่ใช่แบบนั้น”
นายกง หรงสือ ก็เคยเผชิญแรงกดดันจากความคิดเห็นของสังคมที่มีอคติเช่นนี้ เขากล่าวว่า “ในเวลานั้น ยังไม่เคยมีตัวอย่างที่เจ้าหน้าที่จากพรรคการเมืองประชาธิปไตยได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งผู้นำหมายเลขหนึ่งของหน่วยงาน แต่สหายสี จิ้นผิงสนับสนุนผมอย่างเต็มที่ให้ไปเป็นผู้บริหารสูงสุดของคณะกรรมการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเมืองฝูโจว”
นายสี จิ้นผิง ได้ให้คำแนะนำและสนับสนุนนายกง หรงสือในการทำงานของพรรคการเมืองประชาธิปไตยและคณะกรรมการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง โดยมักพาเขาไปลงพื้นที่สำรวจข้อมูลประกอบการวิจัยและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการเมืองประชาธิปไตย รวมถึงปรึกษาหารือเกี่ยวกับการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ความไว้วางใจจากผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่มีต่อบุคคลนอกพรรคฯเช่นนี้ ทำให้นายกง หรงสือมีความมั่นใจและทุ่มเทให้กับงานของเขาอย่างเต็มที่
แปลเรียบเรียงโดย ภาคภาษาไทย ศูนย์เอเชียแอฟริกา สถานีวิทยุและโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน(CMG)
ติดตามตอนก่อนหน้าได้ที่