โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

รมว.ดีอี เปิดงาน Global ISO Conference 2025 ชูบัญชีบริการดิจิทัล-dSURE สร้างความเชื่อมั่นดิจิทัลไทย

การเงินธนาคาร

อัพเดต 09 มิ.ย. เวลา 13.53 น. • เผยแพร่ 09 มิ.ย. เวลา 06.53 น.

รมว.ดีอี เปิดงาน Global ISO Conference 2025 ชูบัญชีบริการดิจิทัล-dSURE ยกระดับมาตรฐาน - สร้างความเชื่อมั่นดิจิทัลไทย พร้อมเร่งพัฒนาทักษะคนไทยตาม Digital Skill Roadmap

วันที่ 9 มิถุนายน 2568 เว็บไซต์รัฐบาลไทยเปิดเผยว่า นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) พร้อมด้วยนายนรุณ สุขสมาน รองเลขาธิการสํานักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม (สมอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมเปิดงาน Global ISO Conference 2025 การประชุมประจำปีของณะอนุกรรมการด้านซอฟต์แวร์และวิศวกรรมระบบ (ISO/IEC JTC1/SC7) ครั้งที่ 44 ซึ่งกระทรวงดีอี

โดยสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า ร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรมโดย สมอ. และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ร่วมกันจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 8 - 13 มิถุนายน 2568 โดยมี ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผอ.ดีป้า , นายฉัตรชัย คุณปิติลักษณ์ รองผู้อำนวยการใหญ่ , ดร.ชินาวุธ ชินะประยูร ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่ และ นายอมฤต ฟรานเซน ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัล สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย รวมถึงคณะอนุกรรมการด้านซอฟต์แวร์และวิศวกรรมระบบจาก 26 ประเทศเข้าร่วม

โดย นายประเสริฐ กล่าวว่า รัฐบาลโดยกระทรวงดีอี ให้ความสำคัญกับการวางโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลควบคู่กับการยกระดับมาตรฐานดิจิทัลให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล หนึ่งในแนวทางสำคัญคือ การพัฒนากลไก 'บัญชีบริการดิจิทัล' (Thailand Digital Catalog) ของดีป้าเพื่อยกระดับมาตรฐานผู้ประกอบการไทย

โดยมีการตรวจสอบคุณสมบัติและรับรองมาตรฐานของสินค้าและบริการดิจิทัล อาทิ Software, Software as a Service (SaaS), Digital Content, Smart Devices, Hardware & Firmware ให้เป็นไปตามเกณฑ์สากล เช่น CMMI, ISO และ dSURE

ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่มอบให้กับผลิตภัณฑ์และบริการดิจิทัลที่ผ่านการทดสอบมาตรฐานด้านความปลอดภัยในการใช้งาน (Safety) ความสามารถในการทำงาน (Functionality) และความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ (Cybersecurity)

"รัฐบาลเร่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลของประเทศท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล ในนามของประเทศไทยขอขอบคุณที่ไว้วางใจให้เราเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมครั้งสำคัญนี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า Global ISO Conference 2025 จะเป็นเวทีสำคัญที่รวบรวมผู้เชี่ยวชาญด้านมาตรฐานซอฟต์แวร์และวิศวกรรมระบบจากทั่วโลกมาร่วมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ประสบการณ์ วิสัยทัศน์ และจุดประกายแนวคิดใหม่ ๆ ที่เป็นรูปธรรมในการยกระดับมาตรฐานซอฟต์แวร์ของโลกได้อย่างแท้จริง เพื่ออนาคตดิจิทัลที่มั่นคงและยั่งยืนสำหรับทุกคน" รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอี กล่าว

ด้าน ผศ.ดร.ณัฐพล ได้กล่าวเน้นย้ำถึงบทบาทเชิงรุกของ ดีป้า ในการขับเคลื่อนและยกระดับเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทย โดยชี้ให้เห็นถึงความสำเร็จอันเป็นรูปธรรมในการสร้างความเชื่อมั่นและโอกาสให้กับผู้ประกอบการไทยผ่านบัญชีบริการดิจิทัล และมาตรฐาน dSURE

โดย ดีป้า วางแนวทางให้บัญชีบริการดิจิทัลเป็นกลไกที่ทำหน้าที่เป็นประตูสู่โอกาสทางธุรกิจที่สำคัญของผู้ประกอบการดิจิทัลไทย ขณะที่ dSURE จะเป็นตราสัญลักษณ์รับรองคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ดิจิทัลตามมาตรฐานสากล พร้อมกันนี้ยังได้กล่าวถึงกรอบแนวทางการพัฒนาทักษะดิจิทัลสำหรับคนไทย (Digital Skill Roadmap) เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมกำลังคนดิจิทัลของประเทศ

