ชี้เป้า 6 กอง EFT น่าลงทุน รับกระแส AI ทั่วโลก
ในปัจจุบันทั่วโลกพูดถึงเทรนด์ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ที่กำลังมาแรง ซึ่งกระแสนี้มีโอกาสเปลี่ยนโลกและส่งผลดีต่อธุรกิจมากมายนอกเหนือจากธุรกิจ AI โดยตรง ไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจให้บริการด้านซอฟต์แวร์และ IT ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน หรือ ธุรกิจชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์
เนื่องจากเรายังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของเทรนด์ AI การชี้เป้าว่าบริษัทไหนจะได้เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมนี้ หรือได้รับประโยชน์สูงสุดคงทำได้ค่อนข้างยาก ดังนั้นการลงทุนใน AI ETF หรือ กองทุนที่ลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการวิจัย การพัฒนา และการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ จึงเป็นหนึ่งในทางเลือกที่จะช่วยให้นักลงทุนได้เก็บเกี่ยวประโยชน์จากอุตสาหกรรม AI โดยรวมที่เติบโตขึ้น
ซึ่งในบทความนี้ Wealthy Thai จะชวนนักลงทุนมาทำความรู้จักกับ 6 AI ETF ที่โดดเด่นตามรายงานจากสำนักข่าว U.S. News & World Report กัน
1.Xtrackers Artificial Intelligence and Big Data ETF (XAIX)
จุดเด่นของ XAIX คือการที่กองทุนคัดเลือกบริษัทโดยการพิจารณาแนวโน้มธุรกิจในอนาคตมากกว่าการดูสถิติในอดีตเป็นหลักเหมือนอย่างที่กองทุนส่วนใหญ่ทำกัน โดย XAIX มองหาบริษัทที่มีการจดสิทธิบัตรในสาขาที่เกี่ยวข้องกับ AI เช่น การเรียนรู้เชิงลึก (deep learning) การจดจำเสียงหรือรูปภาพ หรือ การประมวลผลภาษาธรรมชาติหรือ (natural language processing) ในปัจจุบันกองทุนมีมูลค่าสินทรัพย์มากกว่า 3,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และมีอัตราส่วนค่าใช้จ่าย (expense ratio) ที่ 0.35%
2.Roundhill Generative AI & Technology ETF (CHAT)
CHAT เน้นลงทุนในบริษัทที่มีโอกาสจาก Generative AI สูง โดยคัดเลือกจากความเชื่อมโยงที่มีกับเทรนด์ Generative AI มูลค่าตามราคาตลาด และ สภาพคล่อง ของบริษัท ทั้งนี้ คุณ Dave Mazzy CEO ของกองทุนมองว่า Generative AI เป็นกระแสที่น่าตื่นเต้นเพราะมันมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนวิถีชีวิตและการทำงานของผู้คนได้อย่างกว้างขวาง จึงเป็นโอกาสที่ดีในการลงทุน ในปัจจุบัน CHAT มี expense ratio อยู่ที่ 0.75%
3.Invesco AI and Next Gen Software ETF (IGPT)
IGPT เป็นกองทุนที่ลงทุนตามดัชนี STOXX World AC NexGen Software Development Index ซึ่งเป็นดัชนีที่รวมบริษัท 100 แห่งทั่วโลกที่สร้างรายได้จาก AI และซอฟต์แวร์ เช่น การเก็บข้อมูล การผลิตหุ่นยนต์ การผลิตยานพาหนะที่ขับเคลื่อนเอง การผลิตเซมิคอนดักเตอร์ หรือ การให้บริการแพล็ตฟอร์มเว็บไซต์ต่างๆ โดยหุ้นที่กองทุนถือหลักๆได้แก่ Meta (META) Alphabet (GOOGL) และ Nvidia (NVDA) และ expense ratio ของกองทุนอยู่ที่ 0.6%
4.Global X Artificial Intelligence & Technology ETF (AIQ)
AIQ รวบรวมหุ้นหลากหลายตัวในห่วงโซ่อุปทาน AI จึงทำให้มันมีความคล้ายคลึงกับดัชนี Nasdaq-100 ที่ตัดหุ้นที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับ AI อย่างเช่น PepsiCo. (PEP) ออกไป โดยกองทุนนี้มีการลงทุนในหุ้นของ 84 บริษัทที่โดดเด่นจากทั่วโลก เช่น Alibaba Group Holdings (BABA) Oracle (ORCL) Meta (META) Cisco Systems (CSCO) และ ServiceNow (NOW) และ expense ratio อยู่ที่ 0.68%
5.Global X Robotics & Artificial Intelligence ETF (BOTZ)
BOTZ เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นบริษัทพัฒนาหุ่นยนต์และแอพพลิเคชั่น AI รวมถึงบริษัทอื่นๆที่ใช้ผลิตภัณฑ์และบริการจากบริษัทเหล่านี้ด้วย ซึ่งกองทุนนี้มีสัดส่วนของหุ้นบริษัทสหรัฐฯ ที่ราวๆ 49% และ 31% เป็นของหุ้นบริษัทญี่ปุ่นในภาคอุตสาหกรรม โดย expense ratio ของกองทุนอยู่ที่ 0.68%
6.REX AI Equity Premium Income ETF (AIPI)
โดยปกติแล้ว บริษัท AI มักจะไม่จ่ายเงินปันผลเพื่อนำกระแสเงินตรงนั้นไปลงทุนใน R&D แทน ซึ่งนักลงทุนที่อยากทำรายได้จากการลงทุนในบริษัท AI ก็มักจะขาย covered call option หรือสิทธิ์ในการให้คนอื่นซื้อหุ้นที่เราถือในราคาที่กำหนด (strike price) ในระยะเวลาที่กำหนด นี่จะทำให้ผู้ขายได้รับค่าพรีเมียมไม่ว่าผู้ซื้อจะใช้สิทธิ์หรือไม่ได้ใช้สิทธิ์จนหมดเวลา
นี่ก็ทำให้กองทุน AIPI มีความโดดเด่น เพราะเป็นกองทุนที่ขาย covered call option สำหรับหุ้น AI ทุกตัวในกองทุน จึงทำให้นักลงทุนที่ซื้อกองทุนนี้ได้รับกระแสรายได้จากอุตสาหกรรม AI โดยที่ผ่านมา กองทุนมีอัตราการจ่ายเงินอยู่ที่ 34.8% ของมูลค่าสินทรัพย์ทั้งหมดในเดือนกันยายน
Source: https://money.usnews.com/investing/articles/best-ai-etfs-to-buy