โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ยานยนต์

เปิดใจ “เติ้น-ทัศนพล" คนแรกของไทย สร้างประวัติศาสตร์ คว้าแชมป์โลก FIA Formula 3

Manager Online

เผยแพร่ 18 ก.ค. เวลา 06.59 น. • MGR Online

Formula 1 (F1) คือความฝันสูงสุดของผม ผมอยากเห็นธงชาติไทยบนเวทีนั้น และเชื่อว่าวันนั้นจะต้องมาถึง บทหนึ่งของการสัมภาษณ์ “เติ้น” ทัศนพล นักแข่งดาวรุ่งไทย หลังสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ เป็นคนไทยคนแรกที่คว้าแชมป์ระดับโลก FIA Formula 3 Championship 2025

วงการมอเตอร์สปอร์ตไทยได้จารึกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ เมื่อ “เติ้น” ทัศนพล อินทรภูวศักดิ์ นักแข่งดาวรุ่งชาวไทย วัย 19 ปี ภายใต้สังกัดทีม Campos Racing สร้างผลงานระดับโลก คว้าแชมป์อันดับ 1 ในรายการแข่งขัน FIA Formula 3 Championship 2025 สนามที่ 7 ณ สนามซิลเวอร์สโตน ประเทศอังกฤษ พร้อมชูธงชาติไทยขึ้นโพเดียม ท่ามกลางเสียงเพลงชาติที่ดังกึกก้องไปทั่วสนาม กลายเป็น นักแข่งไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ ที่คว้าชัยในรายการระดับนานาชาตินี้

หลังจบการแข่งขัน เติ้น ทัศนพล เปิดใจเป็นครั้งแรกในฐานะแชมป์ เผยให้เห็นถึงเบื้องหลังพลังใจ แรงผลักดัน และความรักในกีฬาความเร็วที่ฝังรากมาตั้งแต่วัยเด็ก “ผมจำได้เลยว่าตอนเด็กๆ ได้ยินเสียงเครื่องยนต์ครั้งแรก หัวใจผมเต้นแรงเหมือนโดนมนต์สะกด รู้เลยว่านี่คือโลกของผม”

เติ้น เล่าย้อนไปถึงจุดเริ่มต้น พร้อมย้ำว่าคุณพ่อคือคนสำคัญที่ปลุกไฟฝันให้กลายเป็นจริง “เส้นทางนี้ไม่เคยง่าย มีหลายครั้งที่รู้สึกท้อ พ่ายแพ้ หรือบาดเจ็บจนคิดจะหยุด แต่ผมจะนึกถึงคำพูดของพ่อที่บอกว่า ‘ถ้ารู้ว่าอยากไปไหน ก็อย่าหยุดเดิน’ มันคือคำที่ผลักดันให้ผมลุกขึ้นทุกครั้งที่ล้มลง” เติ้นกล่าวด้วยความตื้นตันใจ

ขอเล่าถึงการเตรียมตัวก่อนลงสนามทุกครั้งว่า “ทั้งร่างกายและจิตใจต้องพร้อมรบ 100% ผมฝึกซ้อมอย่างเข้มข้น ทั้งการคุมอาหาร การทำสมาธิ การสร้างภาพชัยชนะและวิธีการไปถึงชัยชนะในหัวทุกคืนก่อนนอน ผมเชื่อว่าเมื่อเราร่างภาพนั้น ได้ชัด เราจะสามารถดึงมันออกมาให้เป็นไปได้จริงในวันแข่ง”

สำหรับช่วงเวลาที่หัวใจเต้นแรงที่สุดในสนาม เติ้น ระบุว่า คือจังหวะที่โดนแซงในรอบที่ 6 ก่อนคว้าชัยชนะที่สนามซิลเวอร์สโตน “มันเป็นเสี้ยววินาทีที่ใจหล่นวูบ แต่ผมเลือกที่จะไม่ตื่นตระหนก ค่อยๆรวบรวมสมาธิ ทั้งหมด เพราะผมเชื่อว่าตัวเองยังมีโอกาส ถ้าเรานิ่งพอและบริหารจัดการยางและสติในการขับของเราได้ดีพอ เราจะกลับมาได้” และสิ่งนั้นก็เกิดขึ้นจริงเมื่อเขาเร่งแซงในรอบที่ 10 จนสามารถกลับขึ้นมายืนอยู่ในตำแหน่งผู้นำหัวแถวได้สำเร็จอีกครั้ง

