โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

สับตีXแตก! หน่วยรบกัมพูชา 911 ถอดเครื่องแบบทิ้งวิ่งหนีกลับประเทศ

คมชัดลึกออนไลน์

อัพเดต 29 ก.ค. เวลา 21.59 น. • เผยแพร่ 30 ก.ค. เวลา 04.51 น.

เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา เพจ Army Military Force – สำรอง เผยภาพชุดเครื่องแบบหน่วยรบพิเศษหมวกแดงกัมพูชา 911 พร้อมรายงานสถานการณ์สุดตึงเครียด หลังทหารกัมพูชาจำนวนหนึ่งถอดเครื่องแบบหนีเข้าฝั่งประเทศตัวเอง ภายหลังที่ "ร.31 รอ." ของไทยเข้ายึดคืนพื้นที่ "ปราสาทตาควาย" ก่อนปฏิบัติการจะปิดฉากลงด้วยการทิ้งระเบิดของเครื่องบินขับไล่ F-16 ของไทย!

ทางเพจ Army Military Force – สำรอง ได้โพสต์ข้อความโดยระบุว่า “BREAKING NEWS! ภาพแรกเผย! หน่วยรบพิเศษหมวกแดงกัมพูชา “911” แตก! ถอดเครื่องแบบหนีเข้าฝั่งกัมพูชา หลังไทยส่ง ร.31 รอ. ยึดคืนปราสาทตาควาย !

พบหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 911 หน่วยจู่โจมตีที่ 6 ของกองทัพบกกัมพูชา ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็นหน่วยรบพิเศษที่โหดเหี้ยมอันดับต้นๆ ของกัมพูชา ถอดเครื่องแบบทิ้ง “แตกทัพ” และวิ่งหนีกลับเข้าฝั่งกัมพูชา!

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากที่กำลังของกองพันทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ (ร.31 รอ.) ของไทย เปิดปฏิบัติการเข้ายึดปราสาทตาควายกลับคืนได้สำเร็จ ก่อนถึงกำหนดเส้นตายของข้อตกลงหยุดยิงในเวลาเที่ยงคืนที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากนั้นไม่นาน เครื่องบินขับไล่ F-16 ของไทยก็ได้ดำเนินการทิ้งระเบิดเพื่อปิดฉากปฏิบัติการอย่างเด็ดขาด

มีรายงานเพิ่มเติมว่า หน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 911 ของกัมพูชารุ่นแรกนี้ เคยถูกส่งไปฝึกหลักสูตรที่ประเทศอินโดนีเซีย โดยหน่วยปฏิบัติการพิเศษโคปัสซุส (Kopassus) ของอินโดนีเซีย แต่กลับมีข้อมูลระบุว่าการฝึกนั้นไม่ถึง 2 เดือนก็ถูกส่งตัวกลับกัมพูชา เนื่องจากมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมต่อครูฝึกทำให้เกิดข้อสังเกตเกี่ยวกับประสิทธิภาพและความพร้อมของหน่วยนี้”

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...