โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ต่างประเทศ

เปิดผลวิจัย 5 ประเทศที่ “หลงตัวเอง” สูงที่สุดในโลก เอเชียมาแรงมาก

sanook.com

เผยแพร่ 9 ชั่วโมงที่ผ่านมา • Sanook
ผลวิจัยด้านบุคลิกภาพ เปิดชื่อ 5 ประเทศที่ “หลงตัวเอง” สูงที่สุดในโลก เอเชียมาแรงมาก

ผลวิจัยด้านบุคลิกภาพ เปิดชื่อ 5 ประเทศที่ “หลงตัวเอง” สูงที่สุดในโลก เอเชียมาแรงมาก

เมื่อพูดถึง"ความหลงตัวเอง" (Narcissism) หลายคนมักนึกถึงภาพของคนรุ่นใหม่ หรือกลุ่มคนที่ทำงานในวงการบันเทิงและธุรกิจที่ต้องใช้ความมั่นใจสูง ล่าสุดนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยมิชิแกนสเตต (Michigan State University) ได้ทำการศึกษาเจาะลึกในหัวข้อนี้ และพบว่าความหลงตัวเองเป็นลักษณะพื้นฐานของมนุษย์ที่มีรูปแบบคล้ายคลึงกันทั่วโลก

การศึกษานี้ถือเป็นหนึ่งในงานวิจัยด้านบุคลิกภาพที่ใหญ่ที่สุด โดยเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างกว่า 45,000 คน ใน 53 พื้นที่ทั่วโลก เพื่อวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างความหลงตัวเองกับปัจจัยต่างๆ เช่น อายุ เพศ วัฒนธรรม และสภาพเศรษฐกิจ

5 อันดับประเทศที่ "หลงตัวเอง" สูงที่สุด

ผลการวิจัยได้จัดอันดับประเทศที่มีคะแนนความหลงตัวเอง (Narcissism) โดยเฉลี่ยสูงที่สุด ซึ่งประกอบไปด้วยประเทศจากหลากหลายทวีป ดังนี้:

  • เยอรมนี
  • อิรัก
  • จีน
  • เนปาล
  • เกาหลีใต้

ในทางตรงกันข้าม ประเทศที่มีคะแนนความหลงตัวเอง ต่ำที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ เซอร์เบีย, ไอร์แลนด์, สหราชอาณาจักร, เนเธอร์แลนด์ และเดนมาร์ก ซึ่งผลลัพธ์นี้สร้างความประหลาดใจเล็กน้อยที่ประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา ไม่ได้ติดอยู่ในกลุ่มผู้นำด้านความหลงตัวเองอย่างที่หลายคนคาดคิด

คนอายุน้อย "หลงตัวเอง" มากกว่าคนแก่ จริงหรือ?

สิ่งที่น่าสนใจจากการศึกษานี้คือ การค้นพบรูปแบบที่เหมือนกันทั่วโลก ไม่ว่าจะอยู่ในวัฒนธรรมแบบไหน นั่นคือ "คนอายุน้อยมักจะหลงตัวเองมากกว่าคนอายุเยอะ" และโดยเฉลี่ยแล้ว ผู้ชายมีแนวโน้มที่จะหลงตัวเองมากกว่าผู้หญิง

วิลเลียม โชปิก (William Chopik) หนึ่งในทีมวิจัยระบุว่า แม้ผู้คนในประเทศที่มี GDP สูงจะมีแนวโน้มหลงตัวเองมากกว่า แต่ปัจจัยเรื่อง "ช่วงวัย" กลับมีอิทธิพลมากกว่าเชื้อชาติ นั่นหมายความว่าการเป็นวัยรุ่นหรือคนหนุ่มสาว มักมาคู่กับการโฟกัสที่ตัวเองและความเชื่อมั่นในตนเองที่สูงกว่าความเป็นจริงเสมอ

วัฒนธรรมอาจไม่ได้มีผลมากอย่างที่คิด

เดิมทีเรามักเชื่อว่าวัฒนธรรมแบบ "ปัจเจกนิยม" (เน้นตัวเอง) กับ "พหุนิยม" (เน้นส่วนรวม) มีผลต่อระดับความหลงตัวเอง แต่การศึกษานี้ชี้ให้เห็นว่า แม้แต่ในประเทศที่เน้นการอยู่ร่วมกันเป็นกลุ่ม (เช่น จีน หรือ เกาหลีใต้) ก็ไม่ได้ช่วยยับยั้งพฤติกรรมยึดตัวเองเป็นศูนย์กลางได้

บทสรุป

งานวิจัยนี้สะท้อนให้เห็นว่า "ความหลงตัวเอง" อาจเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเติบโตทางชีวภาพมากกว่าผลพวงทางวัฒนธรรม การที่คนรุ่นใหม่มีความมั่นใจในตัวเองสูงถือเป็นเรื่องปกติของช่วงวัย และเมื่อเติบโตขึ้น มุมมองที่มีต่อโลกและคนรอบข้างก็จะเปลี่ยนแปลงไปตามวุฒิภาวะ

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...