งบประมาณทหาร บทบาทบวรเดช กฤดากร ท่าทีต่างประเทศ
บทความพิเศษ
งบประมาณทหาร
บทบาทบวรเดช กฤดากร
ท่าทีต่างประเทศ
เมื่อระบุถึงการวิพากษ์วิจารณ์ “งบประมาณแผ่นดิน” ในกระแสแห่งการ “ดุลยภาพ” ข้าราชการอย่างเข้มข้น Benjamin A. Batson ยกเอาบทบรรณาธิการของ Bangkok Times ฉบับประจำวันที่ 20 สิงหาคม และวันที่ 2 สิงหาคม 1926
บทบรรณาธิการเรื่อง An Old Topic นำบทวิจารณ์เกี่ยวกับกองทัพไทยซึ่ง เขียนโดย H. Cucherousset ในนิตยสารฉบับหนึ่งของต่างประเทศมาอ้างอิง
นั่นคือ ข้อความที่ว่า
“นอกจากอื่นๆ แล้วมีข้อเสนอแนะที่ค่อนข้างทำได้ยากว่า สยามน่าจะมีเหตุผลพอที่จะพิจารณาความเป็นไปได้ว่าวันหนึ่งฝรั่งเศสอาจทำให้ประชาชนในอินโดจีนได้รับเอกราชอย่างสมบูรณ์
เมื่อถึงเวลานั้นก็อาจเกิดสภาพไร้ระเบียบขึ้นในกัมพูชา ลาวหรืออันนัม
ซึ่งจะทำให้ประเทศเพื่อนบ้านของดินแดนที่วุ่นวายเหล่านี้มีเหตุผลพอที่จะเตรียมพร้อมระวังตน”
อันนำไปสู่บทสรุปของ Batson ที่ว่า ด้วยเหตุนี้จึงมีผู้เสนอให้ลดขนาดของกองทัพให้เล็กลงพอเหมาะที่จะจัดการกับความวุ่นวายภายในประเทศ ประหยัดงบประมาณไว้ลงทุน
ในส่วนที่จะเพิ่มผลผลิตได้มากขึ้น
ข้อเสนอแนะ การบริหาร
จาก ฟรานซิส บี. แซร์
ขณะเดียวกัน Batson ก็ประเมินว่า คนไทยหลายคนรู้สึกว่าการจัดตั้งทัพเข้มแข็งจำเป็นต่อเกียรติภูมิของชาติ และกองกำลังที่ส่งไปร่วมรบกับฝรั่งเศสในสงครามโลกครั้งที่หนึ่งทำให้สยามได้รับประโยชน์ทางการเมืองเป็นอย่างมาก
แม้ว่าแทบไม่มีความหมายด้านการสู้รบ
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวซึ่งมีภูมิหลังเกี่ยวข้องกับด้านการทหารจึงมักเห็นใจกองทัพ และไม่เต็มพระทัยให้ตัดงบประมาณทหารอย่างเข้มงวด พระราชหัตถเลขาที่ส่งไปถึง ฟรานซิส บี. แซร์ เมื่อปี 1926
ทรงอธิบายถึงฐานะอันไม่ชัดเจนของพระองค์ว่า
“ปัญหาสำคัญอย่างหนึ่งก็คือ การแบ่งสรรทรัพยากรที่มีอยู่ให้แก่กระทรวงต่างๆ ให้ได้อย่างเหมาะสมได้อย่างไร
ข้าพเจ้ารู้ว่าตามความเห็นของท่าน เราใช้จ่ายด้านการทหารมากเกินไป
ข้าพเจ้าค่อนข้างเห็นด้วยกับท่านในแง่นี้ แต่การตัดงบประมาณด้านการทหารเป็นความรับผิดชอบที่หนักหนาสาหัสทีเดียว น้อยคนที่จะกล้าพูดถึงเรื่องนี้เพราะเรามีประสบการณ์มากเกี่ยวกับนโยบายอันธพาลของประเทศเพื่อนบ้าน”
มาถึงตรงนี้ Batson ได้ทำเชิงอรรถเสริมขึ้นว่า
หม่อมเจ้าบวรเดชในฐานะเสนาบดีกระทรวงกลาโหมเป็นตัวตั้งตัวตีเสนอเพิ่มงบประมาณของกองทัพ
และครั้งหนึ่ง เคยเสนอว่ากองทัพสยามน่าจะเตรียมตัวให้พร้อมเสมือนว่าสยามกำลังทำสงครามกับจีน (กจช. สบ.2.42/270)
การขยายกำลังทหาร
มุมมองต่างประเทศ
มาตรการเข้มงวดทางเศรษฐกิจที่จะรักษาดุลงบประมาณนำไปสู่อันตรายทางการเมืองที่อาจเป็นไปได้ โดย Batson ระบุว่า นักเขียนในหนังสือพิมพ์สิงคโปร์บรรยายโครงการตัดทอนงบประมาณรายจ่าย
นั่นคือ หนังสือพิมพ์ Singapore Free Press ซึ่งหนังสือพิมพ์ Bangkok Times คัดมาลงไว้ในฉบับวันที่ 15 เมษายน 1926
โดย Batson ยืนยันผ่านเชิงอรรถว่า
อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนคิดว่า “เพื่อนชาวสยามของเรามีทัศนะที่หม่นหมอง แต่เขาควรรู้ว่าการจงรักภักดีต่อราชบัลลังก์อย่างเหนียวแน่น และการรังเกียจบางสิ่งบางอย่างเช่นการปฏิวัติ เป็นลักษณะตามแบบฉบับของชาวสยาม”
ตามด้วยสิ่งที่ Singapore Free Press บอกว่าเป็นทัศนะของชาวไทยระดับนำผู้หนึ่ง