ปัจจุบันมีผู้ประกอบการไทยที่ ดีป้า ส่งเสริมให้เกิดการยกระดับมาตรฐานโดยการขอรับรองมาตรฐาน ISO/IEC 29110 แล้วกว่า 520 บริษัท พร้อมผลักดันผลิตภัณฑ์ดิจิทัลให้ได้รับการขึ้นทะเบียนบนบัญชีบริการดิจิทัลแล้วกว่า 700 รายการ ซึ่งเกิดจากการผสานความราวมมือกับ สมอ. และ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย มาอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ดีป้า ได้ออกแบบกรอบแนวทางการพัฒนาทักษะดิจิทัลสำหรับคนไทย หรือ Digital Skill Roadmap เพื่อ Upskill, Reskill รวมถึงเพิ่ม New Skill ด้านดิจิทัลให้กับประชาชนคนไทย เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต สร้างงาน เพิ่มโอกาสทางอาชีพ เพิ่มรายได้ ตลอดจนเติมเต็มความต้องการของตลาดด้วยทักษะดิจิทัลขั้นสูง

ซึ่งการดำเนินงานของ ดีป้า สะท้อนให้เห็นถึงความพร้อมของประเทศในการเป็นผู้นำด้านมาตรฐานดิจิทัลของภูมิภาค และเป็นเครื่องยืนยันถึงเป้าหมายในการเพิ่มศักยภาพของบุคลากรดิจิทัลไทยที่พร้อมก้าวสู่เวทีระดับสากล

นอกจากนี้ ภายในพิธีเปิดงาน Dr. Sundeep Oberoi, Chairperson of ISO/IEC JTC1/SC7 ได้มอบรางวัล Token of Appreciation แก่ ดีป้า สมอ. และ สภาอุตสาหกรรมฯ พร้อมกล่าวขอบคุณทั้งสามหน่วยงานที่จัดการประชุมครั้งนี้ขึ้น ทั้งนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมบรรยายพิเศษสำหรับนักพัฒนา ผู้ประกอบการ และหน่วยงานไทย เพื่ออัปเดตแนวโน้มการพัฒนามาตรฐานดิจิทัลในหัวข้อสำคัญ อาทิ Standards and Policies, Green Software และ Low Code / No Code Development โดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญจากนานาประเทศ

สำหรับงาน Global ISO Conference 2025 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 8 - 13 มิถุนายน 2568 ซึ่งถือเป็นการประชุมประจำปีของคณะอนุกรรมการด้านซอฟต์แวร์และวิศวกรรมระบบ (ISO/IEC JTC1/SC7) ครั้งที่ 44 โดยมีประเทศสมาชิกเข้าร่วม 26 ประเทศ รวมกว่า 190 คน และมีการประชุมใหญ่ (Plenary Meeting) การประชุมกลุ่มทำงานย่อย (Working Groups – WGs)

ซึ่งรับผิดชอบการพัฒนามาตรฐานในประเด็นสำคัญ อาทิ การพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI-based software development) วิศวกรรมซอฟต์แวร์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green software) การพัฒนาแบบ Low Code (Low code development) เป็นต้น รวมถึงการประชุมกลุ่มเฉพาะกิจ (Ad Hoc Groups – AHGs) เพื่อศึกษาประเด็นใหม่ ๆ หรือแก้ไขปัญหาเฉพาะกิจ รวมทั้งสิ้นกว่า 60 การประชุม

ซึ่งทั้งหมดถือเป็นการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อให้ได้มาซึ่งมาตรฐานที่ตอบสนองต่อความต้องการของอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว พร้อมสร้างความเชื่อมั่นในการใช้งานซอฟต์แวร์และระบบทั่วโลก

โดยคาดการณ์ว่า จากการประชุมในครั้งนี้จะขยายผลให้เกิดการพัฒนามาตรฐานซอฟต์แวร์และระบบฉบับใหม่/ปรับปรุง ไม่น้อยกว่า 40 ฉบับ ครอบคลุมการอนุมัติมาตรฐาน รายงานความคืบหน้าของงาน และการกำหนดทิศทางอนาคตต่อไป

ที่มา : www.thaigov.go.th

อ่านข่าว เศรษฐกิจทั่วไทย ทั้งหมด ได้ที่นี่

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...