โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

กีฬา

ดีเกินไป! 5 อุปกรณ์ที่โดนแบนจากวงการกีฬา

SIAMSPORT

เผยแพร่ 21 มิ.ย. เวลา 22.17 น.
วงการกีฬานอกจากศักยภาพทางร่างกายของนักกีฬาแล้ว อุปกรณ์ที่ใช้ก็มีส่วนสำคัญที่อาจให้แต่ละคนสร้างความได้เปรียบคู่แข่งของพวกเขา แต่บางครั้งความทันสมัยที่มากเกินไปอาจจะเป็นการเอาเปรียบคู่แข่ง จนทำให้อุปกรณ์เหล่านั้นโดนแบบไปตลอดกาล

ด้วยการที่โลกปัจจุบันมีการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสูงมาก ทำให้การผลิตอุปกรณ์ด้านกีฬาเพื่อเป็นการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับนักกีฬา อย่างไรก็ตามอุปกรณ์บางอย่างอาจจะไม่แฟร์สำหรับนักกีฬาคนอื่นๆ ซึ่งอาจส่งผลต่อผลแพ้ชนะในการแข่งขันก็ได้

ตั้งแต่พัตเตอร์กอล์ฟไปจนถึงวัสดุที่ใช้ทำชุดว่ายน้ำ นวัตกรรมที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งเหล่านี้จึงจำเป็นต้องถูกสั่งห้ามในการแข่งขันกีฬา

สำหรับอุปกรณ์กีฬา 5 ชนิดที่โดดเด่นอย่างชัดเจนจนคนทั่วโลกจำได้ไม่มีลืมเลือน และไม่มีทางได้เห็นพวกมันอยู่ในการแข่งขันอีกต่อไปมีอะไรบ้าง ไปพิจารณากันได้เลย

1. ไม้แร็กเกตสปาเก็ตตี้

ไม้เทนนิสแบบ "สายคู่" รุ่นแรกมีมาตั้งแต่ช่วงปลายศตวรรษที่ 1800 แต่ความนิยมอย่างแท้จริงสำหรับไม้เทนนิสประเภทนี้เกิดขึ้นในปี 1977 โดยตอนนั้นนักแร็กเกตอย่าง แบร์รี่ ฟิลลิปส์-มัวร์, ไมเคิ่ล ฟิชบัช และ จอร์จ โกเว่น ได้ใช้อุปกรณ์นี้เพื่อพลิกสถานการณ์ในการแข่งขันรายการสำคัญๆ

สำหรับประเด็นที่ได้รับการกล่าวขวัญอย่างมากจากการใช้ "แร็กเกตสปาเกตตี้" ซึ่งมีสายแร็ตเกต 5 สายและใส่พลาสติกไว้ที่แต่ละจุดตัดของสาย ทำให้เวลาที่ลูกบอลกระทบสายมันไม่สามารถคาดเอาทิศทางได้ นั่นก็คือตอนที่ ฟิชบัช ที่รั้งมืออันดับ 200 ชนะ สแตน สมิธ ที่รั้งอันดับ 15 ของโลก ไปแบบสบายๆ

ด้วยเหตุนี้ทำให้ สหพันธ์เทนนิสนานาชาติ (ไอทีเอฟ) ได้สั่งแบบชั่วคราววิธีการร้อยสายดังกล่าวช่วงปลายปี 1977 และตัดสินใจสั่งแบนถาวรการสร้างแร็กเกตดังกล่าวทันทีในปี 1978 เพื่อลดความเอาเปรียบคู่แข่ง

2. ชุดว่ายน้ำ สปีโด้ แอลแซ่ดอาร์ เรเซอร์

สถิติโลกการว่ายน้ำ 23 รายการจากทั้งหมด 25 รายการที่เกิดขึ้นในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก เกมส์ ที่กรุงปักกิ่ง ปี 2008 เกิดขึ้นโดยนักกีฬาเหล่านั้นได้สวมชุดว่ายน้ำ สปีโด้ แอลแซ่ดอาร์ เรเซอร์ (Speedo LZR Racers)

ไมเคิ่ล เฟลป์ส ฉลามหนุ่มชาวอเมริกัน ประกาศศักดาด้วยการคว้าเหรียญทอง 8 เหรียญในการแข่งขันรายการนี้ โดยความสุดยอดนี้ส่วนหนึ่งมาจากการช่วยเหลือของชุดว่ายน้ำ ซึ่งพัฒนาโดยร่วมมือกับ องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา หรือ "นาซ่า" (NASA)

ชุดดังกล่าวมีการบุด้วยแผงพลาสติกโพลียูรีเทน และใช้ระบบการบีบอัดเพื่อให้ชุดแนบชิดติดร่างกาย "เหมือนคอร์เซ็ต" และช่วยลดแรงเสียดทานของผิวหนังลง 24 เปอร์เซนต์ มากกว่าผ้าเดิมของ สปีโด้ ฟีน่า

จากความไม่แฟร์กับนักว่ายน้ำคนอื่นๆ ทำให้ สหพันธ์กีฬาทางน้ำโลก (World Aquatics) มีมติห้ามใช้ชุดว่ายน้ำดังกล่าวในการแข่งขันตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นไป

3. ไนกี้ อัลฟาฟลาย

ตอนที่ เอเลียด คิปโชเก้ ตำนานนักวิ่งปอดเหล็กชาวเคนย่า ใส่รองเท้า ไนกี้ อัลฟาฟลาย (Nike Alphafly) ลงแข่งวิ่งมาราธอน มันทำให้เขาสร้างความตกตะลึงให้กับผู้คนทั่วโลก เพราะเขากลายเป็นคนแรกที่วิ่ง 42.195 กม. ต่ำกว่า 2 ชั่วโมง เมื่อปี 2019