“แล้วคนอีกมากมายที่มีการศึกษาล่ะ
พูดง่ายๆ การกำจัดคนพวกนี้จะไม่มีอันตรายเลยรึ…..ผมไม่ได้พูดว่าเหตุร้ายกำลังจะเกิดขึ้น แต่คุณคิดไหมว่าคนเป็นหมื่นๆ ที่ถูกให้ออกจากงาน มีรายได้เล็กน้อยอย่างหมดความหวังนั้นเป็นคนมีการศึกษา
พวกเขามีโอกาสก่อการปฏิวัติได้ทั้งนั้น และพวกเขาก็หาพวกได้ด้วย ถ้าเขารวมตัวกันได้-อะไรจะเกิดขึ้น”
Batson ระบุในเชิงอรรถเดียวกันนี้ว่า ปกติหนังสือพิมพ์ Bangkok Times ไม่ค่อยวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล แต่มักนำบทวิจารณ์หรือประเด็นขัดแย้งต่างๆ จากหนังสือพิมพ์ต่างประเทศมาตีพิมพ์ซ้ำ ซึ่งบางกรณีอาจเป็นการแสดงถึงทัศนะที่แท้จริงของหนังสือพิมพ์ฉบับนั้นก็ได้
ข้อมูลทำนองนี้ส่วนใหญ่ได้จากหนังสือพิมพ์ในสิงคโปร์หรือปีนัง ซึ่งหนังสือพิมพ์ส่วนใหญ่มักต่อต้านไทย
Batson ระบุต่อไปว่า หลายคนมองว่านี่เป็นการกลัวจนเกินเหตุ และก็มองกันว่านโยบายเศรษฐกิจและการเมืองในรัฐบาลใหม่นี้มีประสิทธิภาพได้รับความสำเร็จ ไม่ว่าในสายตาของชาวสยามเองหรือชาวต่างชาติ
จากนั้นก็อ้างอิงเนื้อหาจากหนังสือพิมพ์ Bangkok Times ฉบับประจำวันที่ 7 may 1927 มาเป็นตัวอย่างให้รับรู้ว่า หนังสือพิมพ์ฝรั่งเศสยกสยามเป็นตัวอย่างประเทศที่ “ตัดทอนรายจ่าย” ได้โดยไม่มีการปฏิวัติหรือเผชิญปัญหาวิกฤต
ส่วนชาวอังกฤษที่วิพากษ์วิจารณ์เหตุการณ์ปลายรัชกาลที่ 6 ดังที่ปรากฏใน GB, F 78/78/40, 3 December 1925, Greg to Chamberlain
ก็สรรเสริญกษัตริย์พระองค์ใหม่และการเปลี่ยนแปลงนโยบายอย่างรอบด้าน-ซึ่งอาจเปรียบได้ว่าเป็น “ย้อนยุคแผ่นดินของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว”
การถือคติ “การกลับคืนสู่จุฬาลงกรณ์” อยู่ที่นโยบายเศรษฐกิจของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เพราะพระองค์ทรงเชื่อมั่นพระบรมวงศานุวงศ์
รวมทั้ง-พระองค์ทรงรับสั่งเอง-ว่าการเลือกอภิรัฐมนตรี
“พิจารณาจากประสบการณ์ที่ผ่านมาเกี่ยวกับหน้าที่ความรับผิดชอบตั้งแต่รัชสมัยพระบิดาของข้าพเจ้า”
สำหรับชาวอังกฤษแล้ว อย่างน้อยนี่ก็เป็นศักดิ์ศรีและเกียรติยศของราชสำนัก
ต้นปี 1926 ทูตอังกฤษสรุปเกี่ยวกับรัชกาลใหม่ผ่าน GB, F 847/78/40, 29 January 1926, Greg to Chamberlain ว่า
“สิ่งที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงดำเนินการคือด้านเศรษฐกิจ
ความเรียบง่ายและการเข้าถึงองค์พระเจ้าแผ่นดินได้ง่าย พระราชประสงค์ของพระองค์คือ หวนกลับไปสู่ยุคทองในสมัยพระราชบิดาของพระองค์ คือพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวให้มากที่สุด
ทั้งๆ ที่ดูเหมือนว่า พระองค์โปรดพระเชษฐาธิราชที่เพิ่งสวรรคตไป
แต่สิ่งที่พระองค์ทรงรับสั่งและกระทำตรงข้ามอย่างสิ้นเชิงกับสิ่งที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงรับสั่งและกระทำ”
บทสรุปเช่นนี้ของทูตอังกฤษน่าศึกษาและน่าทำความเข้าใจอย่างเป็นพิเศษ Batson เองไม่เพียงขยายบทสรุปในลักษณะนี้ผ่านเชิงอรรถอย่างค่อนข้างยาวเหยียด
หากยังเป็น “ประเด็น” สำคัญในการทำการศึกษา ค้นหาข้อมูลและองค์ประกอบตามมาอย่างจริงจัง
ทิศทางการศึกษาของ Batson ทรงความหมายเป็นอย่างสูง
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : งบประมาณทหาร บทบาทบวรเดช กฤดากร ท่าทีต่างประเทศ
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th/weekly