โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

บันเทิง

เคลียร์ดราม่า "หมอมุกกินเค้ก" ยกมือไหว้ขอโทษ ยัน! เจตนาสุจริตทุกคอนเทนต์

คมชัดลึกออนไลน์

อัพเดต 16 พ.ย. เวลา 18.05 น. • เผยแพร่ 17 พ.ย. เวลา 00.46 น.

หลังจากที่เผชิญกับกระแสดราม่าอย่างหนักในโลกโซเชียลมีเดีย ล่าสุด "หมอมุกกินเค้ก" แพทย์และอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง ได้ออกมาเคลื่อนไหวเป็นครั้งแรก ด้วยการเผยแพร่คลิปวิดีโอเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อประเด็นต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งยืนยันถึงเจตนาที่บริสุทธิ์ในการทำคอนเทนต์ที่ผ่านมา หมอมุกได้เริ่มต้นกล่าวด้วยถ้อยคำที่แสดงความสำนึกผิดอย่างจริงใจว่า “ก่อนอื่น มุกขอโทษถึงประเด็นต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ขอโทษทุกคนที่ทำให้เสียความรู้สึกที่มีต่อมุกนะคะ”

การเคลื่อนไหวในครั้งนี้ เป็นการตอบโต้กระแสวิจารณ์เกี่ยวกับการรีวิวและการนำเสนอคอนเทนต์ที่ถูกตั้งคำถามจากสังคม โดยหมอมุกได้ชี้แจงถึงเบื้องหลังการทำงานว่า

"ตลอดเวลาที่ผ่านมา เจตนาในการรีวิว การทำคอนเทนต์ของมุก เป็นการรีวิวจากการใช้ชีวิตประจำวัน เป็นประสบการณ์ที่มุกกับคุณแม่ได้พบเจอ ล้วนมาจากเจตนาและการกระทำที่สุจริต ไม่เคยมีเจตนามุ่งร้ายต่อบุคคลใด"

อย่างไรก็ตาม หมอมุกยอมรับว่า แม้จะมีเจตนาที่ดี แต่ก็อาจเกิดข้อผิดพลาดในการสื่อสารได้"การรีวิวของมุก เป็นเพียงความคิดเห็นในฐานะผู้บริโภค ผู้ซื้อสินค้า และผู้รับบริการ ซึ่งบางคำพูดอาจทำให้เกิดการสื่อสารคลาดเคลื่อน เกิดความไม่สบายใจ กระทบต่อความรู้สึกของบุคคลอื่น แต่มุกยืนยันว่า มีเจตนาที่สุจริต ไม่มีเจตนาทำให้ใครเสียหาย"

ท้ายที่สุด หมอมุกได้กล่าวแสดงความขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้กำลังใจและคำติชม“มุกอยากขอโทษทุกคนจากใจจริง ๆ ค่ะ ช่วงที่ผ่านมา มุกขอบคุณทุกกำลังใจ ทุกคำแนะนำ ทุกคำติชม มุกได้อ่านทุกข้อความ ทุกคอมเมนต์” พร้อมทั้งให้คำมั่นสัญญาว่าจะนำเหตุการณ์นี้ไปปรับปรุงตัว

“มุกขอน้อมรับไว้ทั้งหมด และจะนำเหตุการณ์นี้เป็นบทเรียนสำคัญ ในการปรับปรุงตัวเอง เพื่อพัฒนาให้เป็นคนที่ดีขึ้นต่อไปค่ะ”

การออกมาขอโทษและยืนยันเจตนาสุจริตครั้งนี้ ถือเป็นการปิดฉากดราม่าร้อนที่ยืดเยื้อมานาน และเป็นสัญญาณการเริ่มต้นใหม่ของหมอมุกในการปรับปรุงและพัฒนาการทำงานในฐานะอินฟลูเอนเซอร์ต่อไป

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...