สำหรับไนกี้ รุ่น อัลฟาฟลาย มีจุดเด่นตรงที่มีแผ่นคาร์บอน 3 ชั้น และแผ่นรองรับกันกระแทกที่หนามาก นั่นทำให้เกิดข้อถกเถียงกันว่ารองเท้ารุ่นนี้สร้างความได้เปรียบให้กับนักวิ่ง โดยมีการวิจัยว่ารองเท้านี้เพิ่มประสิทธิภาพการวิ่งได้ราว 4 เปอร์เซนต์ และความเร็วในการวิ่งได้ประมาณ 3.4 เปอร์เซนต์

นั่นทำให้ สหพันธ์กรีฑานานาชาติ สั่งแบนรองเท้ารุ่นดังกล่าวจากการแข่งขันระดับสูง โดยสร้างกฎใหม่ที่กำหนดว่ารองเท้าวิ่งจะต้องใส่แผ่นคาร์บอนไม่เกิน 1 ชั้น และที่รองรับแรงกระแทกชั้นกลางห้ามเกิน 40 มิลลิเมตร

4. พัตเตอร์ก้านยาว

สำหรับพัตเตอร์ก้านยาวถูกสร้างขึ้นมาเพราะเป็นการเพิ่มเทคนิคการสวิงที่ทำขึ้นโดนนักกอล์ฟบางคน โดยอุปกรณ์นี้ได้รับความนิยมในช่วงต้นยุค 1980 เพราะมีการใช้พัตต์ก้านยาวอย่างแพร่หลาย

พัตเตอร์ก้านยาว หรือที่เรียกว่า "เบลลี่ พัตเตอร์" (belly putter) กำลังเป็นที่ถกเถียงกันว่ามีลักษณะในการเอาปลายด้ามไปจิ้มพุง มีข้อดีจะช่วยให้พัตเตอร์แกว่งไปตามการหมุนของลำตัวและลดการใช้ข้อมือน้อยลง และวงสวิงใกล้เคียงกับการหมุนของลูกตุ้มนาฬิกามากที่สุด

ช่วงเวลานั้นมีนักกอล์ฟอาชีพหลายคนนิยมใช้พัตเตอร์ดังกล่าวเยอะมาก อาทิเช่น อดัม สกอตต์ , เออร์นี่ เอลส์, เว็บบ์ ซิมป์สัน และ แบรดลี่ย์ คีแกน เป็นต้น อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเทคนิคนี้จะนำไปใช้ในการแข่งขันกอล์ฟรายการใหญ่ๆ แต่ สมาคมกอล์ฟแห่งสหรัฐอเมริกาและฝ่ายดูแลกฎและกติกา ตัดสินใจแบนพัตเตอร์ดังกล่าวในปี 2013

กระนั้นนักกอล์ฟได้รับการผ่อนผันสำหรับการปฏิบัติตามกฎใหม่ซึ่งมีผลบังคับใช้ในปี 2016 กระนั้นบรรดาก้านเหล็กก็ได้พบกับเทคนิคอื่นที่ช่วยทำให้การพัตต์ง่ายขึ้นนั่นก็คือวิธี "การยึดแขน" (Arm Anchoring) เป็นการยึดหรือพยุงไม้กอล์ฟไว้กับส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายระหว่างการสวิง อย่างไรก็ตามวิธีดังกล่าวถูกแบนในเวลาต่อมา

5. สารเหนียว "สติ๊กกัม"

เลสเตอร์ เฮย์ส ดีเฟนซีฟแบ็คของ ลอสแองเจลิส เรดเดอร์ส พลาดการอินเตอร์เซ็ปป์เพียงครั้งเดียวก็จะทำลายสถิติของ เอ็นเอฟแอล ในหนึ่งซีซั่นด้วยจำนวน 13 ครั้งเมื่อปี 1980 แต่เขาได้รับความช่วยเหลือด้วยอุปกรณ์พิเศษที่เรียกว่า "สติ๊กกัม" หรือสารเหนียว

สำหรับอุปกรณ์พิเศษดังกล่าวทำให้ เฮย์ส กลายเป็นคนมีชื่อเสียงอย่างแพร่หลายด้วยการทาสารดังกล่าวบนร่างกายของเขาระหว่างการแข่งขันศึกคนชนคน การใช้สารดังกล่าวสร้างความได้เปรียบให้กับเขา เพราะปกติแล้วตอนแย่งบอลได้เจ้าตัวมักจะดูเงอะงะ แต่หลังจากใช้ตัวช่วย เฮย์ส แย่งบอลได้มันจะติดอยู่กับมือของเขาโดยแทบไม่มีข้อผิดพลาดเลย

ปกติแล้วผู้เล่นส่วนใหญ่จะทาสารเหนียวเฉพาะบนมือเท่านั้น แต่สำหรับ เฮย์ส เล่นทาทั่วทั้งตัว โดยเหตุผลเพราะเขาต้องทำให้แน่ใจว่าถ้าลูกบอลสัมผัสเขา เขาจะสามารถรับมันได้

อย่างไรก็ตาม "เอ็นเอฟแอล" ตัดสินใจแบน "สติ๊กกัม" ในปี 1981 พร้อมเรียกกฎนี้ว่า "เลสเตอร์ เฮย์ส" โดยเหตุผลเพราะการใช้สารชนิดนี้เป็นการรบกวนการเล่น

TOMMY TEE.

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...