โชค(ไม่)ดีตั้งแต่ต้นปี!
เริ่มต้นศักราชใหม่..
ตั้งใจว่าจะไม่เขียนในเรื่องที่ไม่ดี-ไม่เป็นมงคล เพื่อให้ทั้งจิตใจตัวเองและท่านผู้อ่านไม่ขุ่นมัวเสียแต่วันแรกของปี 2569
แต่..ก็มีเหตุที่จะต้องให้เขียน-ให้พูด เพราะหากแกล้งทำเอาหูไปนา-เอาตาไปไร่ ก็อาจจะถูกตำหนิว่า พอเป็นคนในวงการบันเทิงด้วยกันทำเรื่องเสื่อมเสีย..
หรือพูดอย่างภาษาชาวบ้าน “เรื่องเหี้..” ขึ้นมา ก็นิ่งเฉย ไม่พูด-ไม่วิจารณ์แต่อย่างใด!
ฉะนั้น..เพื่อไม่ให้ถูกตำหนิ และตัวเองก็ไม่ต้องเสียความตั้งใจ พอดีได้เห็นข้อความของคุณเนเน่-รัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี ที่โพสต์ และตรงกับใจตัวเอง
ก็เลยขออาศัย-ขออนุญาตนำมาลงในคอลัมน์ตรงนี้ ให้คนที่ไม่ได้ผ่านตาได้อ่านกัน.. “ปัญหาไม่ใช่ คำว่า เ◌ี่ยน… แต่มันคือคุณคิดไม่ได้
#อ่านให้จบ ไม่ได้เกาะกระแส แต่หลังจากรับฟังคลิปชี้แจงและคำขอโทษของคุณโดม ดิฉันกลับรู้สึกคาใจอยู่ 2 ประเด็น
#หนึ่ง ไม่ว่าผู้หญิงในภาพจะเป็นใคร เป็นสามัญชน เป็นนักแสดง เป็นพริตตี้ เป็น sex worker หรือเป็นลูกหลานนักการเมือง
ทุกคนล้วนมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เท่าเทียมกัน และสมควรได้รับความเคารพอย่างเท่าเทียมกันค่ะ
การที่คุณโดมอธิบายว่า การพูดคุยในลักษณะนี้เป็นเรื่องปกติในกลุ่มเพื่อน และที่ชี้แจงว่า “ไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร” จึงทำให้เรื่องบานปลาย…
สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงทัศนคติที่น่าทบทวน เพราะความเคารพไม่ควรถูกผูกไว้กับสถานะ อำนาจ หรือความสัมพันธ์ทางสังคมของใครบางคน
ไม่ใช่ว่าเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายเป็น “ลูกของผู้ใหญ่” แล้วจึงค่อยตระหนักถึงความไม่เหมาะสม ดิฉันขอย้ำหลักการเดิมว่า “ทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย มีคุณค่าและศักดิ์ศรีที่คู่ควรได้รับความเคารพ” อย่างเท่าเทียมกันค่ะ
ในประเด็นเรื่องสิทธิตรงนี้… ขอเสริมไปถึงอีกกรณีหนึ่ง ที่มีนักวิชาการที่เอาเรื่องราว แหล่งกำเนิดของผู้หญิงบางคนมาใช้เป็นเครื่องมือในการวิพากษ์วิจารณ์
ดิฉันไม่สนใจว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นนักการเมืองจากพรรคใด หรือมีจุดยืนตรงกับดิฉันหรือไม่ …แต่ดิฉันยึดหลักเดียวกัน
คือ หากท่านจะตำหนิใคร ควรตำหนิจาก “การกระทำที่ผิด” ไม่ใช่การดูหมิ่นเกียรติหรือศักดิ์ศรีจากสิ่งที่เขาไม่ได้ทำผิด
ด้วยความเคารพที่ดิฉันมีให้ท่านเสมอมา… เราไม่ควรใช้ “สิทธิของตน” ไปลดทอน “สิทธิของผู้อื่น” ดิฉันไม่อยากเห็นท่านทำพฤติกรรมที่ไม่ต่างจากที่เขาทำค่ะ
ดิฉันเองก็รับไม่ได้กับพฤติกรรมของเขาที่อ้าง "สิทธิในการแสดงออก" มาว่าร้าย ทำร้าย ลดทอน สถาบันอันเป็นที่รักและเป็นศูนย์รวมของศรัทธาของพวกเราปวงชนชาวไทย
แต่เราต้องไม่ลดตนเองไปมีพฤติกรรมที่ไม่ต่างจากสิ่งที่เรากำลังวิพากษ์วิจารณ์อยู่ค่ะ
#สอง การที่คุณโดมกล่าวว่า “อย่าดึงผมไปเกี่ยวกับการเมือง ผมอยู่วงการบันเทิง ไม่เคยสนใจ และไม่รู้เรื่องจริงๆ” สะท้อนความเข้าใจต่อคำว่า “การเมือง” ที่น่าเป็นห่วง …
หลายคนอาจมีทัศนคติไม่ดีเกี่ยวกับการเมือง แต่การเมืองเป็นมากกว่านั้น มันคือเรื่องของการต่อสู้เพื่อเปลี่ยนแปลงสังคม ประเทศ และโครงสร้างที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของทุกคน
รวมถึงเรื่องของสิทธิ ความเท่าเทียม และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ด้วยค่ะ
การที่คุณมองว่าการเมืองเป็นเรื่องไกลตัว ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ว่า มันทำให้คุณไม่รู้ว่าใครเป็นใคร …
แต่คือการที่มันทำให้คุณ ไม่รู้ว่าสังคมควรก้าวไปทางไหน และเหตุใดแนวคิดบางอย่างจึงไม่สอดคล้องกับโลกปัจจุบันและกฎหมายที่กำลังพัฒนาไป
ในความเป็นจริงแล้ว นักร้อง นักแสดง นักการเมือง ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก …เราล้วนเป็นบุคคลสาธารณะ และเป็นผู้นำทางความคิดในระดับหนึ่ง
การมีชื่อเสียงย่อมมาพร้อมอิทธิพลต่อทัศนคติ ค่านิยม และพฤติกรรมของสังคม โดยเฉพาะต่อเยาวชน จึงปฏิเสธความรับผิดชอบในบทบาทนี้ไม่ได้
With great power comes great responsibility พลังอันยิ่งใหญ่ ย่อมมาพร้อมกับความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่
ดิฉันสนับสนุนให้มีการดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมาย ภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้องฉบับใหม่ …ไม่ใช่เพื่อกลั่นแกล้งหรือทำลายใคร แต่เพื่อย้ำเตือนสังคมว่า
เสรีภาพในการแสดงออก ต้องมาพร้อมกับความรับผิดชอบและวิจารณญาณ การบังคับใช้กฎหมายอย่างเหมาะสม คือการสร้างมาตรฐานทางสังคมที่เคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
และเป็นหลักประกันว่า “พื้นที่สาธารณะ” จะปลอดภัยสำหรับทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย อย่างเท่าเทียมกัน
ผลิตโดย นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี 67 ถ.เศรษฐศิริ แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร 10400 จำนวน 1 ชุด ตามวันเวลาที่ปรากฏ ที่ส่งมาในครั้งนี้”
ครับ..ก็ตามนี้..โชค (ไม่) ดีตั้งแต่ต้นปีเลยนะ “นายโดม-ปกรณ์ ลัม”!.
สันต์ สะตอแมน