เติ้น กล่าวว่า หนึ่งในบทเรียนสำคัญจากการแข่งขันครั้งนี้คือ “ความนิ่งสำคัญพอๆ กับความเร็ว” รวมถึงการทำงานเป็นทีม ซึ่งถือเป็นหัวใจของชัยชนะ เพราะ “นักแข่งไม่มีวันไปถึงเส้นชัยคนเดียว”

สำหรับชัยชนะครั้งนี้ของเติ้น “มันมีค่ามาก ไม่ใช่แค่กับผม แต่กับวงการมอเตอร์สปอร์ตของประเทศไทย” เพราะนี่คือบทพิสูจน์ว่าศักยภาพของเด็กไทยนั้นสามารถลงสู้ศึกในการแข่งขันระดับโลกได้ “ผมหวังว่าชัยชนะนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้เยาวชนไทยทุกคนลุกขึ้นตามหาความฝัน และทำตามความฝันของตน ไม่ว่าอุปสรรคจะใหญ่แค่ไหน ผมเชื่อว่าถ้าเรามุ่งมั่นและเอาจริงกับมัน เราจะพบความสำเร็จ”

เติ้น ยังขอบคุณครอบครัว ทีม Campos Racing ผู้สนับสนุน และแฟนๆ โดนเฉพาะแฟนชาวไทยที่ส่งแรงใจผ่านโซเชียลมาอย่างล้นหลาม “ผมเห็นทุกคอมเมนต์ ทุกกำลังใจ มันคือพลังที่ทำให้ผมไม่ยอมแพ้ ผมอยากขอบคุณพ่อกับแม่ ที่เชื่อมั่นในตัวผมมาตลอด พวกท่านคือเหตุผลสำคัญที่ผมยังยืนอยู่ตรงนี้ได้”

เมื่อถามถึงเป้าหมายต่อไป เติ้นตอบชัดว่า “FIA Formula 2 คือเป้าหมายระยะใกล้ และแน่นอน Formula 1 (F1) คือความฝันสูงสุดของผม ผมอยากเห็นธงชาติไทยบนเวทีนั้น และเชื่อว่าวันนั้นจะต้องมาถึง”

ก่อนจบการสัมภาษณ์ เติ้น ฝากข้อคิดถึงคนรุ่นใหม่ว่า “อย่าปล่อยให้ความกลัวมาหยุดความฝันของคุณ ทุกอุปสรรคคือบททดสอบ แต่ถ้าคุณไม่ยอมแพ้ มันจะกลายเป็นบทพิสูจน์ว่าคุณคือของจริง”

ชัยชนะของ “เติ้น” ทัศนพล อินทรภูวศักดิ์ ไม่เพียงทำให้ประเทศไทยปรากฏบนแผนที่ของวงการมอเตอร์สปอร์ตโลก แต่ยังส่งแรงกระเพื่อมสู่หัวใจของคนรุ่นใหม่ทุกคนที่มีความฝัน จาก“เสียงเครื่องยนต์” รถคันเล็กๆ ในสนามเด็กเล่นของเด็กไทยคนหนึ่ง อาจเป็นจุดเริ่มต้น ก้าวขึ้นสู่โพเดียมในสนามการแข่งขันระดับโลก แต่สิ่งที่พาเขาพุ่งทะยานมาถึงวันนี้ได้ คือ “เสียงเร่งเครื่องของความมุ่งมั่น” ที่ดังสะท้อนอยู่ในใจตลอดมา และเชื่อว่าจะช่วยปลุกพลังและสร้างแรงใจให้เยาวชนไทยทุกคนลุกขึ้นมากล้าฝันตามฮีโร่แห่งวงการมอเตอร์สปอร์ตคนใหม่คนนี้

website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...