“ณัฐพงษ์”น้อมรับผิด ผู้สมัครบางพลัดพัวพันคดีฟอกเงินยาเสพติด
"ณัฐพงษ์"น้อมรับผิด ผู้สมัครบางพลัดพัวพันคดีฟอกเงินยาเสพติด ย้ำไม่ปกป้องพวกพ้อง ถอดชื่อทันทีแม้คดียังไม่ถึงที่สุด มองยกมือโหวต"อนุทิน"เป็นกุญแจเปิดประเทศ รับฉายาสภา"รังหนอนสีเทา" สะท้อนปัญหาทุนเทา เสนอทุกพรรคยึดวาระ "ไม่มีสีเทา"
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน แถลงชี้แจงกรณี นายบุญญฤทธิ์ เรารุ่งโรจน์ ผู้สมัคร สส.เขตบางพลัด กทม. พรรคประชาชน ถูกจับกุมในข้อหาฟอกเงินที่เกี่ยวข้องกับคดียาเสพติด โดยยอมรับว่า เป็นเหตุสุดวิสัย พร้อมแสดงความเสียใจและขอโทษประชาชนอย่างเป็นทางการ ซึ่งพรรคได้ตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของผู้สมัครตามกระบวนการแล้ว แต่ไม่พบความผิด เนื่องจากหมายจับเพิ่งถูกออกเมื่อวันที่ 17 ธ.ค.ที่ผ่านมา หลังจากกระบวนการคัดเลือกเสร็จสิ้น และการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนก็ไม่พบข้อมูลบ่งชี้ความผิด จึงถือเป็นเหตุที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของพรรค
อย่างไรก็ตาม พรรคไม่ได้นำเหตุสุดวิสัยมาเป็นข้ออ้าง และตัดสินใจดำเนินการทันที พร้อมย้ำว่า แม้คดียังไม่ถึงที่สุดตามกระบวนการยุติธรรม แต่พรรคยึดหลักว่ามาตรฐานของนักการเมืองต้องสูงกว่ามาตรฐานทางกฎหมาย เมื่อพบข้อกล่าวหาที่ร้ายแรง จึงสั่งถอดชื่อผู้สมัครออกทันที เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อประชาชน และยืนยันว่าจะไม่ปกป้องพวกพ้องไม่ว่ากรณีใด
สำหรับการส่งผู้สมัครใหม่ในเขตบางพลัด นายณัฐพงษ์ ระบุว่า ยังสามารถดำเนินการตามขั้นตอนของ กกต. ได้ทันเวลา โดยจะคัดเลือกบุคคลที่พรรคและประชาชนมั่นใจว่ามีอุดมการณ์ร่วม และไม่มีประวัติด่างพร้อย พร้อมยอมรับว่าหากติดข้อกฎหมายจนไม่สามารถส่งผู้สมัครได้ ก็ถือเป็นความเสียใจ แต่ต้องยอมรับตามกติกา
นายณัฐพงษ์ ยืนยันว่า เหตุการณ์ดังกล่าวไม่กระทบต่อแคมเปญหลักของพรรค “มีส้มไม่มีเทา” เพราะสิ่งสำคัญไม่ใช่การอ้างว่าปราศจากปัญหา แต่คือการไม่ทนต่อการทุจริต และแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนตั้งแต่วันแรกที่พบปัญหา พร้อมย้อนตั้งคำถามไปยังพรรคการเมืองอื่นว่า หากพบผู้สมัครมีประวัติอาชญากรรม เหตุใดจึงยังคงส่งลงสมัคร ทั้งที่คดียังไม่สิ้นสุด
“พรรคประชาชนแสดงให้เห็นแล้วว่า การเมืองต้องตรงไปตรงมา ไม่กลบเกลื่อน ไม่ปกป้องคนของตัวเอง และความรับผิดชอบต่อประชาชนต้องมาก่อนเสมอ”
ขณะเดียวกัน นายณัฐพงษ์ ยังให้สัมภาษณ์ถึงกรณีสื่อมวลชนตั้งฉายาสภาผู้แทนราษฎรว่า “รังหนอนสีเทา” ว่า ถือเป็นเสียงสะท้อนจากสังคมที่น่ารับฟัง โดยมองว่าสิ่งที่น่ากังวลยิ่งกว่าคือเครือข่ายทุนเทาที่แทรกซึมอยู่ในหลายแวดวง ทั้งภาคธุรกิจ การเมือง และผู้มีอำนาจ ทั้งนี้ หากสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นศูนย์รวมอำนาจของประชาชน ถูกครอบงำด้วยเครือข่ายทุนเทา อาจทำให้ประเทศถึงทางตัน พร้อมเสนอให้การขจัด “สีเทา” เป็นวาระร่วมของทุกพรรคการเมือง ไม่ใช่เฉพาะแคมเปญ “มีส้มไม่มีเทา” ของพรรคประชาชนเท่านั้น
ส่วนเห็นด้วยกับฉายา “รังหนอนสีเทา” หรือไม่ นายณัฐพงษ์ ปฏิเสธแสดงความเห็นโดยตรง พร้อมขอบคุณสื่อที่ช่วยตั้งคำถามต่อสภา และย้ำว่าเป็นสิทธิของทุกคนในการสะท้อนมุมมองทางการเมืองในช่วงเลือกตั้ง
สำหรับกรณีวาทะแห่งปี “เราเลือกคุณอนุทินมา ไม่ได้ให้มาบริหารประเทศแต่ให้มายุบสภา” นายณัฐพงษ์ ชี้แจงว่า พรรคประชาชนลงนามในบันทึกข้อตกลง (MOA) ด้วยเงื่อนไขสำคัญ 2 ประการ คือ การยุบสภา และการเดินหน้าจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แม้ผลลัพธ์จะไม่เป็นไปตามความคาดหวังทั้งหมด แต่ยังถือว่าอย่างน้อยการจัดทำประชามติ 1 คำถามได้เดินหน้าพร้อมกับการเลือกตั้ง
นายณัฐพงษ์ ยังแสดงความเห็นต่อเหตุการณ์ที่พรรคประชาชนโหวตสนับสนุนนายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรี โดยระบุว่า เป็นเหตุการณ์สำคัญในหน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทย และเป็น “กุญแจ” ที่ช่วยปลดล็อกข้อจำกัดทางการเมือง ทำให้ประเทศเดินไปข้างหน้าได้
“อย่างน้อยการเลือกตั้งครั้งหน้า ประเทศไทยได้มีคำถามประชามติเรื่องรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ควบคู่กับการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของทางออกอย่างแท้จริง” พร้อมย้ำว่านี่คือหนึ่งในเหตุการณ์ทางการเมืองที่สำคัญที่สุดของปีนี้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews