โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ต่างประเทศ

ชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แสดงความกังวลต่อภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ

ไทยโพสต์

อัพเดต 08 ก.ค. เวลา 17.30 น. • เผยแพร่ 08 ก.ค. เวลา 08.57 น.

โลโก้ของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน (Photo by MOHD RASFAN / AFP)

ชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แสดง "ความกังวล" ต่อกรณีการกำหนดภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ และมองว่าไม่ก่อให้เกิดประโยชน์กับการค้าโลก หลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ขู่ว่าจะขึ้นภาษีนำเข้ากับประเทศต่างๆ มากกว่าสิบประเทศ

สงครามการค้าของประธานาธิบดีสหรัฐฯน่าจะกลายเป็นหัวข้อสำคัญในการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ในสัปดาห์นี้

รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนระบุในร่างแถลงการณ์ร่วมว่า "เราแสดงความกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดด้านการค้าโลกที่เพิ่มมากขึ้นและความไม่แน่นอนที่เพิ่มมากขึ้นในภูมิทัศน์เศรษฐกิจระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการดำเนินการฝ่ายเดียวที่เกี่ยวข้องกับภาษีศุลกากร"

แม้รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนไม่ได้ระบุชื่อประเทศสหรัฐอเมริกาโดยตรง แต่ระบุว่าการกำหนดภาษีศุลกากรนั้นไม่เกิดประโยชน์และมีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการแตกแยกทางเศรษฐกิจทั่วโลก และยังเป็นความท้าทายที่ซับซ้อนต่อเสถียรภาพและการเติบโตของเศรษฐกิจอาเซียนอีกด้วย

ทรัมป์ส่งจดหมายถึง 14 ประเทศเพื่อประกาศว่าภาษีศุลกากรที่เขาระงับไปเมื่อเดือนเมษายนจะกลับมาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นภายในสามสัปดาห์

ประเทศที่ถูกกำหนดเป้าหมาย ได้แก่ ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่ โดยแต่ละประเทศจะเผชิญภาษีศุลกากร 25 %

อินโดนีเซีย, ลาว, กัมพูชา, ไทย, มาเลเซีย และเมียนมา ซึ่งล้วนเป็นสมาชิกอาเซียน จะต้องเสียภาษี 25-40% หากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับวอชิงตันภายในวันที่ 1 สิงหาคม

เวียดนามซึ่งเป็นประเทศที่พึ่งพาการส่งออกและเป็นสมาชิกอาเซียนด้วย เป็นเพียง 1 ใน 2 ประเทศเท่านั้นที่บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นที่ไม่ต้องปฏิบัติตามมาตรการของทรัมป์

มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ จะเดินทางมาเข้าร่วมการประชุมกับรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนในวันพฤหัสบดีและวันศุกร์นี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางเยือนเอเชียเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่รับตำแหน่ง

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐกล่าวกับว่า รูบิโออาจชี้แจงประเด็นนี้กับบรรดาชาติอาเซียนว่า สหรัฐฯ เพียงต้องการ "สร้างสมดุลความสัมพันธ์ทางการค้า"

การเยือนครั้งนี้ของรูบิโอตรงกับการเยือนของเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย และหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์คาดว่ารูบิโอจะมีบทบาทในการประนีประนอม หลังจากที่ทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีศุลกากรครั้งล่าสุดและสร้างความกังวลต่อรัฐอื่นๆ

"หวังว่ารูบิโอจะส่งข้อความเชิงบวกเพื่อย้ำถึงความสำคัญของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต่อนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ" มุสตาฟา อิซซุดดิน นักวิเคราะห์ด้านกิจการระหว่างประเทศของบริษัทที่ปรึกษาโซลาริส สแตรทิจีส์ สิงคโปร์ กล่าว

แต่เขากล่าวเสริมว่า "การมีส่วนร่วมที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นของสหรัฐฯ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อาจได้รับการขัดขวางจากแนวทางการทำธุรกรรมระหว่างประเทศของทรัมป์"

ผู้นำสหรัฐฯ ได้เปิดเผยมาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ครั้งใหญ่กับหลายประเทศเมื่อวันที่ 2 เมษายน ซึ่งเขาเรียกว่า "วันปลดปล่อย" อันรวมถึงการกำหนดภาษีนำเข้าพื้นฐาน 10% สำหรับทุกประเทศ

แต่หลังจากที่ตลาดเกิดความวุ่นวาย เขาก็ระงับภาษีนำเข้าที่สูงกว่า 10% อย่างรวดเร็วเป็นเวลา 90 วันเพื่อเปิดทางให้เจรจา

ในการประชุมสุดยอดเมื่อปลายเดือนพฤษภาคม ผู้นำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อนโยบายกีดกันทางการค้าของทรัมป์

เดิมทีภาษีดังกล่าวจะเริ่มมีผลบังคับใช้หลังสิ้นสุดการระงับชั่วคราวในวันพุธนี้ แต่ทรัมป์ขยายเวลาออกไปและได้ส่งจดหมายล่วงหน้าถึงหลายประเทศก่อนกำหนดเส้นตายใหม่

กระทรวงการค้าของมาเลเซียกล่าวว่าจะยังคงเจรจาต่อไปเพื่อบรรลุข้อตกลงการค้าที่สมดุล, เป็นประโยชน์ร่วมกัน และครอบคลุม

ขณะที่รักษาการนายกรัฐมนตรีของไทยกล่าวว่า เขาต้องการ "ข้อตกลงที่ดีกว่า" และเสริมว่า "สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเราต้องรักษาความสัมพันธ์อันดีกับสหรัฐอเมริกา".

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...