วัดภูม่านฟ้าไม่ได้เลียนแบบนครวัด ย้อนอ่านแถลงการณ์ ก.วัฒนธรรมกัมพูชา ปี 64 ที่อ้างว่าวัดภูม่านฟ้าเป็นสถาปัตยกรรมไทย
นางเฟือง สกุณา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมและศิลปกรรมแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา กล่าวโจมตีประเทศไทยกลางเวทีการประชุมยูเนสโก เมื่อวันที่ 10 ก.ค. 2568 ที่ผ่านมา โดยกล่าวหาว่า วัดภูม่านฟ้า” ของไทย สร้างขึ้นโดยเลียนแบบปราสาทนครวัด และเรียกร้องให้ยูเนสโกดำเนินการตรวจสอบประเทศไทย
แต่ถูกนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว หัวหน้าคณะผู้แทนไทย ตอบโต้กลับด้วยท่าทีที่ลุ่มลึก ที่ทั้งยืนยันว่า วัดภูม่านฟ้านั้น เป็นสถาปัตยกรรมในแบบของไทยเอง ไปพร้อม ๆ กับการตำหนิกัมพูชาแบบอ้อม ๆ ว่าไม่รู้จักกาลเทศะ และใช้มรดกทางวัฒนธรรมเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง สร้างความแตกแยกระหว่างกัน
อย่างไรก็ดี ข้อสงสัยว่าวัดภูม่านฟ้านั้น ถูกสร้างขึ้นโดยเลียนแบบนครวัดหรือไม่นั้น ได้กลายมาเป็นประเด็นข้อถกเถียงในหมู่ชาวกัมพูชาในช่วงปี 2564 มาก่อน จนทำให้ทางการกัมพูชาได้ส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบที่วัดภูม่านฟ้า จ. บุรีรัมย์
และเมื่อวันที่ 7 ก.ค. 2564 กระทรวงวัฒนธรรมฯ กัมพูชา โพสต์แถลงการณ์โดยมีข้อความว่า
“ข่าวประชาสัมพันธ์โครงการก่อสร้างวัดหิน จังหวัดบุรีรัมย์ ประเทศไทย
กระทรวงวัฒนธรรมและศิลปกรรมขอเรียนให้ทราบว่า ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา กระทรวงวัฒนธรรมและศิลปกรรมได้ประสานงานและประสานงานกับสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย
อย่างใกล้ชิดผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับการก่อสร้างวัดหินในจังหวัดบุรีรัมย์ ประเทศไทย เพื่อศึกษาและรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติม สถานเอกอัครราชทูตกัมพูชาได้ดำเนินการตรวจสอบอย่างละเอียดและรวบรวมข้อมูลเบื้องต้น ดังนี้
วัดนี้เป็นวัดหินที่มีความหลากหลายมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ในวัดพุทธศิลาภูม่านฟ้า ตำบลบ้านสิงห์ อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ ราชอาณาจักรไทย โครงสร้างทำจากหินทรายด้านนอกและคอนกรีต หล่อฝังเหล็กจากด้านใน
โดยการชี้แจงและแสดงเอกสาร แผนผัง และสิ่งก่อสร้าง เจ้าอาวาสวัดได้ยืนยันว่า การก่อสร้างวัดแห่งนี้ไม่ได้ลอกแบบแผนผังหรือก่อสร้างตามแบบสถาปัตยกรรมเดียวกันกับนครวัดหรือวัดโบราณใดๆ ในกัมพูชา กล่าวคือ ก่อสร้างตามแบบแปลนของตนเองและออกแบบตามสถาปัตยกรรมของวัดบางแห่งในพื้นที่
ตัวแทนของผู้ประสานงานโครงการก่อสร้างวัดยังยินดีรับคำขอจากผู้เชี่ยวชาญด้านสถาปัตยกรรมชาวกัมพูชาให้เข้ามาตรวจสอบสถานที่ด้วยตนเองในกรณีที่มีข้อสงสัย
กระทรวงวัฒนธรรมและศิลปกรรมขอแสดงความขอบคุณอย่างสุดซึ้งต่อพี่น้องประชาชนทุกท่านที่ให้ความใส่ใจ ปกป้อง และส่งเสริมเกียรติคุณ เอกลักษณ์ประจำชาติ และศิลปวัฒนธรรมอันล้ำค่าของชาติด้วยศักดิ์ศรีอันยิ่งใหญ่ กระทรวงฯ จะยังคงดำเนินงานและติดตามการดำเนินงานนี้ด้วยความเอาใจใส่ต่อไป
ข้อมูลข้างต้นนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ประชาชนได้รับทราบ”
—
ทั้งนี้ ในปี 2564 ดร. เฟือง สกุณา ยังคงเป็น รมว. วัฒนธรรมฯ ของกัมพูชา โดยเธอดำรงตำแหน่งนี้มาตั้งแต่ 24 กันยายน 2556 หรือเกือบ 12 ปีแล้ว
#TheStructure
#TheStructureNews
#ชายแดนไทยกัมพูชา #วัดภูม่านฟ้า